************เรื่องโดย ปัญญ์ ปิยะอเนก **************
วันนี้อากาศขมุกขมัวแต่ไม่มีลม ควันธูปหน้าพระรูปพระราชบิดาบริเวณตึก72ปีโรงพยาบาลศิริราชลอยขึ้นสู่เบื้องบนช้าๆ
นักศึกษาแพทย์กลุ่มใหญ่กำลังเดินออกจากลิฟต์ชั้น1ของตึกสยามินทร์ พวกเขาเดินตามอาจารย์หมอเพื่อไปช่วยตรวจที่แผนกผู้ป่วยนอก
ทุกคนสงบเสงี่ยมในชุดเสื้อคลุมยาวสีขาว อนาคตของสุขภาพชาวไทยฝากไว้กับหัวกะทิเหล่านี้
แพทย์ในชุดเสื้อฟอร์มสีขาวเดินกันอย่างรีบเร่ง แลดูจะรู้สึกถึงความเอาใจใส่คนไข้
ผู้คนจึงหลั่งไหลกันมารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธา
เสียงคนไข้คุยกันเบาๆ ส่วนใหญ่คงพูดกันเรื่องสุขภาพ นางบังอรวัยเกือบห้าสิบปีกำลังนั่งรอตรวจที่ห้อง 101 ศัลยศาสตร์
สัปดาห์ก่อนเธอเป็นพยาบาลแต่วันนี้เธอเป็นคนไข้ไปแล้ว ถึงเธอจะป่วยแต่เธอก็ยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า มันเป็นเครื่องหมายแสดงถึงสุขภาพจิตที่ดี
สีหน้าของเธอไม่ได้แสดงความวิตกอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งที่เธอกำลังป่วยหนัก และมารอฟังผลการตรวจที่อาจจะเป็นข่าวร้าย
สายตาของเธอกลับมองคนไข้รายอื่นที่มารับบริการด้วยความเห็นใจ เพราะมีชะตากรรมเดียวกัน คนทุกข์มักจะเข้าใจคนทุกข์ด้วยกันได้ดีเป็นพิเศษ
"คุณบังอรเชิญพบแพทย์ค่ะ" พยาบาลหน้าห้องเรียกหา
เธอรีบลุกขึ้นยืนแต่ตัวเซไปข้างหลังเล็กน้อย ลุงปันพี่ชายวัยหกสิบสี่ปีที่นั่งเป็นเพื่อนข้างๆรีบประคองไว้ทัน
หน้าตาของลุงปันดูไม่ได้เอาเสียเลย ใบหน้าที่ยับยู่ยี่ดัวยริ้วรอยวัยชรานั้นส่อแวววิตก
ผมสีดอกเลาตกลงมาปรกหน้า ดวงตาหมองหม่นเหมือนคนสูญเสียคนรักไปหมาดๆโดยไม่ได้ล่ำลา
แกประคองบังอรเดินเข้าห้องตรวจ แต่ดูท่าทางเหมือนกับว่า แกกำลังจะก้าวขึ้นสู่ตะแลงแกง น้ำหูน้ำตาเริ่มจะไหลออกมา
"ไม่เอาน่า พี่ปัน หนูยังไม่ได้เป็นอะไรมากเลย พี่ปันทำยังกะว่าหนูจอดไปแล้วยังงั้นแหละ เดี๋ยวหนูก็ใจเสียไปด้วยเลยนี่ พี่ปันทำใจดีๆไว้ก่อนค่ะ " บังอรปลอบลุงปันที่ดูเหมือนป่วยหนักกว่าบังอรไปเสียแล้ว
"ก็ข้าห่วงเอ็งนี่หว่า มีน้องอยู่คนเดียว ถ้าไม่ห่วงเอ็งกะลูก จะให้ข้าไปห่วงใครที่ไหนกันวะ" ลุงปันมองค้อนบังอรที่เป็นญาติไม่กี่คนในชีวิตของแก แล้วเอาหลังมือปาดน้ำตา
สองพี่น้องถ้อยทีถ้อยอาศัยประคองกันเดินเข้าห้องตรวจโรคไป
จากคุณ :
ปัญญ์ ปิยะอเนก
- [
3 ส.ค. 48 08:27:02
A:202.183.170.15 X: TicketID:104429
]