CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    " ความรัก .... (รักครั้งแรก)"

    ………………………………………………………………………………………

    “ เชื่อมั้ย ฉั้นเป็นคนขาดความรักนะ ” ผมเลิกคิ้ว เป็นคำตอบให้กับคำพูดของผู้หญิงที่นั่งข้างๆ
    “ ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ … ฉั้นเป็นคนกลัวความรัก ” เธอย้ำ ก่อนที่จะถอนหายใจแผ่วเบา แต่ผมยังเงียบ ลมเย็นๆ ของยามดึก พัดโชยมา ทำให้ผมรู้สึกตัว และตื่นจากความเงียบ เหมือนจะตอกย้ำว่าเธอพูดจริงๆ
    “ ไม่มีใครไม่กลัวความรักหลอก แล้วก็ไม่มีใครไม่กลัวความผิดหวัง.... ไม่รู้เหรอ ถ้าจะรักต้องไม่มีคำว่าเสียใจ ... ” เธอหันหน้ามามอง ขมวดคิ้ว เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะเอ่ยออกมา
    “ มาจากเลิฟสตอรี่ ไม่ใช่เหรอ... ทำหน้าซึ้งเหมือน คิดเอง ” เธอยิ้ม แล้วหันมามอง ผมหัวเราะนิดๆ แล้วก็ยิ้มตามเธอ คืนนี้แสงไฟ กลายเป็นแสงดาวเต็มเมือง .... ดาวกลางเมือง กับพระจันทร์ดวงกลมโต บนฟากฟ้า ผมยิ้ม ถือโอกาสโอบคนข้างๆ มาไว้ในอ้อมแขน ก่อนที่จะพูดต่อ
    “ แต่เราก็จะมีความทรงจำดีๆไม่ใช่เหรอ ” ผมก้มหน้ามองคนในอ้อมแขน เด็กขี้สงสัยในอ้อมแขนของผมพยักหน้า
    “ รักครั้งแรก ของคุณเป็นยังไงเหรอ ” แล้วเด็กขี้สงสัยก็ยังคงสงสัยอยู่ดี
    “ มันเศร้านะ จะให้เล่าเหรอ นับเป็นความเจ็บช้ำ ในชีวิตของผมเลย ”
    “ ถ้ายังเศร้า ยังเสียใจ ยังอดคิดไม่ได้ ก็กลับไปหาเค้าเถอะ ไม่ต้องเล่าแล้ว ” เธอเริ่มดินขลุกขลัก ออกอาการงอนๆ ให้เห็นชัดๆ หมั่นไส้นัก อยากรู้อะไรใช้ไม้นี้ทุกที ......ในความเป็นจริงสำหรับผม รักครั้งแรกมันอิ่มเอม และเจ็บช้ำเสมอ .. ยากที่จะลบเลือน แต่ก็หวานล้ำเจนใจในความรู้สึก เพราะคงยังรักไม่เป็น คนบนฟ้าจึงชี้ทางสว่าง ให้ปล่อยความรักเลยผ่าน ความรักที่ไม่ยั่งยืนลอยผ่านไปก่อน เพื่อรอที่จะพบคนที่ใช้ ในสักวันหนึ่ง ...

    ………………………………………………………………………………………

    ย้อนกลับไปสมัยก่อน ตอนที่กรุงเทพยังไม่มีรถไฟฟ้า ผู้คนไม่มากเท่านี้ ขณะที่ ห้างสรรพสินค้า ก็ยังมีจำนวนเบาบาง คล้ายๆจำนวนต้นไม้ในปัจจุบัน.......
    ปีสาม รักครั้งแรกของผมเกิดเมื่อผมอยู่ ปีสาม ชีวิตเรียบง่าย สบายๆ อาจเพราะปรับตัวได้แล้ว ไม่ต้องดิ้นรน เจนสถานที่ และ ใหญ่พอตัว .... รักครั้งแรกของผม เริ่มตรงฤดูฝน ..........
    เช้าวันแรกของการเปิดเรียน
    ภาพของผู้หญิงที่นั่งตรงระเบียง ค่อยๆยื่นมือ ออกไปเล่นกับหยาดน้ำฝน นอกอาคาร มันเป็นภาพความประทับใจลึกๆ ส่วนตัวของผม สาวน้อยร่างบาง ผมยาวที่ถูกผูกไว้ ยังคงไม่รู้สึกตัวว่าผมมองเธออยู่ เธอคงจะอยู่ปีหนึ่ง ผมคิด เพราะเห็นรองเท้าผ้าใบสีหม่นๆ ที่คงจะ เปื้อนดิน และน้ำฝน ..... ขณะที่ผมกำลังคิดว่า จะเข้าไปถามเธอดีหรือ ไม่ ว่าชื่ออะไรเรียนปีไหน มานั่งคอยใครอยู่ตรงนี้ และสานสัมพันธ์ต่อ มือหนักๆ ก็ตบลงมาบนไหล่ผม
    “ มายืนทำอะไรตรงนี้ว่ะ ” มารความสุขจริงๆ ผมคิด แล้วจึงลาก มือเพื่อนเดินออกไป ก่อนที่มันจะเห็นภาพสาวน้อยน่ารัก เหมือนที่ผมเห็น ก่อนที่มันจะกล้าเข้าไปจีบเธอ ก่อนที่ผมจะกล้า และในเย็นวันนั้นผมก็ได้รู้จักเธอ
    “ เจอเด็กปีหนึ่ง น่ารักอย่างงี้ ” เสียงเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มพูดเปิดเรื่อง... ภาวนาในใจ ขออย่าให้เป็นเธอคนนั้น
    “ ก็เห็นน่ารักทุกราย ... ” อีกคนพูดแทรกขึ้นมา เจ้าตัวคนพูดเปิดเรื่อง ส่ายหน้า
    “ น่ารักจริงๆ คนนี้ น้องเอ๋ ปีหนึ่ง ไม่เชื่อเดี๋ยวแกลองไปดูที่หอประชุมดิ กะจะชวนพวกแกไปดูอยู่เนี๊ย ” น้ำเสียงมั่นใจ ทำให้เพื่อนในกลุ่มบางคน ลุกตามคำชวน ผมก็ลุกด้วย แต่ไม่ใช่ตามคำชวน แค่อยากไปดู ว่าน้องเอ๋กับเธอคนนั้นเป็นคนเดียวกันรึเปล่า ถ้างานนี้เป็นคนเดียวกัน ผมคงจะถอนตัว ถ้าใครหลายๆ คนมองว่าเธอน่ารัก เหมือนที่ผมมอง โอกาสก็คงจะยาก ตัดใจดีกว่า ชีวิตตอนนี้ก็สุขสบายดี .....
    เหมือนฟ้าจะเข้าข้าง เธอไม่ใช่น้องเอ๋ แต่เธอเป็นเพื่อนน้องเอ๋...ยิ่งเห็นเธออีกครั้ง ความรู้สึก อยากรู้จัก อยากพูดคุย ก็พุ่งตรงมากลางใจ จะทำยังไง ให้ได้พูดให้ได้คุย ให้ได้รู้จักก็ยังดี ...ผมตัดสินใจถาม อย่างน้อยคนพามาดูก็น่าจะรู้คำตอบ
    “ เพื่อนของน้องเอ๋ คนที่นั่งข้างๆ ชื่ออะไร แกรู้รึเปล่า ” มันทำหน้าคิด
    “ ชื่อน้องวา ทำไมแกสนใจเหรอ ”……
    “ เปล่า แค่หน้าเหมือนเด็กแถวบ้าน สงสัยหน้าคล้ายกัน ” ผมโกหกไปเรื่อย ถ้ารู้ว่าการผิดศีลครั้งนี้ ผลกรรมมันตามทันจริงๆ ผมคงไม่โกหก .... หรือมาคิดๆ แล้วอาจจะโกหกดีก็ได้
    หลังจากวันนั้นผมก็ยิ้มทักทายเธอทุกเช้าที่เจอกัน ด้วยการที่เธอหันหน้าออกไปนอกอาคาร ผมเดินเข้ามา และผมก็ยิ้มให้เสี้ยวหน้าของเธอ เธอคงไม่รู้ตัว ขอในใจว่าให้เธอหันหน้ามาทางผมบ้าง เพราะผมไม่กล้า เข้าไปทักทาย เพราะผมอายเกินจะพูดกับคนที่ผมรู้ว่า ตัวผมชอบเขาไปเต็มๆ แม้จะยังไม่เคยพูดคุยกันก็ตาม แต่เธอก็ไม่หัน.......
    ไม่นานผมก็รู้จากเพื่อนด้วยความบังเอิญว่าเธอพักหอไม่ใกล้ไม่ไกลจากมหาลัย ไม่นานผมก็รู้หมายเลขห้อง และรู้อีกว่าเธอมานั่งตรงนี้ทุกๆเช้า ยกเว้น วันศุกร์ มันทำให้ผม มามหาวิทยาลัยเช้าทุกวันยกเว้นวันศุกร์ แม้จะไม่มีเรียนเช้า เริ่มเชื่อแล้ว ว่าความรักทำให้คนเปลี่ยน....
    จะเข้าไปทำของหล่น จะแกล้งเดินชน จะแกล้งแซว บ่อยๆ ดี หรือจะให้เพื่อนพาไปรู้จัก หรือจะ อยู่ๆก็เข้าไปแนะนำตัว ....หลังจากนั่งคิดอยู่นาน
    เขียนจดหมาย....คงเป็นวิธีเดียวที่ดีที่สุดที่ทำให้ได้รู้จักเธอ

    จดหมายรัก ฉบับที่ 1

    ถึงคุณ ...ธันวา
    สวัสดีครับ
    หวังว่าคุณจะอ่านจดหมายของผม... ผมเรียนปีสามคณะข้างๆ คุณ แต่ไม่กล้าเรียกคุณว่าน้อง เพราะไม่รู้ว่า คุณจะยอมให้ความสนิทกับผมระดับไหน ผมชื่อ วาทิต เห็นคุณมานาน แค่อยากรู้จักคุณบ้าง กะว่าจะไปพูดกับคุณตรงๆ แต่ผมก็ขี้อายเกินไป...หวังว่าคุณจะเห็นใจ ความจริงอยากเขียนจดหมายให้ยาวกว่านี้ แต่กลัวว่าคุณจะรำคาญ จดหมายสั้นๆ แต่ตั้งใจฉบับนี้ คงไม่รบกวนเวลาของคุณ มากเกินไป ขอให้คืนนี้คุณนอนหลับฝันดี นะครับ
    วาทิต


    3 วันแล้วที่ผมเฝ้าคอย จดหมายตอบที่มันน่าจะมีมาที่กล่องใต้หอ อาจจะเป็นเพราะไปรษณีย์ หรือเธอไม่ว่าง หรือเธอไม่ได้จดหมาย ..... แต่ทุกๆวันผมก็ยังยิ้มให้เสี้ยวหน้าของเธอ ใจจริงอยากเข้าไปถามว่าได้รับจดหมายของผมหรือไม่ แต่แล้ว มันก็...ไม่กล้า
    จนกระทั่งวันที่ 7 ก็มีจดหมายถึงนายวาทิต ปีสาม ที่กล่องใต้หอ


    สวัสดีค่ะ
    ขอโทษคุณด้วยที่ตอบช้า หาซื้อแสตมป์ยากเหลือเกินค่ะ จะเข้าไปส่งที่หอคุณ คิดแล้วว่าคงไม่เหมาะ อันที่จริงแล้ว วาเป็นรุ่นน้องของคุณการที่คุณจะเรียกวา ว่าน้องคงไม่แปลกอะไร และไม่อยากให้คุณขี้อาย ความจริงแล้วนั้น คงต้องจบจดหมายแค่นี้ ขอให้คุณหลับฝันดีเช่นกันค่ะ

    .................................................................................................................................................................................

    “ ถ้าเราบริสุทธิ์ใจ และไม่ได้ทำความผิดอะไร เพราะเหตุใดจึงจะต้องอายกันค่ะ “ ผมอ่านทวน วรรคนี้ เกือบสิบรอบ ใช่ แล้วผมจะอายอะไร ผมไม่ควรอาย แต่ความรักหนอ มันบังตา ผมยังคงไม่กล้า .... และยังอายอยู่ดี

    จดมายรัก ฉบับที่ 2 จึงเกิดขึ้น

    เช้าวันนี้อากาศดี แต่วันนี้เป็นวันศุกร์ แม้อากาศดี แต่จิตใจคงไม่ดีตามอากาศ เพราะคงไม่ได้พบหน้าคุณ..... หวังว่าคุณคงไม่โกรธ ผมที่แอบมองคุณ ... คุณบอกผมว่า ถ้าเราบริสุทธิ์ใจ และไม่ได้ทำความผิดอะไร เพราะเหตุใดจึงจะต้องอาย ... อันที่จริงผมก็เห็นพ้องไปกับคุณ... แต่คิดอีกที จิตใจผมมันคงไม่บริสุทธิ์เสียแล้ว เพราะทุกวันนี้ผมเป็นกังวล ที่จะต้องตื่นเช้ามาเพื่อให้เห็นหน้าคุณ อยากได้ยินเสียงคุณ แม้ว่าคุณไม่ได้พูดกับผมก็ตาม..จิตใจของผมนี้คงไม่บริสุทธิ์เสียแล้ว ... ขอสารภาพตามตรง ว่าผมยังคงอาย และไม่กล้า คุยกับคุณตรงๆ หวังว่าคุณคงจะเห็นใจ ...รุ่นพี่คนนี้
    ป.ล. ผมแนบแสตมป์ มาให้คุณด้วย เพราะขณะนี้ผมก็รบกวนเวลาคุณมากอยู่แล้ว และไม่อยากให้คุณลำบากเสียค่าใช้จ่ายให้วุ่นวาย .... ขอให้คืนนี้ คุณหลับฝันดี ...
    ......ยังคงเฝ้ารอจดหมาย จากคุณ
    ...................................................................................................................................................

    ผมไม่เรียกเธอว่าน้อง เพราะผมไม่อยากได้เธอเป็นน้อง... และผมก็ไม่อยากเป็นพี่ของเธอ ....
    และแล้วเวลาแห่งการเฝ้ารอก็มาถึงอีกครั้ง เวลามีความรัก แล้วหัวใจมันกระชุ่มกระชวย
    สวัสดีค่ะ
    ขอบคุณ คุณที่แนบแสตมป์ลายสวยๆ มาให้ค่ะ ...วาจะโกรธคุณทำไม เพราะถึงจะโกรธคุณยังไง ก็ใช่ว่าวาจะห้ามสายตาคุณได้ แม้ใจจริง ลึกๆ ยังแอบเคืองตัวเอง ที่มิทราบว่าตัวจริงๆ ของคุณวาทิตนั้นเป็นใคร ทั้งๆที่คุณวาทิตกลับเห็นวาอยู่ฝ่ายเดียว ความเป็นผู้หญิงของวาคงจะเสียเปรียบตรงนี้นี้เอง การจะไปถามใครต่างคณะว่าคุณวาทิตปีสามนั้นคือใคร กิริยาเช่นนั้น คงไม่เหมาะสมกับความเป็นผู้หญิง พาลให้ใครๆ ดูถูก เพราะเหตุนี้ วาจึงไม่คิดว่าควรจะเห็นใจคุณ ตามที่คุณได้ร้องขอมา สักเท่าไหร่.... ฝ่ายที่หน้าจะถูกเห็นใจ ควรจะเป็นวามากกว่า มิใช่หรือค่ะ .... สุดท้ายนี้ ไม่อยากให้คุณวาทิต ที่ยังขี้อายไม่กล้าเปิดเผยตัว ฝันดีเลยจริงๆ ...


    ..................................................................................................................................................................................

    จากคุณ : ละอองไอ - [ 1 ส.ค. 48 00:41:32 A:203.113.70.7 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป