..แบบคนเขียนคิดถึงหมอณัฐและหนูนิดก็เลยเขียนตอนพิเศษนี้ขึ้นมาล่ะ ..ร่วมทั้งยังเขียน Love stories ตอนใหม่ไม่ออกก็เลยแว็บมาแต่งเรื่องอื่น ..แหะ แหะ
ฟ้าหลังฝน ภาคพิเศษ..คืนและวันของสองเรา
ท้องฟ้ายามปราศจากสายฝน แจ่มใสกระจ่างตา จนคนมอง อดจะอมยิ้มตามไม่ได้ ..พรุ่งนี้แล้วสินะที่ณัฐวุฒิจะได้ออกจากโรงพยาบาลภายหลังจากเข้ารักษาตัวด้วยอุบัติเหตุมาเกือบสองอาทิตย์ แต่ก็เพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ของนายแพทย์หนุ่มที่ทำให้นิทราได้กลายมาเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เปลี่ยนมาใช้นามสกุล 'จรุงเจริญกิจ' ของเขาจริงๆ เสียที
..แม้จะปฏิเสธว่าไม่ต้องการสิทธิตามกฎหมาย หรือทะเบียนตีตรา แต่ลึกๆ แล้วหญิงสาวก็อดจะดีใจไม่ได้ ก็ในเมื่อบัดนี้เธอไม่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ม่ายลูกติด ให้ใครๆ ครหาได้อีก ลูกสาวเธอก็มีพ่อเป็นตัวเป็นตน ไม่ต้องน้อยหน้าเด็กคนใดอีกยามที่เด็กหญิงจะโตขึ้นและรู้ความมากกว่านี้ แถมจากที่เคยกลัวว่าครอบครัวของชายหนุ่มจะไม่ยอมรับก็ไม่กลายเป็นความจริงเมื่อดูท่าว่าแม่สามีจะรักและเอ็นดูเธอและลูกเกินกว่าจะรังเกียจเดียจฉันท์ว่าเป็นแค่เพียงพยาบาลบ้านนอกคนหนึ่งเท่านั้น
..คงไม่มีฟ้าหลังฝนใดจะสดใสกระจ่างตาไปมากกว่าฟ้าหลังพายุฝนที่พัดเข้ามาในชีวิตของหญิงสาวอีกแล้ว
"มองอะไรอยู่หรือจ๊ะนิด ..มีอะไรอยู่ข้างนอกหรือ พี่ตื่นมาก็เห็นนิดยืนมองอยู่นานแล้ว"
เสียงขยับตัวพร้อมทั้งเสียงพูดดังขึ้นด้านหลัง นิทราหันกลับมามองจึงเห็นว่านายแพทย์ที่ตอนนี้กลายมาเป็นคนไข้และได้ชื่อว่าเป็นสามีตัวเองแล้วนั้นกำลังพยายามลุกจากเตียงโดยคว้าไม้ยันรักแร้ข้างเตียงคนไข้มาพยุงตัวเองเนื่องจากยังอยู่ในสภาพที่ไม่เอื้ออำนวยกับการเดินเหินไปไหนต่อไหนนัก หญิงสาวรีบผละจากระเบียงห้องพักคนไข้รีบเข้ามาช่วยพยุงชายหนุ่ม
"..ค่อยๆ ลุกนะคะพี่ณัฐ ตื่นนานแล้วหรือคะ แล้วจะลุกทำไมไม่เรียกนิดล่ะคะ"
"ก็สักครู่แล้วล่ะจ๊ะ เห็นนิดยืนมองฟ้าไปก็อมยิ้มไป กะว่าจะลุกไปดูด้วยว่ามีอะไรข้างนอก เมียพี่จึงยิ้มไม่หุบอย่างนี้" ณัฐวุฒิว่าพลางโขยกเขยกตัวเองโดยพยายามไม่ถ่วงน้ำหนักไปยังด้านที่นิทราช่วยพยุง เพื่อจะเดินไปยังจุดที่หญิงสาวผละออกมานั้น
"ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่ฝนเพิ่งหยุดตก นิดก็เลยลุกออกมายืนดูอะไรเงียบๆ ก็พอดีเห็นรุ้งกินน้ำ อยากให้พี่ณัฐมาเห็นด้วย แต่ก็ไม่อยากจะปลุก แล้วพี่ณัฐก็ลุกขึ้นมาพอดี ..นั่นไงคะ รุ้งกินน้ำ ..ถ้าพี่ณัฐลุกมาช้ากว่านี้คงไม่ได้เห็นแล้ว" พยาบาลสาวที่ตอนนี้กลายมาเป็นพยาบาลส่วนตัวของคนไข้อภิสิทธิ์ผู้นี้ยิ้มให้ทั้งปากและตา ณัฐวุฒิจึงอดไม่ได้ที่จะคว้าเอวของภรรยาสาวโอบเข้ามาแนบสนิทกับตัวเขามากยิ่งขึ้น
"ฟ้าหลังฝนสดใสเสมอล่ะจ๊ะ ยิ่งเป็นฟ้าที่มองด้วยดวงตาคู่ที่สดใสของนิด มันคงดูสวยเป็นพิเศษแน่ๆ แต่สำหรับพี่ พี่ว่าหน้านิดน่ามองกว่าฟ้าเยอะ" พูดจบ เขาก็ก้มหน้าลงจูบขมับของคนในอ้อมแขนเอาดื้อๆ
"พี่ณัฐเนี่ย รุ่มร่ามจริง ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวใครเข้ามาเห็นเข้า ..จะได้เวลาคุณหมอเข้ามาเยี่ยมแล้วด้วย" หญิงสาวเบือนหน้าออก ตีเขาเบาๆ ที่ต้นแขนโทษฐานที่ทำอะไรโจ่งแจ้งในที่ที่อาจจะมีใครเข้ามาเห็นได้ง่ายๆ
"ว้า นิดเนี่ย กลัวอะไรไม่เข้าท่า ถึงใครจะเข้ามาเห็นก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ..พี่จะจูบเมียตัวเอง ไม่ได้ไปจูบคนอื่นสักหน่อย ..ตกลงพรุ่งนี้พี่จะได้กลับบ้านแล้วใช่ไหม ดูสิ.. ตัวเองเป็นหมอแท้ๆ แต่ต้องมานอนอยู่โรงพยาบาลให้หมอคนอื่นตรวจ ..แล้วไม่รู้ว่าจะได้กลับมาทำงานเมื่อไหร่ หลังจากตัดเฝือกก็ต้องทำกายภาพอีก ..พอดีกว่าจะคืนทุนที่ขอมาพี่มิต้องทำใช้หนี้ไปจนแก่หรือนี่"
ชายหนุ่มบ่นด้วยสีหน้าที่แสดงให้ทราบว่าเบื่อหน่ายสุดขีดที่ต้องมานั่งๆ นอนๆ เป็นคนไข้อยู่ในโรงพยาบาลแทนที่จะได้ทำหน้าที่แพทย์อย่างที่ตัวเองเสียเวลาร่ำเรียนมาเป็นเวลานานๆ แทน
"นิดเพิ่งรู้ว่าพี่ณัฐก็ขี้บ่นเหมือนกันนะ เห็นขรึมๆ วางตัวสุภาพออกขนาดนี้ ไม่นึกว่าเวลาไม่ถูกใจอะไรก็ทำตัวเป็นเด็กๆ เอาแต่ใจตัวแบบนี้" นิทราว่ายิ้มๆ ขณะที่พาเขามาที่เตียงและปรับเตียงคนไข้ขึ้นเพื่อให้เขาเอนหลังแทน
"ก็แน่ล่ะสิ ถ้าพี่ไม่เอาแต่ใจตัวเองอย่างวันที่พี่พานิดเข้าโรงแรม พี่จะรู้เหรอว่าเมียพี่ยังไม่เคยตกเป็นของใครนอกจากพี่คนเดียว" ณัฐวุฒิย้อนเหตุการณ์ที่ทำเอาภรรยาสาวมองค้อน หน้าแดงกับวาจาโจ๋งครึ่มของเขา
"และถ้าพี่ไม่ทำตามใจตัวเองปล่อยให้นิดพาลูกเดินจากพี่ไป เราสองคนจะมีวันนี้หรือ" เขาว่า พร้อมทั้งฉุดหญิงสาวให้ลงมานั่งข้างเขา "..ออกจากโรงพยาบาลแล้ว พี่ไม่ยอมให้นิดกลับไปอยู่บ้านแล้วนะ นิดต้องย้ายของมาอยู่กับพี่ พาน้องนัทกับแม่มาอยู่ด้วยกัน ตอนนี้นิดไม่ต้องกลัวเรื่องใครจะครหาอีกแล้ว ทุกคนรู้แล้วว่านิดเป็นเมียพี่ น้องนัทเป็นลูกพี่ ..ถ้านิดยังไม่ยอมย้ายไปอยู่กับพี่นี่สิ ใครเขาจะว่าได้ว่าพี่ไม่ยอมดูแลลูกเมีย"
"นิดไม่ได้บอกสักนิดว่าจะไม่ไปอยู่กับพี่ณัฐ ..ตอนนี้พี่ณัฐอยู่คนเดียวคงทำอะไรไม่สะดวกเท่าไหร่ ยังไงนิดก็ตั้งใจจะไปอยู่ดูแลพี่ณัฐอยู่แล้วล่ะ แต่แม่นิดสิค่ะ แม่บอกว่าไม่อยากทิ้งบ้าน จะอยู่ดูแลบ้านเผื่อว่าพี่วัชจะมา นิดขอเท่าไหร่แม่ก็ไม่ยอม นิดไม่อยากให้ท่านอยู่คนเดียวเลย.."
