CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ~~ รักยัยคนนี้ เมรีขี้เมา ~~ ตอน8

    ตอนที่ 8



    ตั้งแต่กลับมาจากทะเลนทีก็มัวแต่เร่งทำงานที่ทิ้งไป ทั้งยังใกล้วันเปิดเทอมต้องเตรียมแผนการสอนอีกจึงทำให้ไม่ได้พบเจอพิธีกรสาวคู่ปรับอีกเลย  จะมีก็แค่เห็นเธอไวๆ ตอนขับรถออกไปจากคอนโดอยู่ 2 ครั้ง  วันนี้เพิ่งจะพอหาเวลาว่างได้บ้าง จึงตัดสินใจลองไปกดกริ่งห้องเธอดู



    รออยู่นานจนนทีคิดว่าคงไม่มีคนอยู่  ตั้งใจจะไม่รอแล้วนั่นแหละ  ประตูห้องจึงเปิดออกพร้อมกับหน้าขาวใสที่ดูซีดเซียวยื่นออกมาถามเขาว่ามีธุระอะไร



    “คือผม  ..  นี่คุณเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ยคุณเม  เหมือนจะไม่สบายนะ”  นทีที่ตั้งใจจะมาขอโทษที่วันนั้นพูดไม่ดีกับเธอ  ก็เปลี่ยนเป็นถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกขึ้นมาทันทีเมื่อได้เห็นสีหน้าของเธอเข้า   เมธาวีตอบปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นอะไรและพอดีกับเสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้น  เธอจึงค่อยๆ พาร่างบางเดินไปรับโทรศัพท์



    “ค่ะ  เมกำลังจะออกไปแล้วค่ะ  ...  เปล่าค่ะ  แค่ปวดหัวนิดหน่อยแต่ทานยาแล้วค่ะ ...  ค่ะดีขึ้นแล้วค่ะ ...  ค่ะ  เจอกันค่ะ”  เสียงเธอตอบรับกับปลายสายเป็นช่วงๆ  ซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นทีมงานจากสตูดิโอรายการเลดี้ไกด์



    “ถ้าคุณไม่มีธุระอะไรฉันก็ขอตัวนะ  จะไปทำงาน”  เมธาวีเดินกลับมาพูดพร้อมดันประตูจะปิด  แต่นทีที่สังเกตอาการของเธอแล้วไม่เชื่อว่าไม่เป็นอะไรจึงดันประตูไว้ก่อน  ซึ่งเขาเพียงออกแรงเบาๆ  แต่กลับมีผลทำให้เธอเซไปกองกับพื้น ทำเอานทีตกใจรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างบางนั้นให้ลุกขึ้น  และก็รู้ได้ทันทีว่าตอนนี้เธอกำลังมีไข้สูงทีเดียวเพราะความร้อนจากเนื้อตัวนุ่มนิ่มของเธอนั้นถ่ายเทมาที่ตัวเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่แตะโดนตัวเธอ



    “นี่คุณเป็นไข้นี่  ไปหาหมอนะผมจะพาไปเอง”  นทีกล่าวพลางช้อนร่างบางขึ้นทันทีโดยไม่ฟังคำทักท้วงเบาๆอย่างอ่อนแรงของคนในอ้อมแขนเลย



    ....  ให้ตายสิ  เป็นไข้ขนาดนี้คุณเธอยังมีแก่ใจไปทำงานอีกเหรอเนี่ย ....  แล้วก็ได้แต่นึกขัดใจนิสัยดื้อรั้นของคนที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ  ที่ตอนนี้ใบหน้าซูบซีดเปลี่ยนมาเป็นแดงจัดเพราะพิษไข้  โดยที่ตัวเองนั้นก็ขับรถอย่างรีบร้อนตรงไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด



    เมื่อส่งคนป่วยถึงมือหมอเรียบร้อยแล้วนทีก็รีบโทรบอกนัทมนเพื่อแจ้งให้ทีมงานที่สตูฯได้รู้ทันที



    “หา  พี่เมเข้าโรงพยาบาลเหรอคะ”  เสียงตื่นตระหนกของเธอนั้นเรียกความสนใจจากคนในสตูฯได้เป็นอย่างดี   หลังจากวางสายไม่นานศรัณย์  พิงค์กี้  และนัทมนก็เข้ามายังห้องพักคนป่วยของเมธาวีทันที



    “คุณเมเป็นยังไงบ้างครับ”  ศรัณย์เอ่ยปากถามทันที  สายตาห่วงใยนั้นจับจ้องอยู่แต่ใบหน้าขาวซีดของคนร่างบางที่ตอนนี้หลับใหลอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา



    “คุณหมอบอกว่าพักผ่อนน้อยและเครียดมากไปครับ  ให้พักผ่อนมากๆ  ทานยาบำรุงและไม่คิดมากอาการก็จะดีขึ้นเอง”  นทีตอบเสียงเรียบ



    คนทั้งสี่รอจนเมธาวีรู้สึกตัวขึ้นมา  โดยมีศรัณย์รีบถลันไปถึงขอบเตียงเป็นคนแรก



    “เป็นยังไงบ้างครับ  รู้สึกดีขึ้นมั้ย”  น้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความห่วงใยนั้นทำเอานทีรู้สึกขัดใจขึ้นมาดื้อๆ



    “คุณศรัณย์  พี่พิงค์กี้  นัทด้วยเหรอ  มากันได้ไงคะเนี่ย”  เมธาวีไม่ตอบคำถามหากเอ่ยเรียกชื่อแต่ละคนที่เธอมองเห็นอยู่รอบๆเตียงแทนด้วยความแปลกใจ



    “รู้ตัวรึเปล่าว่าเมน่ะไข้สูงมากเลยนะ  ดีที่คุณนทีช่วยพาส่งโรงพยาบาล  แล้วก็โทรไปบอกนัทที่กองถ่าย  พี่กับทีมงานก็ตกใจเป็นห่วงกันแทบแย่  ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ  ป่วยก็บอกว่าป่วยสิไม่ต้องฝืนไปทำงาน”  พิงค์กี้เล่าย้อนความให้คนป่วยได้รู้  พร้อมทั้งติติงคนป่วยปากแข็ง



    “เมไม่เป็นไรมากนี่คะ แค่ปวดหัวเอง  แล้วคุณหมอว่าไงบ้างคะ  ให้กลับได้เลยใช่มั้ยคะ  เมอยากกลับคอนโดแล้วล่ะค่ะไม่ชอบโรงพยาบาลเลย”  เมธาวีเถียงเสียงเบาก่อนถามต่ออีกเป็นชุด



    “โอ๊ย .. ค่อยๆถามก็ได้  แต่เรื่องกลับคอนโดน่ะบอกได้เลยว่าไม่ต้องพูดถึงเลย  กลับไปใครจะดูแล  พี่ว่าอยู่ที่นี่ซักสองวันดีกว่านะ”  พิงค์กี้ร้องเสียงสูงเมื่อเจอคำถามชุดนั้นเข้า  ก่อนขัดเรื่องกลับคอนโด



    “ถ้ายังไงผมจะไปคุยกับคุณหมอให้นะครับ  เผื่อว่ากลับได้คุณเมจะได้ไม่ต้องฝืนใจอยู่โรงพยาบาล”  ศรัณย์นั้นเอาอกเอาใจเมธาวีอย่างออกนอกหน้า  ทำให้หน้าสวยเฉี่ยวที่ออกจะซีดเซียวนั้นหันไปมองคนรับอาสาและยิ้มให้เขาอย่างฝากความหวัง  ศรัณย์กับพิงค์กี้จึงแยกออกไปคุยกับคุณหมอ  ส่วนคนที่ยืนมองอยู่ห่างๆนั้นได้แต่นึกค่อนในใจ  ...  ตามใจกันเข้าไป  พอๆกับนายกฤชกะยัยนัทเลย  ดีแต่ตามใจเห็นดีเห็นงามกันไปซะทุกเรื่อง  ....



    “ผมว่าคุณน่าจะอยู่โรงพยาบาลก่อนนะ  ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาอีกที่นี่ยังมีทั้งหมอและพยาบาลช่วยกันดูแล”  นทีท้วงขึ้นอย่างไม่จริงจังนัก  เพราะเริ่มจะเรียนรู้ในเรื่องความดื้อรั้นของคนที่นอนป่วยนี้ดีแล้วว่ายืนยันยังไงก็ต้องทำอย่างนั้นให้ได้  และยิ่งเป็นข้อเสนอของเขาด้วยแล้วคุณเธอมีแต่จะยิ่งปฏิเสธ



    “มันเรื่องของฉัน”  เมธาวีพูดใส่เขาอย่างคนถือดีทั้งๆที่ยังไม่ค่อยมีแรงจะพูด  เพราะยังนึกเคืองเรื่องที่เขามาพูดดูถูกเธอที่ทะเลในคืนก่อน



    “เอาแต่ใจเป็นยัยนัทไปได้”  นทีส่ายหน้าอย่างระอา



    “อ้าว  ไหงมาลงที่นัทได้ล่ะคะ”  นัทมนที่นั่งฟังคนทั้งคู่เถียงกันอยู่อย่างไม่มีส่วนร่วมก็ถูกดึงเข้าไปเกี่ยวจนได้  แล้วก็รีบพูดต่อ



    “แต่นัทก็เห็นด้วยกับพี่นทีนะคะ  พี่เมน่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลก่อนกลับไปก็ไม่มีใครดูแล”  



    เมธาวีมองเห็นความหวังดีอย่างจริงใจในดวงตาใสคู่นั้นของคนตัวเล็กแล้วก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน  ก่อนหุบยิ้มลงอย่างเศร้าๆ  ....  ก็เพราะว่าอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครดูแลน่ะสิ  พี่ถึงอยากอยู่ที่คอนโด  ไม่ต้องอายหมออายพยาบาลที่ไม่มีคนมาคอยดูแลเหมือนคนไข้คนอื่นๆ เค้า ....



    นทีมองดูอยู่ตลอดเห็นแววตาอ้างว้างของเธอก็นึกสงสารอยู่บ้าง  จึงเอ่ยปากขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจ



    “อยู่ที่นี่เถอะ  ผมจะพายัยนัทมาเยี่ยมคุณทุกวัน”  น้ำเสียงเรียบๆ  แต่ฟังแล้วก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาได้เหมือนกัน  เมื่อมองไปยังคนพูดก็เหมือนว่าได้เห็นแววห่วงใยในตาคมคู่นั้น  หากแต่ก็เพียงแวบเดียว  ต่างก็รีบเมินสายตาไปทางอื่นด้วยกันทั้งคู่



    “ใช่ค่ะ  นัทจะมาเยี่ยมพี่เมทุกวันเลยค่ะ  มาวันละหลายๆรอบด้วย”  นัทมนรีบกล่าวเสริม  นึกดีใจที่ได้ช่องทางให้นทีได้ใกล้ชิดกับเมธาวี



    แล้วสุดท้ายเสียงข้างน้อยของคนป่วยก็แพ้เสียงข้างมากของคนเยี่ยม  เพราะทุกคนขอให้พบกันครึ่งทาง  ดังนั้นเธอจึงจำต้องอยู่โรงพยาบาลก่อน 1 คืน  พรุ่งนี้ค่อยกลับบ้าน  โดยมีศรัณย์อาสาจะอยู่ดูแลเธอให้เอง  



    “ไม่ได้หรอก  นายเป็นผู้ชายแถมไม่ได้เป็นอะไรกันกับพี่เม  ใครรู้เข้าเค้าก็ต้องบอกว่าน่าเกลียด”  นัทมนรีบขัดขึ้นมาทันที  พร้อมกับเสนอตัวอยู่เป็นเพื่อนเมธาวีเอง  เพราะว่าจะได้เป็นการเปิดทางให้พี่ชายของตนด้วย  แต่ศรัณย์ที่เริ่มจะรู้ทันสาวน้อยตรงหน้าว่าคิดจะหาโอกาสให้พี่ชายตนทำคะแนน จึงเอ่ยขัดขึ้นมาบ้าง



    “แต่เราเป็นเด็กจะช่วยเหลือคุณเมได้ยังไง”  จึงขัดขึ้นบ้าง



    “ใครว่าเราเด็ก  เราอยู่ปีสองแล้วนะ  ถ้าเรียนพยาบาลก็ได้เริ่มฝึกขึ้นวอร์ดดูแลคนไข้แล้ว”  นัทมนยังคงเถียงข้างๆ คูๆ อย่างยอมไม่ลดละ



    “แต่เราก็ไม่ได้เรียนพยาบาลนี่”  ศรัณย์ดักคอต่อ



    เมื่อคนฟังทั้งสามเห็นท่าว่าสงครามน้ำลายนี้คงไม่หยุดง่ายแน่ๆ  พิงค็กี้จึงอาสาเป็นคนอยู่เอง  จึงทำให้ศรัณย์และนัทมนยุติการเถียงกันได้  แล้วแยกย้ายกันกลับไป



    #  #  #  #  #  #  #  #  #  #  #  #  #  #  #

    จากคุณ : กรุ่นกลิ่นแก้ว - [ 5 ส.ค. 48 16:09:01 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป