CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    เพียงแค่ใจ...ไม่แตกต่าง (5) จบแล้วค่า

    เพียงแค่ใจ…ไม่แตกต่าง
    5
    “เฮ้ย…ไอ้เล รายงานเรื่องสภาพแวดล้อมกับเศรษฐกิจของแกไปถึงไหนแล้ววะ ส่งวันนี้นะเว้ย” เสียงไม่ค่อยนักที่ดังอ้อมมุมตึกมา ทำให้นาราชะงักเท้าที่กำลังก้าวก่อนจะถอยหลังชนกับผนังตึก เมื่อได้ยินเสียงคุ้นใจดังขึ้น

    “โอ …หายห่วงครับผม…ข้ามีเทพธิดาประจำตัวเว้ย…เนี่ยกำลังรอให้รายงานมาปิ๊งอยู่ตรงหน้าอยู่เนี่ย” ชเลบอกอย่างอวด ๆ นั่นทำให้คนที่กำลังแอบฟังอยู่ถึงกับอมยิ้มแก้มเต่ง พร้อมกับกระชับรายงานเล่มหนาในอ้อมกอดให้แน่นขึ้น…ว้าว…หนูนากลายเป็นเทพธิดาของพี่เลแล้วเหรอเนี่ย

    “โธ่…เลล่ะก็ กี้รู้น้าว่าเลให้น้องหน้าใสตัวกลมบ๊อกคนนั้นเป็นคนทำให้…แล้วอย่างน้องคนนั้นเนี่ย มีอะไรที่พอจะเปรียบว่าเป็นเทพธิดาได้เหรอ อ้วนก็อ้วน หน้าตาก็จืด ๆ “ เสียงสวย ๆ ที่แย้งขึ้นนั้น ทำให้นาราอดที่จะก้มลงมองตัวเองไม่ได้…แถมมองแล้วหล่อนก็เห็นด้วยกับคนชื่อกี้แฮะ…

    “ก็มันสมองไง…เป็นเทพธิดา คิดดูนะ แค่น้องเค้าหาข้อมูลที่บอกว่านิดหน่อยยังหอบมาซะหนาเป็นรีมเลย แล้วคิดดูถ้าเป็นเล่มมันจะเอี้ยดไปด้วยข้อมูลมากขนาดไหน” ชเลพูดต่อ โดยไม่รู้ว่าได้จุดรอยยิ้มสดใสให้กับคนแอบฟังอีกครั้ง…ใช่สิ…ก็หนูนาทุ่มเททำรายงานให้พี่เล ไม่สนใจรายงานของตัวเองจนถูกหักคะแนนเพราะส่งช้า…ฉะนั้นเรื่องข้อมูล..หายห่วง

    “โหย…หลอกเด็กนี่หว่า” หลายเสียงประสานกันขึ้น

    “ช่วยไม่ได้…เด็กอยากมาให้หลอกทำไมล่ะ…” ชเลพูดอย่างไม่ยี่หระ เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดต่อว่า

    ”พูดแล้วก็ตลกว่ะ…คงคิดว่าแค่ทำอะไรให้ข้าแล้วข้าจะแล…เฮ้อ…เด็กหนอเด็ก…คงอ่านการ์ตูนมากไป หรือไม่ก็จมอยู่กับนิทานอย่างซินเดอเรลล่ามากไปหน่อย เหอะ…อย่างนายชเล กิตกรเนี่ยนะ จะไปสนเด็กอ้วน ๆ เตี้ย ๆ แถมหน้าจืด ๆ อย่างที่กี้ว่าน่ะ” ชเลพูดพลางหัวเราะพลาง “เนี่ย ข้าเห็นเก็บเศษมือถือของข้าไปด้วยนะเว้ย สงสัยเก็บไปบูชาแหงม ๆ “

    เขายังพูดต่ออย่างคะนองปาก โดยไม่สังเกตว่า เพื่อนร่วมวงต่างก็เงียบและมองไปยังข้างหลังเขาเป็นจุดเดียว ชเลหัวเราะอย่างพอใจ ก่อนจะเห็นท่าประหลาดของเพื่อนในกลุ่ม ชายหนุ่มหันกลับไปมองยังจุดรวมสายตาช้า ๆ …แล้วหัวใจเขาก็หล่นวูบ

    ร่างกลมป้อม และหน้าซีด ๆ ของนารายืนหอบรายงานที่น่าจะเป็นของเขา นิ่งอึ้งอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ ชเลพรวดพราดลุกขึ้นทันทีเหมือนโดนไฟจี้ ชายหนุ่มปราดเข้าไปหาร่างกลมด้วยแววตาตระหนก

    “หนูนา !”

    นารายิ้มจนตาหยี ก่อนจะยื่นรายงานเล่มหนาใส่มือชายหนุ่ม

    “หนูนาเอารายงานที่รับปากว่าจะทำให้มาส่งค่ะ…พี่เลเปิดดูได้เลยนะ หนูนารับรองว่าเฟอร์เฟคสมคำคุยแน่นอน” หญิงสาวพูดอวด ๆ

    “หนูนา…พี่…เอ่อ…” ชายหนุ่มติดอ่าง…ชนิดไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต นาราเอียงคอมองท่าเอ๋อ ๆ ของชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความสงสัย

    “เป็นอะไรไปคะพี่เล…เอ๊ะ…หรือว่า…หนูนาเอารายงานมาให้ไม่ทันคะ” หญิงสาวทำสีหน้าตกอกตกใจ

    “เปล่า ๆ พี่ยังไม่เข้าเรียนครับ มีเรียนบ่าย” ชายหนุ่มรีบตอบหลังจาก(แอบ)ถอนหายอย่างโล่งอก …หวังว่า หล่อนคงไม่ได้ยินที่เขาพูดเมื่อกี้หรอกนะ…เขาปลอบใจอย่างเข้าข้างตัวเอง

    “เฮ้อ…แล้วไป งั้นหนูนาไปก่อนแล้วนะคะเดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน” นาราว่าพลางยิ้มใส ชเลยิ้มตอบพร้อมกับพยักหน้า หญิงสาวหันกลับเดินไปไม่กี่ก้าวก็ชะงัก ก่อนจะหันกลับมาเหมือนจะนึกอะไรได้

    “อุ้ย…หนูนาลืมคืนของให้พี่เลค่ะ” หล่อนว่าพลางล้วงเข้าไปในกระเป๋าหยิบของยื่นให้ชายหนุ่ม ชเลรับห่อผ้าเช็ดหน้าสีชมพูผืนสวย พลางถามยิ้มๆ

    “อะไรเหรอครับ?”

    “ก็…เศษมือถือของพี่เลน่ะค่ะ…ตอนแรกหนูนาก็กะว่าจะเก็บเอาไว้บูชาเหมือนกันนะคะ เพราะมันส่องประกายสวยชนิดที่มีแค่หนูนาเห็นคนเดียว…แต่ว่า…ตอนนี้มันไม่มีแสงอะไรอย่างที่ว่านั้นแล้วล่ะคะ…เพราะหนูนาเพิ่งรู้ว่า…หนูนาพิเศษไม่พอที่จะเห็นแสงสวย ๆ นั้นเลยแม้แต่น้อย…แหม…หนูนานี่โง้ โง่นะคะ หลงคิดว่ามันน่าทะนุถนอมเสียตั้งนาน…หนูนาขอคืนก็แล้วกันนะคะ…ไปล่ะคะ” นาราบอกพร้อมกับยัดห่อผ้าเช็ดหน้าที่ห่อเศษโทรศัพท์มือถือให้ชายหนุ่ม ก่อนเดินแกมวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว…กว่าชเลจะรู้สึกตัวว่า…ที่เขาคิดปลอบใจเข้าข้างตัวเองเมื่อครู่นี้ผิดถนัด…ร่างกลมป้อมของนาราก็ลับหายไปจากสายตาเสียแล้ว

    -_-‘

    “กลับมาแล้วจ้า…ขอโทษน้า ดึกไปหน่อยพอดีพาคุณวีร์ไปช้อปที่คลองถมน่ะ ได้ของดีมาเพียบเลย เอามาฝากหนูนาด้วยน้า” จารุภาบอกอย่างร่าเริง ก่อนจะสะดุดกึกเมื่อสิ่งที่ได้รับมีเพียงความเงียบ

    “หนูนา เป็นอะไรหรือเปล่า” หล่อนถามเมื่อเห็นว่า นารายังก้มหน้าก้มตาอยู่กับหนังสือเล่มหนา

    “หนูนากำลังคิดว่า…ไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่ เนี่ย…ความจริงมันก็ไม่วิเศษไปกว่าไม้จิ้มฟันเลยเนอะ” หล่อนว่าพลางปิดหนังสือลง จารุภาก้าวเข้าประชิดร่างกลมทันทีเมื่อจับน้ำเสียงได้

    “คนที่เธออดตาหลับขับตานอนทำรายงานให้เขา โดยไม่สนใจตัวเองนั่นใช่มั้ย” เมื่อได้รับการพยักหน้าเป็นคำตอบ หญิงสาวจึงต่อด้วยคำว่า “ไอ้คนไม่มีหัวใจ”

    “ความจริงจะว่าไป พี่เค้าก็ไม่ผิดหรอกนะ…หนูนาเองต่างหาก ที่คิดเข้าข้างตัวเองไปใหญ่โต…หนูนาผิดเองที่ลืมก้มลงมองตัวเอง…หนูนาลืมไปว่าหนูนาเป็นเพียงเลิฟกู๊ดสติเฟื่อง…ไม่ใช่เฮอร์ไมโอนี่อย่างที่เข้าใจ” นาราพูดเศร้า ๆ

    “ใครบอก…หนูนาเป็นได้มากกว่าเฮอร์ไมโอนี่อีกนะ…จ้าจะบอกให้ หนูนาฉลาดกว่าเฮอร์ไมโอนี่ สวยกว่าโชแชง แล้วก็อีกอย่างนะ เลิฟกู๊ดสติเฟื่องน่ะ เค้ามีดีที่จริงใจนะ แถมเป็นคนที่ชอบพูดความจริงด้วย…ถึงไอ้บ้าตัวนั้นมันจะมองไม่เห็น…แต่จ้าเห็นนะ แล้วก็เห็นมาตั้งนานแล้วด้วย” จารุภาบอกอย่างจริงใจ พลางมองหน้ากลม ๆ ของเพื่อนที่ตอนนี้ซีดจนเกือบขาว

    “อยากร้องไห้มั้ย” หล่อนถาม

    “ก็…อยาก” นาราบอกเบา ๆ

    “งั้นก็ร้องสิ”

    “ก็…” นาราเงยหน้ามองเพื่อนดวงตาแดงก่ำ “มันไม่ยอมไหลนี่” หล่อนว่าพลางหัวเราะเฝื่อน ๆ  จารุภาได้แต่โอบศีรษะกลมทุยมากอดไว้กับอกโยกไปมาอย่างเข้าใจ…เจ็บจนน้ำตาไหลย้อนกลับทางเดิมสินะหนูนา…และหญิงสาวทั้งสองคนก็จมอยู่ในท่านั้นเกือบทั้งคืน….

    (_ _)


    “พี่วีร์ รู้ว่าคนกำลังเฮิร์ทอยู่นะ แล้วยังจะหิ้วมารกหูรกตาทำไมเนี่ย” ชเลโวยวายเมื่อ กรวีร์หนีบเขามาเที่ยวสวนสนุกด้วย…เขาไม่ได้โกหกเลยสักนิด…เป็นความจริงที่สุด คนอย่างชเล กิตกรที่ไม่เคยต้องง้อผู้หญิงคนไหน เพราะเขามักจะเป็นฝ่ายเลือกอยู่เสมอ กลับมาตกม้าตายเพราะผู้หญิงธรรมดาที่ไม่เคยอยู่ในสายตาอย่างนาราได้

    ชายหนุ่มคิดอย่างเคือง ๆ (แบบคนหล่อหลงตัวเอง) นี่ขนาดเขาลงทุนไปยืนเฝ้าทั้งหน้าห้องเลคเชอร์ หน้าตึกเรียนของหล่อนก็แล้ว หนูนาคนนั้นก็ยังไม่ยอมคุยกับเขาอยู่ดี…ผู้หญิงใจแข็ง…เห็นหน้าอ่อน ๆ ใส ๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะทิฐิได้ขนาดนี้ …แม้แต่เดินสวนกัน ใกล้ชนิดเขาแทบจะยืนขวางหน้า…ผู้หญิงคนนั้นก็ทำเหมือนว่าเขาไม่มีตัวตน

    จะว่าหล่อนไม่ยอมคุยกับเขาก็ไม่ถูก …ก็เมื่อวานที่เขาไปดักตามปกติ หล่อนเดินมากับหนุ่มหน้าตี๋คุยกันอย่างสนิทสนมมีหัวร่อต่อกระซิกจนน่าหมั่นไส้ เขาเดินไปขวางหน้าพร้อมกับทักขึ้นก่อนว่า

    ‘หวัดดีครับหนูนา’ หล่อนกลับมองหน้าเขาอย่างงง ๆ ก่อนจะปล่อยคำพูดที่ทำให้เขาหน้าหงายว่า

    ‘อ้าว…พี่นั่นเอง…เอ๊…ยังได้เศษมือถือไม่ครบอีกเหรอคะ…หนูรับรองได้เลยนะพี่ว่าไม่ได้ติดอยู่หิ้งพระที่บ้านแน่ ๆ พี่คงต้องไปหาที่อื่นแล้วล่ะค่ะ’ พอหล่อนพูดจบก็หันไปหัวเราะหัวใคร่กับไอ้หนุ่มหน้าตี๋ ก่อนจะเดินกระแทกไหล่เขาจากไป….เอ…อย่างนี้เรียกว่าคุยด้วยได้หรือเปล่าหว่า

    “เออ ก็เพราะรู้ว่าเฮิร์ทไง ถึงพามา บางทีเจออะไรสดใสเหมือนสีของเครื่องเล่นในสวนสนุกเนี่ย อาจทำให้นายรู้สึกดีขึ้นก็ได้” กรวีร์บอก ชเลหันกลับมาจ้องคนพูดอย่างสงสัย ก่อนจะถามว่า

    “นี่ไม่ใช่ไอเดียของพี่แน่ ๆ เลยใช่มั้ย ทั้งคำพูดประหลาด ๆ นั่นด้วย” เขาพูดพลางหรี่ตามอง กรวีร์หัวเราะเบา ๆ

    “ก็เออดิ…เนี่ย ไอเดียของจ้าเค้า พอดีเพื่อนเค้าก็เฮิร์ทเหมือนกัน ก็เลยพากันมาผ่อนคลาย พี่เห็นว่าแกเองก็อาการไม่ต่างจากเพื่อนจ้า นี่พี่ยังคุยกับจ้าเลยนะว่า บางทีแกกับเพื่อนจ้าอาจจะสปาร์คกันก็ได้” ชายหนุ่มพูดติดตลก แต่น้องชายร่วมตระกูลเขาไม่ยักขำแฮะ…

    “โอย…ยากขอรับพี่ชาย ตอนนี้มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละที่จะทำให้ผมสปาร์คได้” เขาบอกอย่างมั่นใจ…ก่อนจะตาเบิกโพลง เมื่อเห็นร่างกลมที่เดินตามหลังจารุภามา…นารา…

    นาราเองก็ตกใจไม่แพ้กัน…หล่อนเข็มขัดสั้น…เอ้ย…คาดไม่ถึงเลยว่า น้องชายของกรวีร์ที่จารุภาอยากแนะนำให้รู้จักนักหนาคือ พี่ชเล…คนที่คำพูดกลายเป็นมีดโกนเชือดหัวใจหล่อนจนขาดกระจุยคนนั้น…

    “นี่ไงหนูนา พี่ชเล น้องร่วมสถาบันกิตกรของคุณวีร์ ที่จ้าเคยเล่าให้ฟังไง” จารุภาหันมาบอกเสียงใส ก่อนจะสะดุดใจเมื่อเห็นหน้าขาว ๆ ของเพื่อนยิ่งดูขาวผิดปกติ และเมื่อหันกลับไปมองอีฝ่ายที่คงอึ้งไม่ต่างกัน ทำให้ความเข้าใจของหล่อนรวมกลุ่มกันเป็นก้อน

    “หนูนาอย่าบอกนะว่า…นายนี่เป็นไอ้งี่เง่าคนนั้น” จารุภาเปลี่ยนสรรพนามจาก ‘พี่ชเล’ เป็น ‘ไอ้งี่เง่า’ ได้ทันควันจนคนโดนกระทบสะดุ้ง ความเงียบและการหลุบตาลงต่ำทำให้คำตอบกระจ่างชัด

    “งั้นเราแยกกันตรงนี้ดีกว่าค่ะ คุณวีร์ เจอกันพรุ่งนี้นะคะ” จารุภาสรุป ก่อนจะหันกลับคว้าแขนเพื่อนเดินออกจากจุดเกิดอึ้ง กรวีร์ที่เพิ่งรู้สึกตัว รีบวิ่งเข้าขวางทันที

    “โว้ว ๆๆๆๆ เดี๋ยวสิจ้า…คุยกันก่อน นี่มันเรื่องอะไรกัน ผมงงไปหมดแล้ว” ชายหนุ่มกางแขนกั้น มองผู้หญิงที่กำลังกุมบังเหียนหัวใจเขาอย่างค้นหาคำตอบ

    “คุณวีร์ยังไม่เข้าใจอีกเหรอค่ะ…ก็…ผู้ชายที่คุณวีร์พามานั่นแหละ คือสาเหตุความเฮิร์ทของหนูนาแหละ” หล่อนว่าเสียงแหลม

    “แล้วจ้ายังไม่เข้าใจอีกเหรอ…ว่าคนที่จ้าพามาด้วยน่ะ คือคนที่ทำให้พี่เฮิร์ทเหมือนกัน” ชเลเอ่ยขึ้น นั่นทำให้นาราหันกลับไปมองด้วยความตระหนก…พี่เล เนี่ยนะ…เฮิร์ทเพราะหมู(น่ารัก)อย่างนารา…โอ…พระเจ้ายอด…ไม่…ไม่ เป็นไปไม่ได้…

    “ขอเคลียร์หน่อยได้มั้ย” ชายหนุ่มว่าพร้อมกับถือวิสาสะคว้าแขนอวบ ลากปราด ๆ ออกจากจุดที่ยืนอยู่ จารุภาจะถลาตาม แต่กรวีร์ไวกว่า ชายหนุ่มคว้าเอวบาง ๆ เข้ามารวบก่อนจะกระซิบริมหูเบา ๆ ว่า

    “ปล่อยให้เค้าเคลียร์กันเองดีกว่า”

    “แต่…จ้าห่วงหนูนานี่คะ…เดี๋ยวไอ้…เอ้ย…พี่ชเลก็พูดจาร้าย ๆ ให้หนูนาเสียใจอีกหรอก” หญิงสาวบอกอย่างเป็นกังวล

    “ผมว่าไม่นะ…ก็อย่างที่ผมบอกไง ไอ้เลมันไม่เคยประหลาดอย่างนี้มาก่อนเลยนะ…บางทีหนูนาคนนั้น อาจจะกำลังกลายเป็นผู้มีอิทธิพลที่กุมอำนาจรัฐชเล เหมือนที่จ้ากุมหัวใจผมอยู่นี่ก็ได้นะ”

    ชายหนุ่มพูดติดตลก หญิงสาวหัวเราะกิ๊ก ก่อนจะรู้สึกตัวว่า ร่างของหล่อนจะถูกฉวยโอกาสมามากพอแล้ว…หญิงสาวใช้ข้อศอกถองกลับ ก่อนจะหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นชายหนุ่มคลายอ้อมกอดก่อนงอตัวแสร้งทำเหมือนเจ็บปวดมาก…เขาหวังว่า คนที่ยืนหัวเราะอยู่จะเข้ามาดูแล …แต่เปล่า เจ้าหล่อนกลับยืนเท้าสะเอวหัวเราะก่อนจะสะบัดหน้าเดินจากไปจนเขาต้องวิ่งตาม…เฮ้อ…แพ้อีกแล้วสิเรา…แต่ก็ยินดีแฮะ…

    ^_^

    จากคุณ : แก้วชิงดวง - [ 13 ก.ค. 48 08:05:52 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป