CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ~~ ~~~ธิดาแห่งเอมุน (บทที่ 30 ตอนที่ 1)~~ ~~~

    เจ้าชายธูติย์ เสนาบดีมหาดไทย ผู้ที่คัซซาร์ต้องการพบหนักหนาในเวลานี้ ประทับยืนเจรจาความด้วยสีพระพักตร์เคร่งเครียดท่ามกลางกลุ่มคนในชุดเครื่องแบบสีกรมท่าของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์


    ความทุกข์ร้อน ความกลัดกลุ้มฉาบทาอยู่บนทุกดวงหน้าที่เขามองเห็น และเด่นชัดพอๆกับแววพระเนตรเหนื่อยล้าของผู้ที่ทำหน้าที่เป็นประธานของการชุมนุมในพระราชวังอับดิน


    เสียงโต้เถียงอย่างเผ็ดร้อนดังก้องกระหึ่มออกมาถึงปากทางเข้า และนั่นทำให้เท้าที่กำลังจะเหยียบย่างเข้าไปในห้องของคัซซาร์ต้องชะงักลง ชั่วขณะที่ชายหนุ่มกำลังตัดสินใจจะล่าถอยออกไปนั่นเอง สายพระเนตรของเจ้าชายธูติย์ก็ผ่านมาเห็นคนที่ยืนรีรออยู่บริเวณประตูเข้าเสียก่อน ผู้สูงวัยทรงยุติบทสนทนานั้นในทันที แล้วทรงดำเนินลิ่วมาทางร่างสูงๆของชายหนุ่มอย่างรีบร้อน ปล่อยให้คนที่เฝ้าแหนในเบื้องแรกใช้สายตาขุ่นเขียวมองผู้ที่เข้ามาใหม่อย่างไม่สบอารมณ์นัก


    สีพระพักตร์ของผู้ที่รีบรุดออกมาต้อนรับ บ่งบอกถึงความกังวลในพระทัยอย่างลึกซึ้ง และถ้าตาไม่ฝาด เขาคิดว่าดูเหมือนเจ้าชายธูติย์จะทรงชราภาพเพิ่มขึ้นอีกเป็นสิบปีนับจากวันเมื่อวาน


    “ดีเลยคัซซาร์ ถ้าเธอไม่มาหาฉันคงจะให้คนไปตามที่บ้านของเธอแล้ว” ทรงเริ่มบทสนทนาด้วยพระสุรเสียงเคร่งหากแผ่วเบาปานกระซิบ


    “เรื่องขบวนประท้วงหรือพระเจ้าค่ะ” คัซซาร์ทราบทูลด้วยระดับเสียงเดียวกัน


    “ใช่” ท่านเสนาบดีมหาดไทยทรงพยักพระพักตร์รับข้อสันนิษฐานนั้นอย่างตรงไปตรงมา นิ่วพระขนงมุ่นทีเดียวยามที่ตรัสเสียงหนัก


    “ฉันบัญชาการตำรวจแทบจะไม่ได้เลยคัซซาร์ พวกชั้นประทวนพักเวรกันหมด สัญญาบัตรระดับล่างก็พักเวร เหลือแต่พวกนายพันกับนายพลแค่กระหยิบมือ” ตวัดพระเนตรคมไปยังกลุ่มคนที่ยืนรออยู่เบื้องหลัง แทนการอธิบายความให้อีกฝ่ายรับรู้


    “จะไล่ให้ออกไปรักษาความสงบฉันก็เกรงว่าจะเป็นลมเป็นแล้งกันไป”


    “พวกที่พักเวร ป่านนี้คงจะเข้าร่วมขบวนประท้วงเรียบร้อยไปแล้วพระเจ้าค่ะ” ชายหนุ่มกราบทูลราบเรียบ ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วก็พูดออกไปว่า


    “ตอนที่เกล้าฯกลับเข้ามาที่ไคโรเมื่อเช้า แล้วเห็นขบวนประท้วงยังชุมนุมกันหนาแน่นไม่ผิดไปจากเมื่อวาน หวั่นใจแล้วว่าอาจจะทรงมีเรื่องลำบากพระทัย...”


    “ไม่ใช่แค่ลำบากใจหรอก แต่มันเป็นเรื่องที่บีบคั้นจนฉันจะหายใจไม่ออกมากกว่า” ตรัสประชดเสียงขุ่น ผินพระพักตร์ไปทางผู้ใต้บังคับบัญชาที่ยังยืนออรอรับพระบัญชาอย่างอดทน แล้วก็ระบายพระปัสสาสะเฮือกใหญ่  


    “เกมส์นี้ของกองกำลังอิสระเหนือชั้นจริงๆ บีบให้อังกฤษโจมตีอิสเมเลีย แล้วสั่งการให้ตำรวจปะทะกับอังกฤษ ปลุกปั่นความโกรธแค้นของประชาชนที่มีต่ออังกฤษขึ้นมา และแน่นอนว่าตำรวจที่อยู่ในไคโรก็คงจะเจ็บแค้นแทนเพื่อนร่วมงาน พากันละทิ้งหน้าที่ออกไปเดินขบวนประท้วงกันหมดอย่างที่เธอว่า”


    “ที่ร้ายก็คือ ฉันยังมองหนทางแก้เกมส์ไม่ออกเลยสักนิด” เจ้าชายธูติย์รับสั่งอย่างกลัดกลุ้ม ไขว้พระกรไว้กับเบื้องพระปฤษฎางค์แล้วก็ทรงดำเนินวนเวียนอยู่ในบริเวณนั้น


    “ตัดไฟแต่ต้นลมเถิดพระเจ้าค่ะ” เสียงกราบทูลแผ่วเบากระซิบกระซาบ ดังตอบออกมาจากปากคู่สนทนา


    “ก่อนที่อะไรอะไรมันจะเลวร้ายไปกว่านี้ และก่อนที่ความวุ่นวายจะลุกลามกินวงกว้าง กำจัดต้นเพลิงเถิดพระเจ้าค่ะ”


    “ทั้งหมดอย่างนั้นหรือ” กระแสรับสั่งสั้นอย่างยิ่ง หากคำตอบก็สั้นปานกัน


    “ถ้าไม่ทั้งหมด เราก็หมดสิ้นพระเจ้าค่ะ”

    จากคุณ : ปาล์ม. - [ 5 ส.ค. 48 04:11:46 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป