CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    เรื่องสั้น เวลาและความสุข

    แสงไฟจากโคมระย้าส่องสว่างทั่วห้องวีไอพีของภัตตาคาร ห้องส่วนตัวขนาดโต๊ะเดียวตกแต่งแบบจีนประยุกต์ดูหรูหรา ไม้แกะสลักสีโอ๊กลวดลายหงส์มังกรประดับอยู่ที่เสามุมห้องและฝาผนัง ต้นไม้หยกราคาแพงวางอยู่หน้ากระจกติดผนังบานใหญ่ โดยมีสิงห์จีนขนาดย่อมสองตัวขนาบข้าง ผลท้อบนต้นสีขาวอมชมพูตัดกับใบสีเขียวของหยกสะท้อนแสงไฟเตะตา

    บนโต๊ะอาหารกลมหมุนได้ขนาดสิบที่มีอาหารเจ็ดแปดอย่างวางอยู่ เครื่องปรับอากาศส่งเสียงครางเบาๆ อุณหภูมิภายในห้องเย็นกว่าภายนอกร่วมสิบองศาจึงช่วยให้ไม่รู้สึกเหนียวตัว กลิ่นมะนาวจางๆของน้ำยาปรับอากาศลอยฟุ้งทั่วห้อง

    เสียงเฮฮาของแพทย์ใช้ทุนเก้าคนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะดังเป็นระยะ โดยเฉพาะเสียงหัวเราะของหมอปกรณ์ดังพอจะกลบเสียงดนตรีเบาๆ ซึ่งบรรเลงด้วยออร์แกนไฟฟ้าจากเวทีด้านนอกที่ลอดเข้ามาในห้อง

    ห้องนี้เป็นหนึ่งในห้องรับรองระดับห้าดาวของภัตตาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดในตัวจังหวัด มันทำหน้าที่รับรองผู้มีฐานะทางสังคม มีคหบดีและข้าราชการระดับสูงมาใช้บริการเป็นประจำ เสน่ห์ของร้านนี้คืออาหารจีนเลิศรสจากกุ๊กกวางตุ้งฝีมือไม่แพ้ในกรุง

    เวลาสองทุ่มครึ่ง หมอสันต์ในเสื้อยืดแขนสั้นสีเขียวอ่อนทำให้ยิ่งดูผอมกว่าเคย ผมสั้นเกรียนของเขาดูเหมือนว่าตัดมาใหม่ๆ แต่ยังคงสวมแว่นตาทรงโบราณอันเดิม มันยิ่งทำให้เขาดูแก่กว่าวัยสี่สิบหกไปอีกไม่น้อย เขาผลักประตูเดินยิ้มเผล่เข้ามาพร้อมส่งเสียงทักทาย

    “อิ่มกันแล้วหรือยังครับ อาหารร้านนี้อร่อยไหม บงกชกินเจไม่ใช่เหรอ ใครสั่งอาหารเจให้บงกชหรือเปล่า” โผล่เข้ามาเขาก็อำหมอบงกชสาวสวยที่สุดในรุ่นเข้าให้เลย

    คืนนี้หมอสันต์อารมณ์ดีเป็นพิเศษ จะว่าไปแล้ววันไหนที่ได้ออกมาเลี้ยงน้องๆเขาจะรู้สึกว่ามีความสุขมาก เขาจึงมักจะเลือกร้านที่ดีๆและแอบสั่งอาหารพิเศษไว้ให้ก่อนเสมอ วันนี้มีหมูหันหนังกรอบเนื้อนุ่มเป็นเมนูเอก

    ทุกคนส่งเสียงสวัสดีเขาเสียงสนั่นห้อง บางคนยังเคี้ยวอาหารอยู่เต็มปาก
    “อาจารย์ทานเจกับหนูไหมคะ หนูทานแก้บนที่ได้แฟนแล้วค่ะ” หมอบงกชอำหมอสันต์กลับหน้าตาเฉย ว่าพลางขยับเก้าอี้ให้หมอสันต์นั่งลงข้างๆเธอ

    เสียงหัวเราะเปิดเผยของเธอชวนเขาต่อปากต่อคำ เธอคุยจ้อไม่ขัดเขิน เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าฟันขาวๆของเธอนั้นมีเขี้ยวแลดูน่ารัก ริมฝีปากทาด้วยลิปสติกสีชมพูออกม่วง เขาเดาว่าน่าจะเป็นยี่ห้อคริสเตียน ดิออร์ เธอกุลีกุจอจัดช้อนซ่อมและจานให้เขา กลิ่นน้ำหอมลังโคมวูบผ่านจมูกหมอสันต์ กลิ่นนั้นหอมนุ่มนวลชวนติดตาม

    “หนูว่าออเดิฟมันเย็นหมดแล้ว อาจารย์ทานผัดห้ารสนี่ดีกว่านะคะ นี่ตาวิทย์ขอเมนูให้อาจารย์หน่อยสิ” ว่าแล้วเธอก็ตักอาหารใส่จานของหมอสันต์ ท่าทางเอาอกเอาใจของเธอทำให้เพื่อนๆในโต๊ะยักคิ้วหลิ่วตาล้อเลียน

    “อาจารย์ครับ สงสัยบงกชมันจะประจบอาจารย์เอาคะแนนนะครับ ขี้เกียจทำงานแต่ขยันเอาใจอาจารย์ อย่าไปสงสารมันนะครับ” หมอวิทย์ที่ผอมโย่งหน้าตาตี๋ๆตีกันไว้ก่อน กลัวว่าหมอบงกชจะเล่นเลยเถิดกับหมอสันต์

    การมีมนุษย์สัมพันธ์คือความสามารถเฉพาะตัวของบงกช เธอใช้มันเป็นใบเบิกทางให้อาจารย์หรือรุ่นพี่อ่อนข้อให้เธออย่างได้ผล แต่เธอก็รู้ดีถึงขอบเขตอันควรไม่ควร

    “ตาวิทย์ฉันดูแลอาจารย์ย่ะ” บงกชค้อนให้ พลางตักกระเพาะปลาผัดแห้งใส่จานหมอสันต์เพิ่ม

    หมอสันต์ตักมันเข้าปากด้วยความเต็มใจ มื้อนี้ต่างจากมื้อเช้าชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะตอนเช้าเขามีแค่กาแฟกับขนมปังสำเร็จรูปก้อนละเจ็ดบาทเป็นประจำเท่านั้น

    คำแนะนำของแพทย์ที่ว่าควรทานอาหารครบหมู่และทานให้อิ่มในมื้อเช้า ไม่ได้แปลว่าเขาจะกินดีอย่างที่พูดไว้ บางทีอาหารการกินของหมอยังแย่กว่าผู้ป่วยเสียอีก มื้อนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่มื้อของเขาในรอบเดือนที่เรียกได้ว่าอยู่ดีกินดี

    วันนี้มีต้มยำกุ้งใหญ่ในหม้อไฟรสเข้มข้น ทุกคนทานไปสูดปากไป ออส่วนทำด้วยหอยนางรมตัวขนาดนิ้วหัวแม่โป้งใช้แก้เผ็ดได้เป็นอย่างดี ปลาหิมะนึ่งซีอิ้วรสกลมกล่อมชิ้นขนาดเกือบหกนิ้วหอมกรุ่น เจ้าของร้านกระซิบว่าปลาลงจากรถเมื่อเช้านี้ยังสดๆอยู่เลย

    แพทย์ใช้ทุนหลายคนออกปากชมว่ารสชาติไม่แพ้ใคร แต่ที่ชวนชิมก็คือตำถั่วฝักยาว รสชาติคล้ายส้มตำแต่ไม่ใส่ปู ทานแนมกับหมูสามชั้นทอดกรอบสะเด็ดน้ำมัน ทุกคนช่วยกันชิมจนขอดจานก่อนเพื่อน

    ยังเหลือหมูกะทะและราดหน้าหัวปลาหม้อไฟที่เอาไว้ให้คนทานจุได้ปิดท้าย สำหรับผลไม้จานเปลเป็นอภินันทนาการจากเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นคนไข้เก่าแก่ของหมอสันต์

    เป็นธรรมดาที่หมอสันต์ปล่อยให้น้องๆทานไปก่อนจนถึงสองทุ่มกกว่าจึงได้เข้ามา เขาต้องไปดูแลผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเอกชนในเมือง ซึ่งได้รับปรึกษาไว้จนเสร็จสิ้นก่อน

    ลำพังเงินเดือนของแพทย์จากทางราชการนั้น คงไม่สามารถทำให้เขาครองสถานะทางสังคมได้อย่างเป็นปกติสุขแน่ ภาระรับผิดชอบหลายอย่างทั้งส่วนตัวและสังคมทำให้เขาต้องหารายได้พิเศษที่โรงพยาบาลเอกชนด้วย ดูเหมือนว่ารายได้นั้นจะมากกว่าการรับราชการเสียอีก

    แต่เขาก็ต้องแลกมาด้วยการใช้เวลาที่ควรพักผ่อนหรือออกกำลังกายมาทำงาน “ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ” จึงเป็นคำกล่าวที่ถูกต้อง

    แต่บางทีเวลาส่วนตัวที่เขาใช้ไปในการหารายได้พิเศษนั้น อาจมีค่าต่อชีวิตของเขามากกว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นเสียอีก และสิ่งที่เขาสูญเสียไปในวันนี้ก็ไม่อาจซื้อคืนได้อีกในอนาคตเสียด้วย

    “ระวังกินหอยนางรมมากๆจะมีโคเลสเตอรอลสูงนะยายขวัญ แต่ชั้นว่าเธอระวังเอวไว้ด้วยดีกว่า เดียวใส่กางเกงเอวต่ำไม่ได้นะ” หมอบุษกรที่ท่าทางเป็นนักวิชาการกว่าใครแนะนำเพื่อนๆด้วยความเคยชิน

    หมอขวัญฤดีส่งยิ้มแทนการตอบ แก้มเธอแดงนิดๆด้วยฤทธิ์ไวน์คูลเลอร์ ปริมาณแอลกอฮอล์เล็กน้อยทำให้เธอเจริญอาหาร แสงไฟส่องสว่างในห้องขับให้ผิวสองสีของหมอขวัญฤดีดูขาวกว่าทุกวัน ทรงผมซอยสั้นไว้ผมม้าด้านหน้าทำให้เธอแลดูคล้ายตัวละครเด็กหญิงในการ์ตูนของอาวัฒน์ การมีรูปร่างค่อนข้างเล็กด้วยแล้วยิ่งทำให้ดูน่ารักน่าเอ็นดู เธอเป็นที่ปรึกษาของเพื่อนๆได้เสมอ เพราะความใจเย็นและมองโลกในแง่ดี

    “ชั้นอยากรู้เหมือนกันว่าเธอกินอะไรถึงขยันจังเลยนะฮะ บุษกร” หมอปกรณ์แกล้งดัดเสียงเป็นสาวประเภทสองล้อเลียน หมอปกรณ์ที่ตัวเตี้ยแต่ขาวอวบลุกขึ้นทำท่าทางกะเทยตลกกำลังเมาต์ ทำเอาทุกคนหัวร่ออย่างสนุกสนานๆ

    “บ้าแล้วนายปกรณ์ ทะลึ่งนะ” หมอบุษกรขยุ้มกระดาษเช็ดปากขว้างใส่หมอปกรณ์แล้วยิ้ม หลังต่อว่าเธอทำจมูกย่นใส่เขาอีก เมื่อเธออารมณ์ดีและมีรอยยิ้มบนใบหน้า หน้าตาของเธอจะดูสวยขึ้นผิดตากว่าตอนเคร่งเครียดกับงานตรวจรักษาคนไข้

    “อาจารย์คะ ดูมันล้อเลียนหนู” เธอฟ้องหมอสันต์เมื่อเห็นหมอปกรณ์ลอยหน้าลอยตาแล้วค้อนให้เธอแบบสาวประเภทสอง

    หมอสันต์ยิ้มเผล่อย่างมีความสุข ความเคร่งเครียดจากงานหนักเมื่อตอนบ่ายมลายไปสิ้น เลียงหัวเราะเป็นช่วงๆสลับการรับประทานอาหารในมื้อนี้เป็นยาวิเศษ มันสามารถรักษาอาการเหนื่อยล้าของเขาได้เป็นอย่างดี สายตาของเขาสอดส่ายไปทั่วโต๊ะเพื่อเก็บความสุขและความทรงจำที่ดีในคืนนี้ไว้เท่าที่ทำได้

    เขาคิดว่าน้องๆพวกนี้ถ้าหากไม่ใส่ฟอร์มแล้วยังดูเหมือนเด็กมหาวิทยาลัยอยู่เลย ความอ่อนเยาว์และร่าเริงมีชีวิตชีวาของน้องๆนี่เองที่ช่วยทำให้เขากระชุ่มกระชวยขึ้น

    ไม่น่าเชื่อว่าน้องแพทย์เหล่านี้จะต้องไปเป็นกำลังหลักในการดูแลสุขภาพชาวชนบทที่ต่างอำเภอในสองสามเดือนข้างหน้านี้เอง ตามความเป็นจริงแล้วนี่เป็นภารกิจที่หนักหนาที่สุดภารกิจหนึ่งของประเทศนี้

    (มีต่อ)

    จากคุณ : ปัญญ์ ปิยะอเนก - [ 24 ก.ค. 48 16:22:47 A:203.172.112.11 X: TicketID:104429 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป