ก่อนอื่นกล่าวทักทายสวัสดีเพื่อนๆ ทุกท่านก่อนเลยนะคะ หายไปหลายวัน หลังจากลงเรื่องพลังรักพลัสม่าไป แล้วตามด้วยเรื่องสั้นขัดตาทัพ อย่างสองโจรเจอดี วันนี้นางค์เอาเรื่องสั้นเรื่องใหม่ ที่เพิ่งเขียนเสร็จวันนี้เอง มาลงให้เพื่อนๆ ที่สนใจอ่านค่ะ
กำลังใจจากเพื่อนที่เข้ามาอ่านแล้วลงชื่อไว้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นางค์มีกำลังใจเขียนต่อไป ต้องขอบคุณมากๆ ค่ะ
จดหมายลับ ต.พสุธนต์
@<><><><><><>@
ความมืดยามค่ำคืนกำลังโผล่มาปกคลุมทุกสรรพสิ่งรอบตัว พร้อมกับแสงแห่งวันวานที่โรยราลงไปซึ่งจะกลายเป็นอดีตของอีกวัน ส่วนตัวฉันพร้อมกับเหตุการณ์ปัจจุบันสายตากำลังเพ่งมองออกไปเบื้องหน้า เป้าหมายอยู่ที่ตู้รับจดหมาย
เมื่อวานฉันลงมาซุ่มอยู่ทั้งวัน แต่ไม่เห็นแม้เงาของคนที่เฝ้ารอ พอรุ่งเช้าของอีกวัน สิ่งที่ฉันรอคอยก็มาอยู่ในตู้จดหมายเหมือนเช่นที่เคยเป็นมา ฉันเลยรู้ว่า เขาคนนั้นต้องเอาจดหมายมาแอบใส่ไว้ในเวลากลางคืน จึงเป็นเหตุให้คืนนี้ฉันต้องแอบมาเฝ้าดูอยู่ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน จะอย่างไรเสียวันนี้ต้องได้เจอบุรุษปริศนาคนนั้นเสียที ฉันหมายมั่นอยู่ในใจ
ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด แค่อยากจะเจอเขาคนนั้นซึ่งเป็นกำลังใจให้เรื่อยมาและเงียบๆ โดยไม่เคยเฉยโฉม ไม่ต้องการสิ่งใดเป็นผลตอบแทน ไม่มีอะไรสื่อไปในทางชู้สาว...ปีกว่าแล้ว ที่จดหมายฉบับแล้วฉบับเล่าของเขาหากเอามามัดรวมกันคงได้ปึกใหญ่ ตัวอักษรแสนล้านถ้อยคำเรียบเรียงมาเป็นประโยค ทุกคำคือกำลังใจ แรกๆ ฉันไม่ได้สนใจมากนัก เพียงแค่เก็บเอาไปกองรวมกันตรงมุมห้องเท่านั้น ไม่สนใจใยดีที่จะหยิบมาเปิดอ่านด้วยซ้ำ
แต่แล้ววันหนึ่ง วันที่ฉันหมดเรี่ยวแรง หมดกำลังใจ ฉันเผลอไปหยิบจดหมายเหล่านั้นออกมาอ่าน จากนั้นฉันก็อ่านเรื่อยมา อ่านฉบับย้อนหลังไปแล้วก็รออ่านฉบับใหม่...เวลาไม่แน่นอน ห่างเว้นไม่ซ้ำกัน ระยะหลังมานี่เท่าที่ฉันสังเกตได้ ยามใดฉันทุกข์หรือเศร้า ต้องการใครสักคนมาคอยปลอบโยนหรือรับฟัง จดหมายเหล่านั้นจะมาทุกวันให้ฉันได้เปิดอ่าน เหมือนเขาอ่านใจฉันออกก็ว่าได้ หรือไม่ก็เห็นความเคลื่อนไหวของฉันอยู่ตลอดเวลา
บางฉบับเป็นกลอนเสริมสร้างกำลังใจ ยังจำได้ดีถึงบางตอนอ่านครั้งใดน้ำตาซึมทุกครั้งไปว่า
ยามท้อแท้ เหนื่อยหน่าย อย่าสิ้นหวัง
สร้างพลัง คุ้มกัน อย่าเศร้าหมอง
สร้างชีวิต คุ้มภัย อย่าคะนอง
ไว้สนอง อุ้มบุญ คุณมารดา
เป็นบทเพลงก็มี เป็นกวีก็เคย หรือบางครั้งยังวาดเป็นตัวการ์ตูนน่ารักๆ ฉันยังแอบปลื้มไม่หายกับการ์ตูนที่เขาคนนั้นวาดมาให้ ถึงแม้จะเป็นลายเส้นเรียบง่าย แต่จะเน้นหนักไปในเชิงจินตนาการเพ้อฝันเสียมากกว่า หากฉันไม่เข้าข้างตัวเองมากนัก ในภาพนั้นมีฉันเป็นเจ้าหญิงแสนสวยกำลังทรงม้าอยู่บนลานกว้างท่ามกลางสวนดอกไม้ป่า แต่มีชายคนหนึ่งแอบมองฉันอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่ไกลตาออกไป และดูเหมือนว่าเขาตั้งใจวาดให้ตัวเองเป็นชายคนนั้นที่มีหน้าตาขี้เหร่และต่ำต้อย
หรือแม้แต่ในวันที่ฉันอกหักจากคนรัก ก็ได้จดหมายพวกนี้มาเยียวยา ถ้อยคำผ่านตัวอักษรเรียงร้อยมาเป็นประโยคให้ฉันมีกำลังใจอยู่ต่อเพื่อวันข้างหน้า และอนาคตที่สดใสของตัวเอง
อุปสรรคคือขวากหนามของชีวิต หากไม่ลุกมาสู้และฝ่าฝันไปเราก็เป็นคนขี้แพ้ดีๆนี่เอง
ยังมีคนที่รักเราอีกมากมายนัก แล้วจะไปแคร์ทำไมกับคนที่เขาไม่รักเรา
ก่อนจะให้คนอื่นมารักตอบ หันมารักตัวเองก่อนเป็นไง ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยประโยคทะลึ่งให้ฉันอมยิ้มออกมาทั้งคราบน้ำตา อกหักเรื่องเล็ก อกเล็กสิ...เรื่องใหญ่
อีกหลายประโยคหลายถ้อยคำล้วนปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรให้ฉันได้อ่านมากกว่าหนึ่งครั้งเพราะความประทับใจ ทุกสิ่งล้วนเป็นสิ่งมีค่ายิ่งสำหรับใครคนหนึ่งยามอยู่คนเดียวเช่นฉัน
บางวันเหนื่อยจากการเรียน ฉันยังได้อ่านจดหมายจากเขา ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า ก็แค่จดหมายจากชายลึกลับคนหนึ่ง ซึ่งไม่รู้จุดประสงค์ว่าเขาต้องการสิ่งใดเป็นการตอบแทน
แต่แล้ววันหนึ่งฉันเกิดคำถามขึ้นกับตัวเองว่า เขาคนนั้นช่างรู้ความเป็นไปของฉันมากมายเสียเหลือเกิน ในขณะที่ฉันไม่รู้แม้เงาว่าเขาเป็นใคร มีตัวตนอยู่ในโลกที่วุ่นวายนี้ด้วยสถานะใด
ฉันกำลังสงสัยคนใกล้ตัว จะมีใครกันที่รู้เรื่องของฉันมากขนาดนี้นอกจากคนในครอบครัว เพราะทุกครั้งที่ฉันมีเรื่องไม่สบายใจ ฉันมักโทรไประบายกับแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดเสมอ แต่ก็ไม่ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องหัวใจที่ฉันยังคงอายและไม่พร้อมให้ครอบครัวรับรู้
แม่และน้องสาวผู้ซึ่งต้องย้ายตัวเองไปอยู่กับพ่อซึ่งรับราชการอยู่ต่างจังหวัด ปล่อยให้ฉันอยู่บ้านคนเดียว เพราะเห็นว่าโตแล้ว แต่ใครบ้างจะรู้ว่า บางครั้งฉันก็ต้องการอ้อมกอดของพ่อและแม่เหมือนเด็กเล็กๆ เช่นกัน
ฉันแอบคิดไปว่า อาจเป็นพ่อก็ได้ที่ทำแบบนี้ แม่อาจไปเล่าให้ท่านฟัง แล้วท่านใช้วิธีนี้ เพราะว่าพ่อนั้นมักเป็นคนเงียบขรึม ไม่ชอบพูดเล่นกับใครโดยเฉพาะลูกของตนเอง แต่ฉันก็รู้ว่าพ่อนั้นรัก เพียงแต่ไม่ได้แสดงออก ฉันเองก็ไม่ต่างกันจากท่านเท่าใดนัก
มีต่อค่ะ^^
จากคุณ :
อนงค์นาง
- [
17 ก.ค. 48 20:38:33
]