ประทีปะจิตติ (นามปากกา)
กลางดึกในคืนวันเสาร์ เวลาประมาณห้าทุ่ม ผมกลับออกจากอพาร์ทเม้นต์ของเพื่อน หลังจากที่ได้นั่งกินดื่มพูดคุยสนทนากันอย่างพอสมควรกับเรื่องราวที่ผ่านมาและผ่านไปในแต่ละวันแต่ละสัปดาห์
ผมเดินมายืนรอรถโดยสารเที่ยวดึกที่ป้ายประจำทาง จุดบุหรี่สูบในระหว่างรอคอยไปได้ไม่ทันมอดไหม้หมดมวนรถโดยสารก็โผล่แล่นเข้ามาจอด บนรถมีเบาะนั่งว่างให้ได้เลือกนั่งตามใจชอบมากมายเนื่องจากบริเวณป้ายที่ผมรอนั้นยังอยู่ในระหว่างทางต้นสายของรถประจำทางสายนี้ และในเวลานี้เวลาที่เข้าใกล้เที่ยงคืนไปทุกขณะคนโดยสารในเที่ยวนี้จึงมีน้อยเป็นปกติในยามค่ำคืนวันหยุดของสัปดาห์
ผมเลือกเบาะนั่งยาวด้านหลังสุดของตัวรถ รถแล่นเร็วเนื่องจากท้องถนนในยามค่ำคืนนั้นว่างวายจากรถยนต์ซึ่งแตกต่างกับในตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง สายลมเย็นปลิวลู่เข้ากระทบใบหน้านั้นเพียงพอที่จะขับไล่ความมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ให้สลายจางลง ผมรู้สึกถึงเปลือกตาของตัวเองเริ่มตก อารมณ์เริ่มหย่อนปลิวละล่องเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์ แล้วไม่นานต่อจากนั้นสติสัมปชัญญะทั้งหมดของผมก็วูบดับดิ่งจมลึก..ผมนิ่งหลับสนิท ณ วินาทีนั้น.
ผมมาสะดุ้งตัวตื่นขึ้นอีกครั้งด้วยอาการงัวเงียๆแกมตกใจเล็กน้อยด้วยเกรงว่าตนเองจะนั่งรถโดยสายเลยป้ายจุดหมายปลายทาง ตกใจเพราะด้วยเคยมีประสบการณ์ดังกล่าวมาแล้ว มันไม่คุ้มกันเลยกับการต้องนั่งรถแท็กซี่ย้อนเส้นทางกลับมาเป็นจำนวนเงินร่วมหนึ่งร้อยบาท
-0-
แกร๊ก...ก เสียงลูกกุญแจตกกระเด็นตกกระเด็นอกจากกระเป๋าสตางค์ที่ล่วงตกลงบนพื้นรถ ในความสลัวจากแสงไฟบนรถผมไม่สามารถมองหาลูกกุญแจนั้นได้ถนัด หลังจากก้มตัวลงเก็บกระเป๋าผมจึงพยายามเพ่งสายตามองหามันอีกครั้งอย่างสุดความสามารถ เนื่องจากเป็นกุญแจใช้ไขประตูห้องพักอย่างไรเสียต้องหาให้เจอแม้ว่าจะต้องลงไปนั่งหาบนพื้นรถก็ตาม
-.มันต้องตกอยู่แถวๆนี้แหละ
ผมรำพึงบอกกับตัวเอง
หากุญแจนี่อยู่ใช่มั้ยคะ
เสียงหญิงสาวร้องถามมาจากเบาะด้านหน้าพร้อมส่งยื่นลูกกุญแจนั้นมาให้ ผมวูบตกใจกับเสียงและกิริยาของเธอ มีกลิ่นน้ำหอมเจือเจือจางลอยมาตามสายลมปะทะสัมผัสกับจมูก..กลิ่นของมันหอมเย็นไม่คละคลุ้งรุนแรงชวนให้เกิดอาการคลื่นเหียน
ใช่ครับ ขอบคุณมากครับ ผมรับลูกกุญแจเก็บใส่กระเป๋ากางเกง ความตกใจเบื้องต้นแปรเปลี่ยนเป็นความขวยเขินให้กับหญิงสาว เหลียวมองหาผู้โดยสารคนอื่นๆบนรถซึ่งในขณะนั้นมีเพียงผมและเธอกับชายวัยกลางคนสองคนซึ่งอยู่ช่วงครึ่งหน้าของตัวรถ
รถวิ่งมาถึงไหนแล้วครับ ผมตัดสินใจถามเธอในสิ่งที่ยังกังวลอยู่ในสำนึก เธอไม่ตอบคำถามแต่กลับลุกขึ้นมานั่งเบาะเดียวกันกับผม แล้วเบียดชิดใกล้เข้ามาจนสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากกายเธอ
ผมเพ่งพิศดวงหน้าที่ซ้อนเร้นอยู่ในแสงสลัว ดวงหน้ารูปไข่ ตากลมโต ไว้ผมทรงบ็อบ ผิวเนื้อขาวที่อยู่ในอาภรณ์เสื้อยืดรัดรึงหน้าอกขนาดได้ส่วนและเอวคอดกิ่ว กางเกงยีนส์ขาสั้นเผยให้เห็นเรียวขาขาวนวลเกลี้ยงเกลา อายุของเธอนั้นไม่น่าเกินสิบแปด...
-.สวย..สาว...น่ารัก
ถึงท่าพระแล้วค่ะ เมาเหรอ? เธอยื่นหน้าเข้ามาถาม ผมเบือนหน้าหนีไปทางนอกหน้าต่าง
กุญแจตกตั้งนานยังหาไม่เจอ เธอหัวเราะคิกคัก พี่จะไปไหนเหรอ?
บางแคครับ ผมหันกลับมาตอบ ปลายจมูกของเราเกือบจะสัมผัสปลายกันและกัน เธอทำตากลมโตใส่ ผมผงะหน้าถอยห่างมาอีกนิด
หนูคุยด้วยได้มั้ย? เธอถามพร้อมกับดึงมือผมไปวางไว้บนหน้าขา จิตใจของผมตอนนั้นมันเต้นระส่ำระส่าย
-.เธอผู้นี้เป็นใคร เด็ก? มาทำอะไร และจะไปไหนในยามวิกาลเช่นนี้ อยู่ดีๆก็มานั่งเบียดชิดใกล้ทำเหมือนคนรู้จัก ไม่น่าไว้ใจ...หรือว่าจะเป็นพวกหญิงแบบว่า!
พี่กลับบ้านเหรอ?
ไปหาเพื่อนครับ ไม่มีความจำเป็นที่ผมต้องบอกความจริงว่าผมจะกลับบ้าน
แล้วบ้านพี่อยู่ไหนล่ะ
จรัญสนิทวงศ์ 13 ผมเลือกเอาซอยบ้านเพื่อนเป็นคำตอบ
ไปกินเหล้ากันเหรอ หนูไปด้วยคนได้มั้ย ในที่สุดเธอก็เฉลยเผยจุดมุ่งหมายออกมา
-.นึกไว้เหมือนกันว่ามันต้องอาจจะลงเอยเช่นนี้
อ้าว--แล้วถ้าเราไม่เจอกันนี่จะไปไหน? ผมสงสัยที่หมายปลายทางของเธอก่อนหน้า
ก็เรื่อยๆ ตามผับ คาราโอเกะ เธอรั้งมือผมที่วางอยู่บนหน้าขาไปลูบไล้แก้มนวล แล้วเลยไล้ลงมาตามซอกคอ...ผมชักมือกลับ
หิวข้าวมั้ย จะถึงตลาดแล้ว ผมตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง เมื่อเรื่องราวระหว่างเราสองคนเดินมาถึงทางสองแพร่ง
-.ชวนเธอไปนอนโรงแรมอย่างตรงๆ แล้วมีเพศสัมพันธ์ด้วยกัน และจบลงด้วยการจ่ายเงิน?
-.หรือ...เลี้ยงข้าวเธอสักมื้อตอบแทนมิตรภาพที่ได้หยิบยื่นให้?
-.หายากนะเด็กๆแบบนี้ หากใครรู้คงหัวเราะที่ปล่อยไป?
-.เลือกสิ เลือกเลย สวรรค์อยู่แต่เอื้อมเท่านี้!
-.คุก ตะรางเปิดรอเอ็งอยู่สิ ไอ้หน้าโง่! ท่าทางเธอไม่ถึงสิบแปดเลย
-.อย่างกับว่าเกินสิบแปดแล้วเอ็งจะไม่ปฏิเสธ?
-.บ้าสิวะ เกิดมาไม่เคยสำส่อนทางเพศ ใครจะว่าไงก็ช่าง ผมไม่นิยม!
-.งั้นก็เลือกเอาระหว่างมโนธรรม กับ ความใคร่...เลือกเล้ย
พี่เลี้ยงหนูจริงๆนะ เธอถามย้ำข้อเสนอของผม
ครับ พี่เลี้ยง
เอาสิคะ เธอจูงมือผมลุกขึ้นเดินไปยังประตูรถซึ่งกำลังจะจอดเทียบป้าย
-0-
เราสองคนนั่งดื่มเบียร์กันหมดไปสองขวด เธอบอกว่าเธออยากดื่ม ดื่มแล้วเธอจะกลับบ้าน บ้านของเธอก็คืออพาร์ทเม้นต์ที่อยู่ต้นซอยเข้าบ้านผมนี่เอง ผมถามเธอว่าทำไมเปลี่ยนใจไม่ไปต่อ เธอบอกว่าเพราะผมเลี้ยงข้าวเลี้ยงเบียร์เธอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องไปหาคนเลี้ยงอีก...
หนูไปเที่ยวกับเพื่อน เงินหมด วันจันทร์เงินถึงเข้าบัญชี แล้วเธอก็หัวเราะคิกคักออกมา
ผมเรียกแม่ค้ามาเก็บเงินค่าอาหาร เดินไปส่งเธอกลับบ้าน ส่งเธอถึงประตูห้อง เธอขอเบอร์โทรศัพท์ผม ผมส่งนามบัตรให้เธอพร้อมกล่าวสวัสดี
พี่ไม่นอนกับหนูแน่นะ เธอถามผมเป็นคำถามสุดท้าย
ผมยิ้มแทนคำตอบแล้วเดินลงมาชั้นล่าง
ไม่นอนค้างเหรอ? เสียงยามวัยกลางคนร้องถาม ผมส่ายหน้า
ผมโบกมือเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่จอดรอรับคนบริเวณนั้น
ไม่ค้างเหรอพี่ หนุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างถือโอกาสถามอย่างวิสาสะ ผิดคำถามที่ควรจะเอ่ยถามผู้โดยสาร
กลับบ้าน..ไปคอนโดฯ
ผมตอบแล้วเคาะบุหรี่ออกจากซองจุดสูบแล้วขึ้นนั่งซ้อนท้าย รถเคลื่อนตัวออกพร้อมกับที่สายลมพัดพาเอาเส้นผมของผู้ขับเข้าใส่หน้าพร้อมกลิ่นน้ำหอมชวนให้รู้สึกคลื่นเหียนปะทะจมูก @
18 กรกฎาคม 2548
จากคุณ :
อานันท์-โจนาธาน
- [
19 ก.ค. 48 00:47:41
]