CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    :<>: ปริศนาของเอล :<>: เรื่องที่ 3 จากใจอาจารย์

    เรื่องที่ 1 ซินเดอเรลลาสีเลือดhttp://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3570406/W3570406.html

    เรื่องที่ 2 ภาพฉาบจันทน์  http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3595533/W3595533.html



    เรื่องที่ 3 จากใจอาจารย์


    เช้านี้อากาศขมุกขมัว...

    มองจากหน้าต่างกระจกกว้างของหอประชุมเห็นแต่เมฆสีขาวปนเทาอึมครึมลอยเต็มฟ้า  ส่วนบนเวทีด้านในมีการแถลงการณ์เรื่องกฎระเบียบใหม่ของโรงเรียน

    ฉันยืนอยู่เป็นคนที่สามนับจากหน้าสุดในแถวนักเรียนมัธยมปลายปีที่สาม ห้องห้า นิ่งฟังสมาชิกสภานักเรียนที่ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นไปพูดบนเวทีอย่างสงบเสงี่ยม

    ทั่วหอประชุมจึงน่าจะมีแค่เสียงหนักแน่นของสมาชิกสภานักเรียน แต่ฉันรู้สึกว่ามีเสียงเพลงแปลกๆ แว่วมาเข้าหูตลอดเวลาโดยคนอื่นอาจไม่ได้ยินมัน  สังเกตได้จากการที่เด็กผู้หญิงผู้มีปกตินิสัยชอบซุบซิบ ไม่เอ่ยถามถึงเสียงเพลงที่แทรกแว่วขึ้นมาเป็นระยะนั่นสักคน

    พอเปลี่ยนผู้พูดเวที…ฉันก็ได้ยินอีก

    'เธอจากฉันไปไม่กลับมา  ฉันคงต้องใช้วิธีเรียกหา  ลาลา…นำพาหัวใจคืน...'

    หมดท่อนนั้น  สปอตไลท์ร่วงลงมาจากเพดานเหนือเวที

    โครม!

    วินาทีนั้น  หอประชุมราวกับถูกสาดด้วยสีแดงเข้มเกือบดำ  ทุกคนกรีดร้องพร้อมกัน  ดังจนฉันต้องยกมือปิดหู

    "กรี๊ดดดดดด!"

    สีแดงเปื้อนเต็มหน้าเต็มตัวเด็กนักเรียนที่ยืนอยู่หัวแถวเกือบทั้งหมด  แทบทุกคน…ก้มลงดูเนื้อตัวของตนแล้วเป็นลม  อาจารย์ผู้หญิงบางท่านที่ยืนอยู่หัวแถวก็ซวนเซ ทรุดฮวบลงอย่างคนสิ้นเรี่ยวแรง  ส่วนอาจารย์ผู้ชายที่คุมสติอยู่  ต่างรีบเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์กันเป็นที่โกลาหล

    ทันใดนั้น ประตูหอประชุมลั่นปิดดังปึง! เนื่องเพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุกับประธานนักเรียนที่เมื่อครู่ยืนอยู่บนเวที  ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุจะต้องอยู่เพื่อรอให้ตำรวจมาสอบปากคำ

    ฉันเห็นเพื่อนร่วมห้องหลายคนเกาะกลุ่มกันนั่งร้องไห้ตัวสั่นงันงก ก่อเสียงสะอื้นให้เริ่มดังระงมไปทั่ว  จึงบอกให้พวกเธอขยับขยายไปให้ไกลจากเวทีที่สุด จะได้ไม่เห็นภาพน่ากลัว ก่อนจะหันมาช่วยเรียกสติคนที่เป็นลมนับสิบคน

    โชคไม่ดีเลย ที่ในกระเป๋ากระโปรงของฉันมียาดมซุกอยู่แค่สี่หลอด  เมื่อแจกจ่ายให้เพื่อนๆ ที่จิตแข็งพอจะช่วยงานนี้ได้แล้วก็หมด

    ฉันจึงเดินไปหาเด็กผู้หญิงที่เลี่ยงหลบไปอยู่ด้านหลังหอประชุม แล้วเอ่ยขอยาดมซึ่งอาจมีบางคนพกติดตัวมาแต่ได้รับการปฏิเสธ ด้วยว่าพวกเธอต้องการเก็บไว้สำหรับใช้ส่วนตัว

    ในความวุ่นวายนั้นเอง  มีเสียงทุ้มเศร้าๆ ดังขึ้นเบื้องหลัง

    "เอายาดมของครูไหม  มีอยู่ตั้งหลายห่อ"

    ฉันหันไปทางต้นเสียงพบอาจารย์ผู้ชายท่านหนึ่ง

    สีหน้าของเขาซีดเซียว…

    "ไม่เป็นไรค่ะ อาจารย์เก็บไว้ใช้เถอะ"

    "แต่…"

    "ถ้ายังไง  อาจารย์น่าจะช่วยขึ้นไปดูบนเวที"

    พอฉันกล่าวทำนองนี้  อาจารย์สลด…แล้วเดินจากไป

    ฉันมองตามเงาหลังแล้วรู้สึกว่าเขาคงเศร้าไม่น้อย…เพราะคนที่ยืนอยู่บนเวทีเมื่อครู่คือประธานนักเรียนที่บรรดาอาจารย์และนักเรียนต่างรักใคร่  ทว่าในขณะที่เธอพูดจากับพวกเราอย่างร่าเริงแจ่มใส  สปอตไลท์ดวงใหญ่กลับตกลงมาทับพอดี  แต่ถึงอย่างไร  ต่อไปนี้…พวกเราก็คงไม่มีโอกาสฟังเธอพูดอย่างร่าเริงอีกต่อไป เพราะเธอ…ได้จากไปแล้วตลอดกาล



    เสียงฝีเท้าแต่ละก้าวที่ย่ำลงบนพื้นไม้ขัดเงาดัง ตึก ตึก ตึก…ชัดทุกครั้งในหอประชุมอันเงียบร้าง

    ฉันเดินผ่านโถงสูงกว้างซึ่งยังมีกลิ่นเหม็นอบอวลไปจนใกล้ถึงเวที แล้วเรียกหาคนๆ หนึ่ง

    "อาจารย์คะ...อาจารย์...."

    เสียงเรียกเพียงเบาๆ ในหอประชุมที่มีลักษณะเป็นห้องเก็บเสียงนั้นก้องไปทั่วบริเวณ  รออยู่เพียงพักเดียว  มีชายหนุ่มโผล่ออกมาจากหลังผ้าม่านสีเลือดหมูบนเวที  เขาคืออาจารย์ผู้ชายที่คิดจะให้ฉันยืมยาดมแต่ถูกปฏิเสธ

    พอเห็นฉัน  เขาไม่โกรธแต่กลับยิ้มแล้วกวักมือเรียก  ฉันจึงอ้อมไปยังบันไดข้างโดยพยายามเลี่ยงไม่เหยียบคราบสีแดงเกือบดำตามพื้น ก้าวขึ้นไปเวที

    พอใกล้ถึงตัว  เขาก็แหวกม่านสีเลือดหมูออกมา แล้วเสนอของที่หอบอยู่ในอ้อมแขนทั้งหมดอย่างกระตือรือร้น

    "หิวหรือเปล่า  กินขนมก่อนไหม  น้ำชาก็มีนะ  มันเย็นมากแล้ว  ครูคิดว่าเธอต้องอยากได้ของว่าง"

    ฉันเห็นกาน้ำชาสีชมพูเล็กๆ ใบหนึ่งห้อยอยู่ตรงข้อมือของอาจารย์  มันน่ารัก ฉันชอบมาก  ไม่รู้ว่าอังเดรเพื่อนสนิทตั้งแต่ยังเด็กของฉัน จะสามารถหาซื้อมันมาเป็นของขวัญวันสิ้นปีให้ได้หรือเปล่า

    "กินได้แน่หรือคะอาจารย์  คุ้กกี้?"

    “ได้สิ แน่นอน รับรองท้องไม่เสียหรอก  เอ้า นั่งเลย เชิญๆ" เขาพูดแล้วยิ้มจนตายิบหยีทำให้ใบหน้านั่นน่ามองยิ่งขึ้น  ทั้งที่เมื่อเช้า เขายังดูอาการไม่ค่อยดี

    "เอ่อ...อาจารย์คะ  พื้นมันเปื้อน" ฉันบอกหลังเหลียวมองรอบตัว  บนพื้นเวทีมีแต่รอยเลือดกระเด็นเต็มไปหมด "…นั่งไม่ได้ค่ะ"

    "ใช่จริงๆ ด้วย…งั้นเธอถือของไว้ก่อนนะ  ครูจะหาผ้ามาเช็ด"

    ว่าแล้ว เขายัดกาน้ำชากับขนมห่อใหญ่ให้ฉันอุ้มไว้ แล้วผลุบหายเข้าไปหลังเวที  เมื่อกลับออกมาอีก ก็มีผ้าสีขาวสะอาดพร้อมอยู่ในมือ

    เขาก้มลงทำท่าจะเช็ดพื้นเปื้อนเลือด  ดีว่าฉันทักไว้ทัน

    "ฉันว่าอาจารย์ไม่ควรเช็ดนะคะ"

    "อ้าว ทำไมล่ะ  จะได้นั่งกันไง"

    "ตำรวจต้องมาตรวจอีกรอบค่ะ  เขาจะทำหน้ายังไง ถ้ามาแล้วเห็นรอยคนนั่งดื่มชาอยู่ตรงที่ที่มีการฆาตกรรม"

    ฉันสังเกตเห็นว่าหน้าของอาจารย์เปลี่ยนสี เมื่อคำว่า 'ฆาตกรรม' หลุดออกมาจากปากของฉัน

    "เอ้อ…" ฉันพยายามปรับเปลี่ยนบรรยากาศ "…ถ้างั้นเข้าไปนั่งกินกันหลังม่านดีกว่าไหมคะ อาจารย์"

    "....อือ"

    เราสองคนจึงเดินเข้าไปหลังม่านซึ่งสะอาดเอี่ยมจนสามารถนั่งบนพื้นได้โดยไม่ต้องปูผ้า  อาจารย์เดินไปเปิดไฟดวงโตจนสว่างแล้วจัดแจงรินน้ำชาใส่ถ้วยสีชมพูเข้าชุดกับกาน้ำชา  รวมถึงเทคุ้กกี้สก็อตใส่จานสีขาวมีลายดอกไม้น่ารักให้ฉัน

    คุ้กกี้ที่อาจารย์เอามาให้ฉันเป็นคุ้กกี้อย่างดี  รสชาติอร่อย หวาน  เมื่อดื่มกับน้ำชาสมุนไพรรสละมุน กลมกล่อมแล้วช่วยให้สดชื่น  หายร้อน หายวิตกในทันใด

    ฉันรู้สึกว่าอาจารย์เป็นคนมีเสน่ห์เพราะช่างเอาใจใส่แม้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ผิดกับอังเดร

    รายนั้น แม้จะพอมีความโรแมนติก แต่ถ้าเรื่องจุกจิก  ไม่ขอ…ไม่คิดจะให้

    (มีต่อ)

    จากคุณ : ฯคีตกาล - [ 23 ก.ค. 48 13:30:15 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป