CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    เรื่องสั้น แล้วแต่จะกรุณา ตอนที่2..จบ

    .....หมอสันต์มองดูภาพหญิงชราที่นอนเฝ้าบุตรชายอยู่บนพื้นห้องข้างเตียงด้วยความรู้สึกอนาถใจ เขาจำเป็นต้องปลุกเธอให้ลุกขึ้นเพื่อเข้าไปตรวจนายสมชาย ยายชมที่ถูกปลุกยกมือไหว้เขาแล้วส่งภาษาพื้นเมืองท่วงวาทีเศร้าสร้อยมีความหมายว่าขอให้ช่วยชีวิตบุตรชายของเธอด้วย
    ..... พยาบาลไม่จำเป็นต้องแปลให้เขาฟัง หมอสันต์เริ่มเข้าใจภาษาท้องถิ่นตั้งแต่ปลายปีแรกที่มาประจำอยู่ที่เมืองนี้ เพียงแต่เขาพูดไม่ได้เท่านั้น เขาพยักหน้าให้ยายชมเพื่อสื่อว่าเขาเข้าใจดี
    ..... “ยายทำไมไม่กลับบ้านไปก่อน ทางนี้หมอจะดูให้เอง ยายนอนอยู่อย่างนี้ลำบากแย่เลย” หมอสันต์ถามยายชมด้วยความเห็นใจ
    ..... “ฉันเป็นห่วงลูก กลัวว่ามันจะลำบาก ฉันอยากให้มันหาย” ยายตอบด้วยภาษาไทยอย่างกระท่อนกระแท่น สายตาฝ้าฟางของยายชมจับจ้องที่ใบหน้าหมอสันต์ ขณะเดียวกันหมอสันต์ก็กำลังสำรวจใบหน้าเธอเช่นกัน เขาเห็นแววตาที่เด็ดเดี่ยวแต่เปี่ยมด้วยความรักของแม่ที่มีต่อบุตร ใบหน้าที่ยับย่นจากริ้วรอยความชราของยายชมแฝงไว้ด้วยเรื่องราวยากลำบากยาวนานตลอดชีวิตของเธอ
    ..... หมอสันต์ขอให้ยายชมพับเสื่อที่ปูนอนก่อนที่จะขยับตัวเข้าไปตรวจสมชาย เขาเกรงว่าพื้นรองเท้าที่เปียกฝนจะทำให้ที่นอนของยายเลอะ ยายชมยิ้มให้เหมือนจะขอบคุณที่เขาเข้าใจ หมอสันต์เหลือบเห็นฟันสีดำเพราะกินหมากของเธอตัดกับริมฝีปากเลอะคราบปูนแดง
    ..... พยาบาลแจ้งให้เขาทราบว่าสมชายพ้นจากภาวะช็อกแล้ว ขณะนี้ได้หยุดให้ยาควบคุมความดันโลหิตมานานประมาณสี่ชั่วโมง แต่ปัญหาสำคัญคือเขายังไม่ได้สติ มีอาการเพ้อและดิ้นรนตลอดเวลาจนสายน้ำเกลือหลุด การหายใจยังล้มเหลวต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ พบเลือดออกมาทางท่อช่วยหายใจแต่ไม่มากเท่าเมื่อวาน แต่ที่สำคัญคือมีภาวะไตวาย ปัสสาวะทั้งเวรออกเพียงห้าสิบซี.ซี.เท่านั้น
    ..... สมชายสงบลงบ้างแล้วหลังจากดิ้นรนต่อต้านมาทั้งคืน ด้วยกำลังของหนุ่มวัยฉกรรจ์ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมัดเขาไว้อย่างแน่นหนา หมอสันต์เปิดเปลือกตาสมชายดู ตาขาวเป็นสีเหลืองเข้ม ลูกตากลอกไปมาอย่างไร้สติ เขาคำนึงว่าอย่างนี้เองที่คนท้องถิ่นในสมัยโบราณบอกว่าผีปอบเข้า เพราะไข้ฉี่หนูที่มีภาวะตับวายและไตวายมักจะมีอาการทางสมองรุนแรงร่วมด้วย หลังจากปรับแต่งเครื่องช่วยหายใจเสร็จ เขาลงมือตรวจร่างกายสมชายโดยละเอียดอีกรอบ
    ..... หมอสันต์เอาหูฟังแพทย์ฟังปอดของสมชายจนทั่ว ต่อมาเขาหันมาบอกกับยายชมว่า
    ..... “ยายครับ ลูกของยายเป็นไข้ฉี่หนู อาการของลูกยายยังหนักอยู่ แต่ก็ดีขึ้นกว่าเมื่อวานแล้ว ตอนนี้ยังพูดไม่รู้เรื่องเพราะว่าสมองยังไม่เป็นปกติ หมอให้การรักษาอย่างเต็มที่เท่าที่ทำได้แล้ว ขอให้อดทนรอไปก่อนนะครับ ถ้าหากว่าวันนี้ไตยังไม่ทำงานบ่ายนี้หมอจะเอาไปฟอกเลือดด้วยไตเทียมให้ครับ หวังว่าพรุ่งนี้อาการคงจะดีขึ้นกว่าเดิมนะครับ” หมอสันต์พูดค่อนข้างตรงไปตรงมาเหมือนกับนิสัยของเขา
    ..... "แล้วแต่คุณหมอจะกรุณาเถอะค่ะ ฉันแก่แล้ว ฉันไม่อยากเห็นลูกชายมาจากไปก่อนฉัน" ยายชมพูดซื่อๆ แต่คำพูดซื่อๆนี่แหละที่มีอานุภาพยิ่งกว่าวาทศิลป์ใดๆ มันเหมือนสัญญาผูกมัดให้หมอสันต์ต้องดูแลสมชายอย่างดีที่สุด ยิ่งมาเห็นน้ำตาที่คลอเบ้าเพราะสุดจะกลั้นของยายชมด้วยแล้ว เขาถึงกับแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เหมือนกัน
    ..... หมอสันต์รู้ดีว่าโอกาสของสมชายมีเพียงครึ่งต่อครึ่งเท่านั้น ถ้ามีเลือดออกในปอดอีกครั้งผู้ป่วยมักจะเสียชีวิต ภาวะเกร็ดเลือดต่ำเป็นสาเหตุทำให้เลือดออก แต่โรงพยาบาลของเขาไม่สามารถหาเกร็ดเลือดมาให้ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้อย่างมากมายในขณะนี้ได้ทัน มันถูกใช้หมดไปแทบจะทันทีที่สกัดออกมาได้ ดังนั้นนอกจากจะดูแลอย่างเต็มที่แล้วเขาก็ยังแอบภาวนาให้สมชายโชคดี
    ..... “เตียงในห้อง ไอ.ซี.ยู.ว่างแล้วยังครับ?” เขาหันกลับมาถามพยาบาล
    ..... “อาจารย์คะ หนูจองให้ตั้งแต่สองวันก่อนแล้วค่ะ เตียงยังเต็มอยู่เลย ตอนนี้เลื่อนขึ้นมาเป็นคิวที่แปดแล้ว ช่วงนี้มีคนไข้หนักมากเหลือเกินค่ะ” พยาบาลบอกเขาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
    ..... แต่หมอสันต์กลับรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง
    ..... “ยังมีผู้ด้อยโอกาสอีกมากที่ยังคงเป็นผู้ด้อยโอกาสต่อไป และคงมีผู้ด้อยโอกาสอีกหลายคนที่กำลังจะหมดโอกาสแล้ว” หมอสันต์คำนึงขึ้นมาด้วยความสลดใจ

    ..... โชคชะตาไม่ได้โหดร้ายต่อยายชมเสมอไป สามวันต่อมาสมชายเริ่มรู้สติ หมอสันต์เอาท่อช่วยหายใจออกให้เมื่อวาน วันนี้สมชายสามารถลุกนั่งบนเตียงได้แล้ว ถึงแม้ว่าไตของเขาจะยังทำงานไม่ปกติแต่ว่ามีน้ำปัสสาวะออกมาเป็นจำนวนมาก มันเป็นสัญญาณว่าไตที่วายกำลังฟื้นตัว
    ..... ยายชมยังคงเฝ้าไข้อย่างทรหด เธออาศัยอาหารที่ทางโรงพยาบาลจัดเลี้ยงผู้ป่วยประทังชีวิต ร่วมสัปดาห์แล้วที่เธอยังไม่ได้กลับบ้าน เธอต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากทั้งกายและใจมานานหลายวัน ในวัยที่เป็นเหมือนไม้ใกล้ฝั่งเช่นนี้เธอกลับยืนหยัดอยู่ได้ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งมั่นคง
    ..... เช้าวันนี้ขณะที่หมอสันต์เข้ามาตรวจผู้ป่วย ยายชมกำลังป้อนข้าวต้มให้บุตรชาย ถึงแม้มือของเธอจะสั่นเพราะความชราแต่เธอก็พยายามควบคุมมันอย่างเต็มที่ แววตาแห่งความปราณีของเธอเป็นเสมือนยาทิพย์ที่ช่วยชโลมจิตใจสมชายให้มีกำลังใจต่อสู้กับโรคร้าย เขาพยายามทานอาหารจนเกือบหมดชาม เธอบรรจงเช็ดปากให้เขาแล้วยกแก้วน้ำให้เขาดื่มด้วยมือที่สั่นเทา สัญชาตญาณแห่งความเป็นแม่ของเธอประเสริฐกว่าสิ่งใดๆ เธอหันมาสบตากับหมอสันต์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแต่มีน้ำตาคลอเบ้า
    ..... ภาพที่ปรากฏแก่สายตาผู้ที่ได้พบเห็นอาจไม่มีความหมายสักเท่าใด แต่สำหรับหมอสันต์แล้วมันทรงคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง ในขณะนี้จิตใจของหมอสันต์และยายชมล้วนมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน ความปิติค่อยๆเอ่อล้นขึ้นมาท้นใจของเขาทั้งสอง เขาจับมือยายชมมากุมไว้เพื่อให้กำลังใจและรู้สึกได้ว่ามือที่เหี่ยวย่นข้างนั้นก็เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณาเช่นกัน

    จากคุณ : ปัญญ์ ปิยะอเนก - [ 14 ก.ค. 48 15:42:14 A:172.19.0.119 X:203.156.50.193 TicketID:104429 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป