ฮ้าว...คนไทยแท้ ๆ ทำไมต้องมานั่งเรียนภาษาไทยด้วยว๊ะ น่าเบื่อชะมัด
ปรานทัศน์นั่งหาวหวอด ๆ ในชั่วโมงเรียนภาษาไทยซึ่งเป็นวิชาที่ตัวเขาเองคิดว่ามันไม่มีความสำคัญกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียวด้วยเหตุผลที่ว่าเขาเป็นคนไทยคนหนึ่ง และด้วยความคิดนี้เองจึงทำให้เขาไม่ค่อยสนใจเรียนและใช้เวลาส่วนใหญ่ในชั้นเรียนไปกับการนั่งหลับบ้าง เหม่อลอยบ้างและที่แย่ที่สุดคือเขาไม่เคยชอบหน้าสุนทรภู่เลย เหตุผลที่เขาไม่ชอบก็เพราะว่าใกล้วันที่ 26 มิถุนายนเมื่อไหร่จะต้องมีเรื่องให้เขาต้องปวดหัวทุกทีเพราะเขาไม่ชอบคำกลอนเอามาก ๆ ทั้งๆ ที่เป็นคนมีพรสวรรค์ วันนั้นเป็นวันที่ 20 มิถุนายนของปีหนึ่ง บรรยากาศในห้องยังคงเหมือนเดิม ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังนั่งเคลิ้มจะหลับอยู่ในชั่วโมงภาษาไทย
ปรานทัศน์! เสียงเรียกอย่างดุดันดังมาจากหน้าห้อง
ค...ครับผม มีอะไรหรือครับอาจารย์ ชายหนุ่มขานรับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเกรงว่าจะมีความผิด
เดี๋ยวเที่ยงนี้ไปหาครูที่ห้องพักครูหน่อยนะ
ได้ครับ ปรานทัศน์ทำหน้าสลดแล้วนั่งลงไปก่อนถอนหายใจเฮือกยาว
เฮ้อ...ซวยอีกแล้วเรา เขารำพึงรำพรรณกับตัวเอง
เที่ยงวันนั้น
ก๊อกๆ...เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมด้วยคำพูดเบา ๆขออนุญาตครับอาจารย์
อ้าวปรานทัศมาแล้วเหรอ เข้ามาสิ น้ำเสียงของอาจารย์ที่เบาลงกว่าตอนแรกทำให้ปรานทัศน์ใจชื้นขึ้น
ครับ งั้นขอเข้าไปนะครับ
นั่งก่อนซิ ครูสาวเชื้อเชิญ ที่ครูเรียกมาวันนี้น่ะ ครูมีเรื่องอยากจะถามหน่อย
ได้ครับ
งานเธอทุกงานเธอทำเองหรือเปล่าเพราะในห้องเรียนเธอไม่เคยสนใจวิชาครูเลยแต่งานของเธอทุกชิ้นดีมากมันค้านกันจริงๆ
ครับผมทำเอง ปรานทัศน์ตอบแต่ครูสาวยังไม่ปักใจเชื่อ
เอาอย่างนี้ในเมื่อเธอยืนยันว่าเป็นความจริงครูก็ไม่รู้จะเค้นเธอยังไงแต่ขอพิสูจน์หน่อย
บทพิสูจน์เริ่มขึ้นโดยเธอได้ตั้งหัวข้อให้ปรานทัศน์แต่งคำประพันธ์ บทพิสูจน์มีอยู่ว่าเขาต้องแต่งกลอนสด ณ ตรงนั้นและมีเงื่อนไขว่าถ้าหากทำไม่ได้จะต้องโดนหักคะแนนที่สะสมมาครึ่งหนึ่ง โดยให้แต่งกลอนเกี่ยวกับสุนทรภู่ โดยเธอคิดว่าอย่างไร เขาก็ไม่สามารถทำได้อยู่แล้วและกำหนดเวลาไว้ 15 นาที
ถ้าภายใน 15 นาทีนี้เธอทำไม่ได้คงรู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้น ครูสาวขู่พลางจ้องตาเขม็งมาที่ปรานทัศน์
ปรานทัศน์ไม่รอช้าใช้สติปัญญาทั้งหมดทุ่มเทลงไป แค่เพียง 5 นาทีก็ทำเสร็จได้ความว่า
สุนทรภู่ท่านครูเอกอาลักษณ์
นามประจักษ์ทั่วทั้งแดนสยาม
อีกทั้งต่างประเทศล้วนรู้จักนาม
ยกย่องความสามารถราชครู
เรียบร้อยแล้วครับอาจารย์ ปรานทัศน์ยื่นกระดาษคำตอบให้ครูสาว
แน่ใจเหรอว่าเรียบร้อย ไหนเอามาดูซิ ครูสาวผงะ จ้องหน้าปรานทัศน์ด้วยความพิศวง พลางพูดว่า
เยี่ยมมาก ครูขอโทษนะที่มองเธอผิดไป
แต่ยังเหลืออีกหนึ่งอย่างที่เธอจะต้องส่งครูก่อนวันที่ 26 มิถุนายนนี้ ครูสาวออกคำสั่ง
อะไรหรือครับ ปรานทัศน์ถามอย่างเหนื่อย ๆ
ทำรายงานเรื่องประวัติสุนทรภู่และประโยชน์ของการเรียนวิชาภาษาไทยส่งครูก่อนวันที่ 26 มิถุนายนนี้นะ
ได้ครับ ปรานทัศน์รับคำ
เย็นนั้นเขาเข้าห้องสมุดค้นหาหนังสืออย่างหมักเขม้นก่อนที่จะหอบหนังสือกองใหญ่กลับบ้าน พอถึงบ้านเขาก็ตรงเข้าห้องทันทีแต่ยังไม่ทันจะพ้นประตูบ้านปรานทัศน์ก็ต้องตกใจอย่างหนักกับเสียงที่ดังลอยตามมาข้างหลังมันไม่ใช่เสียงใครที่ไหนหากแต่เป็นคุณชลดาคุณแม่จอมเฮี้ยบของเขานั่นเอง
เดี๋ยว! เจ้าทัศน์ แกไปก่อเรื่องอะไรมาอีกแน่ๆ เลยใช่มั๊ย ปรกติชั้นไม่เคยเห็นแกจะหอบหนังสงหนังสืออะไรมากมายขนาดนี้นี่นา คุณชลดาทักปรานทัศน์อย่างกะทันหันทำให้เขาตั้งตัวไม่ถูก
เอ่อ...ม-ไม่มีอะไรหรอกครับพอดีมีการบ้านนิดหน่อย ปรานทัศน์หน้าถอดสีพูดตะกุกตะกัก
เนี่ยนะนิดหน่อยของแก หนังสือกองเบ้อเร่อ แกยังว่านิดหน่อยอีกตาม เรื่องไม่บอกก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าชั้นต้องไปโรงเรียนแกเมื่อไหร่แกโดนแน่
ครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ ปรานทัศน์ทำหน้าเหนื่อยและกลับเข้าห้องไปและเพราะเหตุนี้จึงทำให้เขายิ่งชิงชังสุนทรภู่และวิชาภาษาไทยมากขึ้นไปอีก
เฮ้อ...ไม่ชอบแล้วยังต้องมาทำอีก นี่แหละน้า...ยิ่งเกลียดยิ่งเจอ เขาบ่นกับตัวเองและรีบค้นหาข้อมูลในหนังสือทั้งหมดทันทีโดยไม่รอช้า
เอ...ใช้เล่มไหนดีนะ ปรานทัศน์จ้องดูกองหนังสือกองใหญ่ แล้วเหลือบไปเห็นหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งเป็นหนังสือเก่าที่สุดในกองนั้น รวบรวมประวัติและผลงานของสุนทรภู่ ฉบับสมบูรณ์ เขาหยิบหนังสือเล่มนั้นมาอ่านดูอย่างแผ่วเบาถนุถนอมเพราะกลัวว่ามันจะขาด ไม่นานเขาก็เริ่มง่วงและเผลอหลับไป
พักใหญ่ก็มีเสียงผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเรียกด้วยสำเนียงแปลกหู
พ่อหนุ่ม ตื่น ๆ มานอนอะไรอยู่แถวนี้
ปรานทัศน์ งัวเงียตาก็ลืมไม่ขึ้นด้วยความเพลีย เขามองเห็นภาพราง ๆ และหลังก็เริ่มเจ็บเหมือนนอนอยู่บนไม่กระดานแข็งและสากแต่เขาจำได้ว่าเขาอ่านหนังสืออยู่ในห้องบนเตียงนุ่ม ๆ แล้วนี่มันอะไรกันเขาพลิกตัวไปมาอยู่พักหนึ่งตาก็เริ่มมองภาพได้ชัดขึ้น ภาพที่เขาเห็นคือกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งแต่งตัวแปลกมากคล้ายกับชาวบ้านในยุคโบราณเหมือนในหนังที่เขาดูอยู่บ่อยๆยืนล้อมวงจ้องเขาอยู่และตัวเขาเองก็เช่นกันแต่งตัวแปลก ๆ เขาจึงร้องออกมาด้วยความตกใจ
เฮ้ย! อะไรกันว๊ะเนี่ยะ
เอ็งเป็นอะไรไปหรือไอ้ทิศ ชายแก่คนหนึ่งถาม
ผมคงบ้าไปแล้วล่ะครับ เอ่อ...ลุงครับ ที่นี่ที่ไหนครับปรานทัศน์ถาม ชายแก่ทำหน้างง
อ้าว เอ็งไม่ใช่คนแถวนี้ดอกรึ ที่นี่ก็วังหลังไง
วังหลัง แอ้...อำกันรึเปล่า
แล้วพวกลุงมาทำอะไรอยู่แถวนี้ล่ะครับ
ข้าก็มารอขึ้นเรือสิว๊ะ เอ็งนี่ถามแปลก พูดจาก็แปลกๆ
สิ้นบทสนทนาเขามองไปรอบ ๆ ที่ตัวเขานอนอยู่นั้นมันแทบจะกลางแจ้งเลยก็ว่าได้เป็นท่าเรือเล็ก ๆ มีไม้กระดานวางเรียงอยู่ไม่กี่แผ่นดูจากสภาพแวดล้อมเขาสรุปเอาเองว่าเป็นแถวกรุงธนบุรีเพราะอยู่ใกล้กับวัดอรุณเขาลุกขึ้นเดินไปรอบ ๆ ในตอนแรกเขานึกว่าตัวเองฝันไปแต่ทำทุกวิถีทางแล้วมันก็ยังไม่ตื่นเขาจึงเริ่มปรับตัวบอกตัวเองให้ใจเย็นและเดินดูไปรอบ
สภาพบ้านเมืองตอนนั้นเหมือนกำลังจะมีงานใหญ่เกิดขึ้นสังเกตได้จากการประดับประดาอย่างสวยงาม
เอ...มันสมัยไหนนะ เขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองในใจเขาเดินเรื่อยเปื่อยไปมาจนแน่ใจแล้วว่าหมดหนทางที่จะรู้เองแล้วจึงเข้าไปถามชาวบ้านแถวนั้น
ขอโทษนะครับ นี่สมัยไหนครับ
อ้าวพ่อหนุ่มที่นอนอยู่ที่ท่าน้ำวังหลังใช่ไหม ที่ไหนก็ไม่รู้สมัยไหนก็ยังไม่รู้อีกชายแก่ยิ้มเยาะ
ก็สมัยของ แผ่นดินกลาง** ไง
แผ่นดินกลางก็สมัยพะเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 2 นะสิ! โหแบ๊คทูเดอะฟิวเจอร์สเลยนะเนี่ย ปรานทัศน์งึมงำ
อ้อ จริงสิผมเอ๊ย! ฉันก็ลืมไป แล้วนี่พวกลุงกำลังทำอะไรอยู่หรือจ๊ะเขาแกล้งตามน้ำเพราะเริ่มรู้ตัวกับสถานการณ์แล้ว
บ๊ะ ไอ้นี่ชั่งซักเสียเหลือเกิน เอ็งมิรู้หรือไง ว่าถัดไปอีกสองวันจะเริ่มสถาปนาพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่ เขาว่า สมเด็จองค์ใหญ่* จะได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าอยู่หัวองค์ต่อไปนะ
อ๋อเปลี่ยนรัชกาล!
ไอ้หนุ่มเอ็งพูดอะไรของเอ็งว๊ะ ข้ามิเห็นรู้เรื่องเลยพูดจาแปลก ๆ ชายแก่ตั้งข้อสังเกต ข้าไม่พูดกับเอ็งแล้ว ชายแก่เดินมึนๆ กลับไปทำงานต่อ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีครับขุนไกรกลับมาแล้วครับพร้อมกับนำเจาะเวลาสุนทรภู่ในเวอร์ชั่นใหม่และชื่อใหม่
จากคุณ :
ขุนไกรพลพ่าย
- [
19 ก.ค. 48 08:53:26
]