CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ^V^V^V^V^ สวัสดี KL ^V^V^V^V^ ไม่รู้จะลงที่ซอยไหน ลงตรงนี้ละกันค่ะ

    หวัดดีค่า
    วันนี้ลองมาเดินเล่นแถวซอยเรื่องสั้นดูบ้างค่ะแหะๆ
    จริง ๆ แล้วถนนนี้ก็มีหลายซอยแฮะ แต่เคยเดินเล่นอยู่ไม่กี่ที่เท่านั้นเอง

    ตอนนี้ว่าจะลงคล้าย ๆ กับบันทึกท่องเที่ยวน่ะค่ะ ผ่านสายตาผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังมีปัญหาหัวใจ

    ฝากแนะนำติชมด้วยนะคะ
    ยังไม่เคยเขีบนเรื่องสั้นเลยอ่ะค่ะ (นี่ก็ค่อนข้างยาว)

    .......................................................................

    17.08.04
    วัดร่ำเปิง เชียงใหม่

    แม่จ๋า
                 ขอโทษด้วยนะจ๊ะ ที่แก้วออกจากบ้านโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า ตอนนั้นแก้วสับสนและอึดอัดใจกับปัญหาที่แก้ไม่ตกมาก ๆ เลยจ้ะ แก้วจำได้ว่าเผลอหงุดหงิดทะเลาะกับแม่จ๋าไปเสียหลายยกเหมือนกัน แก้วเพิ้งรู้จากยายตุ้มว่าแม่จ๋าโทรไปตามหาแก้วเสียจ้าละหวั่น

    ถึงตอนนี้แก้วจะโทรหาแม่จ๋าก็คงไม่ทันเสียแล้ว เพราะกำลังอยู่ในวัด! ที่นี่เขาห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ แก้วก็เลยฝากยายตุ้มกลับบ้านไป โชคดีค้นพบเซ็ตกระดาษเขียนจดหมายกับแสตมป์อยู่ก้นกระเป๋าเลยได้เขียนส่งข่าวเสียหน่อย พรุ่งนี้สาย ๆ จะเอาไปหย่อนตู้ไปรษณีย์หน้าวัด

    แก้วได้พึ่งพาตุ้มมาก ๆ เลยจ้ะกับการเดินทางครั้งนี้ ยายตุ้มก็แสนดีพอรู้ว่าแก้วอยากหันหน้าเข้าวัดก็สืบหาที่ทางที่มีสอนปฏิบัติธรรมและมีที่อยู่ให้เสียพร้อม เสียแต่ว่าไม่ยอมมานอนเป็นเพื่อนแก้วเท่านั้นแหละ วัดนี้ชื่อวัดร่ำเปิง อยู่ติดเชิงดอยสุเทพ สิ่งศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่เลย อากาศที่นี่ก็ดี ไม่ร้อน ไม่หนาว ที่อยู่อาศัยและอาหารก็พอใช้ได้ และยังมีโอกาสได้พิจารณาสิ่งที่ผ่านมาอีก

                 ใช่จ้ะ.. ยายแก้วหัวนอก(คอก) จอมกระโดกกระเดกของแม่จ๋านี่แหละกำลังปฏิบัติธรรมวิปัสสนาอยู่ ไม่ต้องห่วงแก้วนะจ๊ะ แก้วจิตใจสงบดีแล้ว ออกจากวัดเมื่อไหร่ จะโทรหา
    คิดถึงจ้ะ
    แก้ว

                หญิงวัยกลางคนอ่านจดหมายซ้ำแล้วซ้ำอีก ก่อนจะยิ้มและส่ายหัวด้วยความอ่อนใจ
    “แก้วเอ๊ย...จะอยู่ได้สักกี่วันกัน ทำไมแม่จะไม่รู้จักลูกของแม่ล่ะ ยิ่งมีเรื่องร้อนๆใจ คิดว่าแม่ไม่รู้หรือว่าเรื่องอะไร อาบน้ำร้อนมาก่อนแท้ๆ กดเอาไว้ได้ไม่นานหรอก เดี๋ยวก็ร้อนผ้าขาวต้องลาศีลออกมานั่งสงบสติอารมณ์ข้างนอก พนันได้เลย” นางวางจดหมายลงในลิ้นชักก่อนจะดันปิดแล้วเดินออกจากห้องไป

    บ้านของตุ้ม จังหวัดเชียงใหม่
    19.08.04

    “ดีนะ ที่ฉันแวะไปเยี่ยมเธอวันนี้ ไม่อย่างนั้นกว่าจะได้ออกวัดก็คงอีกนาน แล้วคิดยังไงถึงด่วนออกมาก่อนน่ะฮึ ไหนบอกว่าตั้งใจจะอยู่ 7 วัน” สาวน้อยผมยาวตากลมที่นอนเอกเขนกอิงหมอนขวานอยู่บนพื้นไม้ขัดเรียบ หันมาถามเพื่อนสาวที่นั่งอยู่บนตั่งไม้แบบล้านนา

    “อยู่ได้เกือบ 4 วันบุญหนักหนาแล้วตุ้ม ฉันไม่ใช่คนธัมมะธัมโมนะ แถมยังมีปัญหาคาใจอยู่อย่างนี้ด้วย นานกว่านี้สติแตกพอดีเลย” แก้วค้อนให้เพื่อนเสียวงใหญ่

    “อะไรก๊านนนนน” ตุ้มลากเสียงสูงยาว “ยังเครียดเรื่องพี่ทอปอยู่อีกหรอ ถึงกับอยู่ไม่ติดที่ แล้วอยู่วัดน่ะเขาให้ทำอะไรบ้าง ถึงได้ทนไม่ได้รีบแจ้นออกมาอย่างนี้น่ะ”

    “เอ๊า จะให้ตอบอะไรก่อนดีล่ะ เฮ้อ ถามมาเป็นชุด ก็ใช่.... ฉันเครียดเรื่องพี่ทอปมากเลยตุ้ม เราเหมือนไม่เข้าใจกัน แบบว่าคุยกันคนละภาษาน่ะ เขาอยู่ต่างประเทศมานาน พื้นฐานครอบครัวของเขาก็ไม่เหมือนกับฉันเลย แถมยังอายุมากกว่าหลายปีด้วย แรกๆ ก็ดูเหมือนจะยอม ๆ กันได้ แต่พอพ้นช่วงน้ำต้มผักยังว่าหวานแล้วต่างคนก็ต่างมีความต้องการของตัวเองน่ะตุ้ม ทะเลาะกันทุกครั้งที่โทรคุยกันเสียด้วยซ้ำ

    หลายเดือนแล้วนะที่เป็นอย่างนี้ ฉันก็คิดว่าเข้าวัดมันจะช่วยให้ใจสงบ ๆ บ้างน่ะสิ แต่ผลกลับเป็นว่า นิวรณ์ทั้งหลายยิ่งทำให้ฉันปฏิบิติธรรมไม่ได้จนกลัวว่าจะอยู่เปลืองข้าววัดเฉย ๆ เลยรีบออกมานี่แหละ มันร้อนไปหมดทั้งใจ ” แก้วระบายความอัดอั้นก่อนจะยกมือปิดหน้านิ่ง

                ตุ้มมองด้วยความเห็นใจ  ทอปกับแก้ว เคยเป็นคู่รักหวานซึ้งที่เพื่อน ๆ อิจฉา  ทอปเป็นลูกหลานตระกูลนักธุรกิจที่ไปศึกษาต่อต่างประเทศตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนแก้วคือนักศึกษาสาขารัฐศาสตร์มาจากครอบครัวนักวิชาการไทยแท้ที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม  ทั้งคู่พบกันเมื่อแก้วเดินทางไปเรียนโครงการแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยที่ประเทศอังกฤษเป็นเวลา 1 ปี และคบกันเป็นคู่รักจวบจนแก้วถึงเวลาต้องกลับประเทศไทย ทอปยังเหลือเวลาศึกษาในต่างประเทศอีก 1ปีกว่า ก่อนที่จะกลับมาทำงานกิจการของครอบครัวต่อไป  

                  นิสัยของทั้งสองคนนั้น เพื่อนๆ ลงความเห็นว่าไม่ค่อยเป็นไปในทิศทางเดียวกันเท่าไร แต่ที่ยอมความกันได้ เพราะแก้วเป็นฝ่ายอ่อนลงให้เสมอ จนบางครั้งทางครอบครัวของแก้วก็คิดว่า ทอปกำลังทำให้แก้วเปลี่ยนไปโดยเปิดรับค่านิยมทางตะวันตกมากขึ้น และอาจจะมากเกินไปกว่าที่ทางบ้านจะยอมรับไหว ทำให้แก้วมีเรื่องต้องปะทะคารมกับทางบ้านเป็นระยะๆ เรื่อยมาตลอดเวลาที่คบกัน

                  ยิ่งมองถึงอนาคต แก้วยิ่งมองเห็นเส้นขนานที่ทอดยาวคู่กันไปเรื่อยๆ ในเมื่อทอปต้องกลับมาสานต่อกิจการของทางบ้านเป็นนักธุรกิจใหญ่ในสังคมทุนนิยมต่อไป ในขณะที่แก้วก็ต้องก้าวโลดแล่นอยู่บนถนนสายการเมืองการปกครอง และต่อสู้เพื่อประชาชนระดับรากหญ้าตามอุดมการณ์ของตน

    “แล้วเธอจะทำยังไงต่อไป ห่างกันซักพักหรอ” ตุ้มชักตาปรือ ๆ หลังจากอาหารมื้อใหญ่ผ่านลงท้องไปไม่นานและยังมีลมรำเพยเย็นสบายดับไอร้อน

    “ไม่ได้หรอก พี่ทอปเค้าคิดเหมือนฝรั่ง ทำอย่างนั้นเค้าได้คิดว่าฉันไม่สนใจแล้ว จะพาลหาสาวใหม่เอาน่ะสิ” แก้วรำพึง “ทำไมนะตุ้ม สิ่งที่ฉันทำให้ตั้งมากตั้งมายเค้าไม่เคยเห็นค่า ไม่เคยสนใจ กลับหาว่าฉันเจ้ากี้เจ้าการ ทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ โทรหาบ่อยๆด้วยความคิดถึงก็คิดว่าโทรมาเช็คว่าอยู่กับใคร ฉันคิดฉันพูดอะไรก็ชอบบอกว่า ฉันโดนพวกอนุรักษ์นิยมล้างสมอง ที่จริงแล้วฉันควรจะมีเสรีทางความคิดมากกว่านั้น บางทีฉันก็คิดนะว่าเค้าเห็นเราเป็นแค่วัตถุทางเพศหรือเปล่า เธออาจจะว่าฉันเว่อร์ที่ออกอาการเสียมากมาย แค่เรื่องความรักขี้ปะติ๋ว แต่คนนี้ฉันรักจริง ๆ นะ ฉันเหนื่อยกับการที่รักแล้วต้องเลิกมามากแล้ว อยากจะหยุด อยากจะเริ่มต้นจริง ๆ จังๆ เสียที เฮ้อ..นี่คนเราที่นิสัยต่างกันมันจะเข้ากันไม่ได้เลยหรอตุ้ม อ้าว ตุ้ม ๆ  หลับไปแล้ว อะไรกัน ยังบ่าย ๆ แท้ ๆ ”

    “ฉันก็ไม่อยากรบกวนอยู่บ้านเธอนานหรอกตุ้ม กวนเธอมาหลายวันแล้ว คงจะเดินทางไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพบคำตอบของชีวิตมั้ง อยู่กับที่แล้วสมองมันตื้อ ๆ พาลจะให้น้ำตาตกเสียทุกที” แก้วยังบ่นกับดินฟ้าอากาศต่อไป ส่วนตุ้มนั้นล่องลอยเข้าสู่ห้วงนิทราอันแสนสุขไปนานแล้ว

    จากคุณ : ฉันไม่ใช่กวีฝีมือฉกาจ - [ 19 ก.ค. 48 01:03:00 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป