ลมระลอกหยอกล้อช่อน้ำฝน
แล้วรินรวงร่วงหล่นบนพรมหญ้า
ประกายแสงสูรย์ทองสาดส่องมา
กระทบตาตรึกตรองมองความจริง
กังวานแตรดุริยางค์อึ่งอ่างร้อง
เสียงแซ่ซ้องสานสดับบอกสรรพสิ่ง
เสพสังวาส ณ หนทางคนร้างทิ้ง
ตากความนิ่งของน้ำฝนซึ่งคนเมิน
หอมหวนกลิ่นดินคลุ้งฟุ้งสวรรค์
โยงถิ่นฝันฟ้ากว้างสัตว์ห่างเหิน
ชักชวนเทพเปิดทางให้ย่างเดิน
จึงดำเนินมากินดินถิ่นโลกา
เขาดื่มด่ำคร่ำเคร่งเพ่งกสิณ
ตากฝนรินฟุ้งระลอกฝุ่นหมอกฝ้า
กายเปียกชื่นชุ่มฉ่ำหยาดน้ำฟ้า
ม่านมายาตรลบกลิ่นอบอวล
ในระหว่างทวยเทพเสพกามรส
เขาเพ่งหยดน้ำเย็นเป็นส่วนส่วน
ต่อต้านสุขสำเนียงเสียงคร่ำครวญ
ซึ่งก่อกวนอารมณ์ลมหายใจ
จนจิตนิ่งจึงนำกำเนิดเห็น
แจ้งชัดเจนคลายเงื่อนความเคลื่อนไหว
เกิดปัญญารู้เห็นสิ่งเป็นไป
ระหว่างในวงเทพซึ่งเสพกาม
แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 48 15:13:33
แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 48 13:45:40
แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 48 13:38:10
แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 48 13:32:39
จากคุณ :
เชษฐภัทร
- [
12 ก.ค. 48 13:32:00
]