~*~*~*~ โศกนาฏกรรมแห่งรัก ~*~*~*~
ร่างสูงก้าวเข้ามาในห้องที่มีเพียงแสงสลัวด้วยม่านยังรูดปิดสนิท เงียบจนได้ยินเสียงนาฬิกาเดิน มือที่ยื่นไปแตะม่านชะงักค้างราวกับผู้เป็นเจ้าของมือกลัวว่าแสงสว่างจากภายนอกจะสาดส่องให้เห็นภาพที่พาให้ใจเจ็บปวด
เสียงทอดถอนหายใจยาวก่อนที่ห้องทั้งห้องจะสว่างขึ้น เตียงเดี่ยวถูกคลุมด้วยผ้าปูเตียงสีฟ้าอ่อน หนังสือสองสามเล่มยังคงวางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ แผ่นซีดีเพลงมากมายยังคงวางเรียงอย่างเป็นระเบียบข้างสเตอริโอ ทุกอย่างถูกจัดวางให้คงสภาพเดิมแม้นว่าผู้เป็นเจ้าของห้องไม่ได้อยู่ที่นี่นานหลายปีแล้ว
ชายหนุ่มก้าวเข้าไปใกล้โต๊ะตัวเล็กข้างเตียง ภาพหญิงสาวในชุดราตรีสีดำ ผมยาวสลวยถูกปล่อยสยายเคลียแผ่นหลัง ดวงหน้าสวยยิ้มนิดๆ เหมือนเยาะหยัน ดวงตากลมโตฉายแววกร้าว ท่าทางที่บิดตัวเอียงข้างถ่ายรูปเหมือนนางแบบเจนเวทีผู้เย่อหยิ่ง
นิ้วเรียวไล้ตามใบหน้า พลางคิดว่า...ภาพนี้บ่งความเป็นตัวตนของคนในรูปได้เป็นอย่างดี ศศิพินทุ์แสร้งถือตัว เย่อหยิ่งกับความรักทั้งๆที่ความจริงแล้วยอมจำนนอย่างสิ้นเชิง ตัวเขาเองก็ผิดหากเพราะไม่ใช่การดื้อดึงเพื่อเอาชนะเรื่องราวทั้งหมดคงไม่ถึงจุดจบเยี่ยงนี้!
จะย้อนเวลากลับไปแก้ไขก็สายเสียแล้ว...
ชายหนุ่มยื่นมือไปดึงลิ้นชักข้างเตียงออกสมุดบันทึกเล่มหนายังวางนิ่งอยู่เช่นเดิม เขาหยิบมันขึ้นมาอ่านไม่รู้กี่ครั้ง เวียนอ่านอยู่เช่นนั้นจำจดเรื่องราวในอดีต
อดีตที่แสนเศร้า...ความหลังที่ร้าวราน กระนั้นเขาก็ยังเฝ้ารำลึกมันผ่านตัวอักษรของหญิงสาวที่เขายังรักอยู่ไม่เสื่อมคลาย
การแชทเป็นกิจวัตรประจำวันของเราไปเสียแล้ว อยู่กับมันมาเนิ่นนานหลายปีจนบางทีก็เริ่มเอียนกับคำถามเริ่มแรก ชื่ออะไร เรียนที่ไหน อะไรประมาณนี้ แต่วันนี้เจอคนแปลกๆตั้งชื่อแปลกคล้องกับชื่อเรายังกับกลอนแน่ะ...เขา...ดวงตะวันพลันลับเลื่อน เรา...ครั้นดวงเดือนก็สาดแสง...น่าเสียดายพอเรามาเขาก็ไปซะแล้ว ถามไถ่จากยัยกรถึงได้รู้ว่าเขาเป็นนักเรียนนายเรืออากาศ 555 เจอคนผมเกรียนอีกแล้วเรา...
ใบหน้าคร้ามคมอมยิ้มเมื่ออ่านถึงตอนนี้ เขายังจำได้ถึงคำพูดของหญิงสาวเจ้าของสมุดบันทึกเล่มที่อยู่ในมือ
ทำไมเดือนถึงได้วนเวียนอยู่ในแวดวงคนในเครื่องแบบก็ไม่รู้นะคะ
อยากอยู่แวดวงอื่นแล้วงั้นสิ แพทย์อย่างนี้น่ะใช่ไหม
แหม...พี่ซัน ดวงตากลมโตส่งค้อนได้น่าเอ็นดูยิ่งนัก นานเพียงใดเขาก็ไม่เคยลืมท่าทีกระเง้ากระงอดนั้นได้เลย ชายหนุ่มถอนหายใจก้มหน้าอ่านข้อความยาวเหยียดต่อ ทว่า...เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นเป็นเชิงขออนุญาตทำให้ต้องเงยหน้าเอ่ยปากบอกออกไป
ครับ ร่างสูงผุดลุกขึ้นจากเตียงก้าวตรงไปยังประตูห้อง
ขนมกับกาแฟค่ะ คุณดาวบอกว่าให้คุณซันรออีกนิดนะคะ กำลังเตรียมของส่งไปให้คุณเดือนอยู่ ดวงตาคมเข้มมองคุ้กกี้ในจานพลางเบี่ยงตัวหลบให้สาวรับใช้นำเข้าไปวางในห้อง มือใหญ่แข็งแรงยังถือสมุดบันทึกไว้แน่นไม่ใส่ใจกับสายตาของเด็กสาวที่แอบชำเลืองมอง
มากี่ที....ก็ขลุกอยู่แต่ในห้องคุณเดือน กี่ปีมาแล้วนะเนี่ย รู้ก็รู้เฝ้ารอไปก็เท่านั้น ยังไงก็ไม่สมหวังอยู่ดี เด็กสาวมุ่ยหน้ากับบานประตูไม้ที่ตนปิดงับลงอย่างเบามือ หากคนในห้องไม่ได้คิดเช่นนั้น....
การจ่อมจมอยู่กับอดีตท่ามกลางกลิ่นไอของหญิงคนรักเป็นหนทางเดียวที่เขาจะสัมผัสได้ถึงความรักครั้งเก่า ตัวอักษรรายเรียงเป็นระเบียบที่กลั่นกรองออกมาจากห้วงหัวใจของศศิพินทุ์...ความจริงที่เขาไม่เคยรู้ และสุดท้าย...สิ่งต่างๆที่ยังมีเงาของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของห้องก็พาให้เขารำลึกถึงความผิดพลาดในอดีต...ถือเป็นความผิดมหันต์ในชีวิตของเขาเลยทีเดียว
วันนี้ได้คุยกับเขาด้วยล่ะ นนอ.รวิชาติ ดูชื่อดิเหมือนจะร้อนแรงดังแสงตะวัน ที่ไหนได้เรากลับรู้สึกเหมือนเขาดูเอื่อยๆ ไหลเรื่อยๆยังกับธารน้ำยังไงยังงั้น รูปที่เขาส่งมาพลอยให้คิดว่าเคยเจอกันมาก่อน 555 ยังกะบทพูดของพระเอกในนิยายเลยเนอะ แต่เราเคยเจอกันมาก่อนจริงๆ ก็เขาเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนนี่นา มันต้องมีเดินผ่านกันบ้างแหละน่า มือแข็งแรงพลิกหน้ากระดาษ...นักเรียนนายเรืออากาศรวิชาติ เขารู้จักดีทีเดียวแหละ
พี่เขายังเล่าให้ฟังอีกว่า อาจารย์ที่ปรึกษาของเขาคือใคร อ.กรรณิการ์นั่นเอง โอย...มันยังมีอะไรที่บังเอิญอย่างนี้อีกไหม พอเรื่องมันเป็นอย่างนี้ เราสองคน...(ว้า...ทำไมใจมันสั่นๆพอเขียนคำนี้...เราสองคน) เลยนัดกันกลับไปเยือนโรงเรียนเก่าอีกที กลับไปกราบอาจารย์ที่ปรึกษากัน
(ไม่ได้เขียนตั้งหลายวันแน่ะ) แล้วเราก็เจอกันจนได้ พี่เขาก็ดูเหมือนกับตอนที่คุยในเน็ตนั่นแหละ ดูเรื่อยๆเงียบๆ สงสัยจะพิมพ์เก่งมากกว่าพูด เขาส่งกระดาษกับปากกาให้บอกว่า...เขียนที่อยู่ให้หน่อย พี่จะเขียนจดหมายถึงพระจันทร์ แล้วดวงอาทิตย์ก็เขียนจดหมายถึงพระจันทร์จริงๆ เราก็เพิ่งรู้ว่าคนเงียบๆเขียนจดหมายได้เชยสุดๆ เน่ามากๆ แต่ก็หวานล่ะนะ ยังแอบบอกเราอีกว่าแอบเขียนในห้องเรียน เพราะนอกจากเวลาเรียนขอนอนอย่างเดียว มีหยอดด้วยว่า...ถึงนอนแต่ก็ฝันถึงเดือนนะ คิดถึงทุกยามไม่ว่าหลับหรือตื่น เป็นไงล่ะสำนวนคนเงียบๆของฉัน
รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าคม พาดศีรษะกับพนักเก้าอี้แหงนเงยหน้าขึ้นมองเพดาน ย้อนคิดถึงเมื่อคราวเรียนในรั้วฟ้าเทา....ปลุกดวงใจห้าวฮึกการศึกษา ยากเข็ญเราตั้งตาเพียรบั่น...นอกเวลาเรียน นอกเวลาฝึก สิ่งที่นักเรียนนายเรืออากาศถือเป็นสิ่งสำคัญและพร้อมใจกันกระทำก็คือ...การนอน...นอนได้ทุกยามที่พัก หลับทุกครั้งที่มีเวลา
วันนี้ไม่มีข่าวคราวจากดวงตะวัน...
ดวงตะวันจะลาลับเลื่อนไปจริงๆเสียล่ะมั้ง เฮ้อ! สองสามหน้าของสมุดบันทึกที่ชายหนุ่มพลิกผ่านปรากฏข้อความเพียงบรรทัดเดียว
ต้องรออีกนานเพียงไหนถึงจะเห็นแสงแห่งตะวัน
เดินผ่านคู่รักที่จูงมือกันมันก็อดแปลบใจไม่ได้ ทำทุกอย่างให้ตัวเองดูยุ่งๆ ไม่ฟุ้งซ่านคิดถึงคนบางคน จนแล้วจนรอดเราก็ยังทำไม่สำเร็จสักที ใจมันคอยแต่จะแวบๆเพรียกหาดวงตะวันอยู่เรื่อย สายตาก็คอยแต่จะสอดส่ายผ่านตู้จดหมายหน้าบ้านหวังเพียงว่า...จะได้รับข่าวที่ส่งถึงพระจันทร์บ้าง
จากคุณ :
อุณากรรณ
- [
2 ส.ค. 48 17:18:39
]