เพียงแค่ใจ
ไม่แตกต่าง
4
วันจันทร์
นารามายืนกระสับกระส่ายอยู่หน้าตึกเรียนของคณะบริหารธุรกิจอย่างกังวล หญิงสาวผวาทุกครั้งที่มีเงาคนวอบแวบลงมาจากตึก ก่อนจะถอนหายใจเมื่อเห็นว่าไม่ใช่คนที่รอ เอกสารปึกใหญ่ที่อยู่ในอ้อมแขนเริ่มจะเปียกชื้นเพราะการกอดแนบอกไว้นาน หญิงสาวเดินวนเวียนอยู่พักใหญ่ เสียงเอะอะของคนกลุ่มใหญ่ก็ดังกระชั้นมาจากตึกเรียน นาราหันไปมองด้วยความดีใจ
และหล่อนก็คาดไม่ผิด
ร่างสูงที่อยู่กลางวงล้อมชะงักทันทีเมื่อเห็นร่างกลมป้อมของคนหน้าตึกเรียน ชายหนุ่มก้มลงกระซิบกับสาวสวยในกลุ่มคนหนึ่ง ก่อนจะซอยเท้าตรงมาที่คนยืนยิ้มตาหยีซึ่งยืนกอดกระดาษปึกใหญ่
ว่าไงจ๊ะ หนูนา ชายหนุ่มทักยิ้ม ๆ
นี่ค่ะ เอกสารที่พี่เลต้องการ หนูนาเสิร์ชหาในเน็ตด้วยนะคะ
แต่
ได้แค่นิดหน่อยเองค่ะ นาราบอกหน้าม่อย พลางยื่นกระดาษปึกใหญ่ให้กับชายหนุ่ม
เนี่ยนะนิดหน่อยของคุณน้องเธอ
ชเลคิดในใจ
ไม่เป็นไรครับแค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว ชายหนุ่มว่าพลางทำหน้าเกรงอกเกรงใจ นารายิ้มปลื้มเปรมจนตาหยีอีกรอบ
เฮ้อ
ได้ข้อมูลมาแล้วก็ไม่รู้ว่าพี่จะทำทันหรือเปล่านะเนี่ย
ส่งวันศุกร์ซะด้วย ยังไม่ได้ประมวลความสำคัญเลย เขาว่าเสียงละห้อย ช่วงนี้แย่หน่อย เจอรายงานสามชิ้นสี่ชิ้น แทบเดี้ยงแน่ะ เขาต่อพร้อมกับทำหน้าละเหี่ย
งั้น
ถ้าพี่เลไม่กลัวว่ารายงานจะสมบูรณ์ไม่เต็มที่
ให้หนูนาช่วยมั้ยคะ นาราถามเบา ๆ หลังจากครุ่นคิดไปพักใหญ่
โอ้ย
อย่าเลยหนูนา แค่นี้พี่ก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว เขาว่าพลางโบกไม้โบกมือวุ่นวาย
ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ หนูนาเต็มใจ
มาค่ะเดี๋ยวหนูนาจะรับเรื่องนี้ไปทำให้
ยังไงหนูนาก็เป็นคนหาข้อมูลรับรองไม่หลงทางหรอกค่ะ พี่เลมีงานส่งทันวันศุกร์แน่ ๆ หนูนาสาบาน นาราว่าพลางแย่งกระดาษปึกใหญ่กลับคืน
แต่ว่า
.
ไม่ต้องแต่ค่ะ
แค่นี้หนูนาว่ายังไม่คุ้มกับที่หนูนาทำมือถือพี่พังด้วยซ้ำ
นะคะ น้ำเสียงอ้อนวอนสุดท้ายทำให้ชเลนึกละอายใจ
ความจริงที่แวบเข้ามาเมื่อแรกเริ่มละลายเมื่อเห็นความจริงใจของหญิงสาวตรงหน้า
ใช่
เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้สนใจเขา เหมือนกับที่ผู้หญิงเกือบทั้งมหาวิทยาลัยรู้สึก
แต่เขากำลังทำร้ายความจริงใจของผู้หญิงที่กำลังยิ้มตาหยีอยู่ด้วยการ
หลอกใช้
พี่ว่า
ชายหนุ่มตัดใจ กะว่าจะปฏิเสธ แต่นาราส่ายหน้าจนพวงผมม้ากระจาย ก่อนจะถอยหลังเดินโบกมือน้อย ๆ พร้อมกับยิ้มกระจ่างใส
เจอกันวันศุกร์นะคะ หล่อนว่าพลางกลับหลังหันเดินจ้ำอ้าว โดยไม่หันกลับมามองหน้าสำนึกผิดของรุ่นพี่ที่หล่อนปลื้มเปรมเลยแม้แต่น้อย
(- -)
จ้า
น้ำล้นอ่างแล้วนะนั่น มัทรีท้วงเบา ๆ แต่กลับทำให้คนถูกทักสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะหันไปกระวีกระวาดจัดการกับน้ำที่ล้นอ่าง
ขอโทษค่ะพี่ซี
จ้าเหม่อไปหน่อย หญิงสาวบอกพร้อมกับยิ้มเซียว ๆ
ไม่หน่อยแล้วมั้ง
จ้าลอยอย่างนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะ
เป็นอะไรไปจ๊ะมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า มัทรีถาม
ถามทั้ง ๆ ที่รู้นี่แหละว่า สาเหตุที่ทำให้จารุภาเหม่อเป็นเพราะอะไร
ก็ตั้งแต่วันที่กรวีร์ หนุ่มหล่อฟ้อเฟี้ยวคนนั้น มาลากลูกน้องหล่อนออกไป เป็นนาน กว่าที่ลูกน้องหล่อนจะเดินหน้าเห่อตาบวมกลับมาเพียงคนเดียว แถมหลังจากวันนั้น ก็ไม่เคยปรากฏร่างของชายหนุ่มคนนั้นอีกเลย
แม้แต่คนปัญญาอ่อนยังดูออก ว่าทั้งคู่ต้องทะเลาะกันแหงม ๆ (แล้วจะถามทำไมยะ)
แต่ที่หล่อนถาม แค่ต้องการให้ลูกน้องของหล่อนได้ระบายอะไรออกมาบ้าง(นี่ไงยะเหตุผล)
เพราะหล่อนเองก็เคยผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้ว หล่อนเข้าใจดีว่า เวลาแบบนี้ ลักษณะอาการแบบนี้ ต้องการคนระบายเป็นที่สุด
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ
แต่ถึงมีก็นิดหน่อย
จ้าคิดว่าจัดการได้ค่ะแค่รอเวลา
ยังไงจ้าขอโทษนะคะ จ้าจะพยายามมีสติมากกว่านี้ค่ะ หญิงสาวบอกเสียงอ่อย ก่อนจะขอตัวไปทำงานต่อ ปล่อยให้เจ้าของร้านสาวยืนถอนหายใจเฮือก ๆ
สงสัยลักษณะอาการที่ว่าข้างต้น
คงเป็นแค่เคสหล่อนเคสเดียวซะละมั้งเนี่ย
เสียงกระดิ่งดังกรุ๋งกริ๋งทุกครั้งที่มีคนเข้าร้าน ทำให้จารุภาอดที่จะหันไปมองไม่ได้ แม้หล่อนจะค่อนข้างแน่ใจว่า ชายหนุ่มคนนั้นอาจจะไม่มาอีกแล้ว
แต่หล่อนก็ยังหวัง
ถึงจะรู้ว่าหวังลม ๆ แล้ง ๆ ก็เถอะ (แหม
คนเราอยู่ได้ด้วยความหวังนี่)
ชายหนุ่มคุ้นหน้าที่อยู่ในชุดนักศึกษา ขยับการเต้นของหัวใจหญิงสาวให้ถี่ขึ้น เมื่อหล่อนคลับคล้ายคลับคลาว่า เป็นคนที่เคยมากับกรวีร์ แม้ว่าชายหนุ่มคนนั้นจะมาพร้อมกับหญิงสาวสวยซึ่งเป็นนักศีกษาเหมือนกัน นั่งลงบนเก้าอี้แล้วก็ตาม จารุภาก็อดไม่ได้ที่จะมองอย่างมีความหวัง
ว่าจะเจอคนที่หัวใจหล่อนร่ำร้องว่าอยากเจอเหลือเกิน
แล้วหล่อนก็ต้องหดคอที่ยืดยาวกลับที่เดิม เมื่อรู้ว่าเสียเวลาเปล่า
เขาคงไม่มา
หญิงสาวคิดเหงา ๆ
จารุภาไม่มีวันรู้ว่า ทันทีที่ชเลหาที่นั่งได้ รอจนเพื่อนสาวนั่งเรียบร้อย ชายหนุ่มก็ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์แล้วโทรออก
พี่วีร์เหรอ
ใช่ถึงแล้ว
อาการเหรอ
โห
คงนึกว่าพี่จะมาด้วยมั้ง คอยืดจนน่าจะไปอยู่กับกะเหรี่ยงคอยาวได้สบายเลย
น่า
อย่าปล่อยให้นางซินรอนานเลยพี่ชาย ไหน ๆ ก็อุตสาห์สืบจนรู้แล้วนี่ว่าเขาไม่มีใคร
ไม่แน่นา
หลังจากนี้เขาอาจจะหมดหวังจริง ๆ แล้วประชดชีวิตด้วยการคบคนอื่นก็ได้
อย่าลืมสิพี่ ความแน่นอนที่สุดคือความไม่แน่นอน
บอกเองนะ แค่นี้แหละ ชเลกดปิดโทรศัพท์ ก่อนจะหันไปมองพนักงานเสิร์ฟหน้าใส ที่เป็นเป้าหมายให้เขาได้มากินข้าวฟรีในวันนี้
ชายหนุ่มหัวเราะน้อย ๆ เมื่อนึกถึงเรื่องราวของพี่ชายร่วมตระกูล
กรวีร์ กิตกรผู้เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ กลับมาตกม้าตายเพียงเพราะพนักงานเสิร์ฟโนเนม ที่มีดีเพียงหน้าตา และสิ่งที่พี่ชายเขาบอก
ความจริงใจ
ที่ในความรู้สึกของเขา มันจับต้องไม่ได้เลยสักนิด
เหอะ
เขาอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง
ความจริงใจจากคนระดับกลางจนเกือบต่ำเนี่ยนะ
คิดจะจับพี่ชายเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ชายหนุ่มคิดพาล ๆ
ถ้าเป็นเขานะ
เขาไม่มีวันเลือกผู้หญิงธรรมดา ทั้งรูปร่างหน้าตาและฐานะอย่างนี้หรอก
ชายหนุ่มคิดหมิ่น ๆ พร้อมกับหันไปมองสาวสวยที่กำลังเลือกรายการอาหารตรงหน้า
ผู้ชายอย่างเขาถ้าจะเลือก
ต้องสมน้ำสมเนื้อทั้งหน้าตา และฐานะ
แม้แต่ผู้หญิงตรงหน้าเขาขณะนี้ รมัณยา ดาวคณะอักษร ที่มีดีกรีเป็นถึงลูกสาวของ ส.ส. พรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง เขายังเห็นว่า
ไม่กิ๊กเลย
ชเลคิดครึ้ม ๆ พลางเคาะโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่เอี่ยมเบา ๆ เมื่อก้มลงมองโทรศัพท์ ใบหน้ากลมใส พร้อมกับรอยยิ้มจนตาหยีของผู้หญิงอีกคนกลับโผล่ขึ้นมาทันที
พร้อมกับความรู้สึกผิดพวยพุ่ง
นี่เขากำลังกลายเป็นผู้ชายเลว ๆ คนหนึ่งที่ใช้หน้าตา และความคลั่งไคล้ของผู้หญิงคนนั้นเป็นเครื่องมือในการสร้างประโยชน์ให้กับตัวเองหรือเปล่านะ
ไม่หรอก
ชายหนุ่มแย้งตัวเอง
อยากโง่มาหลงเราเองนี่ ช่วยไม่ได้
เขาคิดเข้าข้างตัวเอง และพยายามชักจูงตัวเองให้เชื่อตัวเอง(งงมะ)
แม้ว่าในส่วนลึกแล้วจะตรงข้ามกันก็ตาม...
-_-
จากคุณ :
แก้วชิงดวง
- [
12 ก.ค. 48 07:26:01
]