"อืม.. ไว้พี่พูดให้ไหม เผื่อแม่จะยอมฟังพี่บ้าง" ณัฐวุฒิเรียกแม่ยายตัวเองว่าแม่ได้เต็มปากเต็มคำ
"ก็ดีค่ะ" หญิงสาวพยักหน้า "อะ คุณหมอมาแล้ว"
ประตูห้องถูกเปิดออก แล้วนายแพทย์เจ้าของไข้ของณัฐวุฒิก็ก้าวเข้ามาในห้อง นิทราจึงผุดลุกออกจากเตียง เขยิบให้คุณหมอเข้ามาตรวจดูอาการสามีของตัวเอง
"อาการคุณหมอดีขึ้นมากเลยนะ สงสัยเพราะมียาดีอยู่ข้างกาย.." หมอเจ้าของไข้อดจะแซวชายหนุ่มเล็กๆ ไม่ได้จนคนถูกพาดพิงสีหน้าระเรื่อขึ้น "พรุ่งนี้หมอณัฐก็กลับไปพักที่บ้านได้เลย แล้วอาทิตย์หน้าค่อยมาตัดเฝือก ขยันทำกายภาพหน่อยเดี๋ยวก็กลับมาเดินป๋อได้เหมือนเดิม"
"ขอบคุณมากครับ คุณหมอจิต"
ณัฐวุฒิกล่าวขอบคุณนายแพทย์จิตติอีกครั้งก่อนที่อีกฝ่ายจะขอตัวหลังจากที่ตรวจร่างกายเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นชายหนุ่มก็หันมาบอกภรรยาสาว เมื่อรู้สึกว่าเธอมาอยู่ดูแลเขานานพอสมควรแล้ว
"นิดกลับไปทำงานต่อได้แล้วล่ะ พี่อยู่คนเดียวได้"
"ค่ะ.. แล้วเย็นนิดอาจจะพาน้องนัทมาเยี่ยมอีกครั้งนะคะ"
"อย่าดีกว่าจ๊ะ น้องนัทยังเล็กอยู่เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลบ่อยนักไม่ดีหรอก ไว้พรุ่งนี้ค่อยพาไปบ้านเราเลยทีเดียวดีกว่านะ"
ชายหนุ่มว่า แต่พอนิทราจะขอตัวไปทำงานจริงๆ กลับฉุดหญิงสาวอีกครั้ง ชี้นิ้วไปที่แก้มขวาตัวเอง พลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ พยาบาลสาวส่ายหน้า เขาก็พยักเพยิก หญิงสาวจึงจำใจยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มเขาแล้วก็รีบผละออกไปจากห้องทันทีก่อนที่ผู้เป็นสามีจะอิดออดมากไปกว่านี้
..บทจะหวาน ณัฐวุฒิก็หวานซะจนเธอแทบจะสำลัก ไม่รู้ว่าอยู่กับเขาไปนานๆ เธอจะจมทะเลน้ำตาลเอาวันไหน
..
"นี่บ้านใหม่ของน้องนัทไงลูก ..เราจะอยู่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูกไงจ๊ะ"
ณัฐวุฒิเอ่ยขึ้นกับลูกสาวตัวน้อยทันทีที่พวกเขามาถึงบ้านไม้ชั้นเดียวอันเป็นเรือนพักแพทย์ใช้ทุนที่เขาได้ใช้เป็นที่พักตั้งแต่ตอนย้ายมาประจำโรงพยาบาลที่พิษณุโลก
จริงๆ แล้วฐานะอย่างทางบ้านเขาจะซื้อบ้านดีๆ สักหลังอยู่ก็ย่อมได้ แต่ความที่ชายหนุ่มเป็นคนที่ง่ายๆ สบายๆ เมื่อตอนที่ถูกส่งมาแล้วได้ที่พักเป็นเรือนหลังนี้เขาก็ไม่ได้คิดใส่ใจจะย้าย อยู่อาศัยไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตอนนี้เขากลับคิดว่าอาจจำเป็นที่จะต้องขยับขยายเสียทีเมื่อนิทรากับลูกมาอยู่ด้วย ..แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ได้บอกอะไรกับภรรยาในสิ่งที่ตั้งใจ เขากะว่าจะรอให้ตนเองหายดีเสียก่อนจากนั้นจึงจะค่อยเริ่มปรับเปลี่ยนอะไรในชีวิตที่ไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกต่อไปเมื่อมีสิ่งที่เรียกว่า 'ครอบครัว' เข้ามาแทน
"น้องนัทอย่าวิ่งลูก.."
นิทรากล่าวเตือนบุตรสาวทันทีที่เห็นว่าเด็กหญิงตัวน้อยแทบจะกระโจนเข้าไปในตัวบ้านขณะที่ตนเองเข้าไปพยุงสามีขึ้นบันไดบ้านที่ยกสูงจากพื้นเกือบสองฟุต
"คุณพ่อขา แล้วคุณยายไม่มาอยู่ด้วยกับเราหรือคะ" ทันทีที่นิทราพาณัฐวุฒิไปนั่งที่โซฟารับแขกแล้ว เด็กหญิงนัทธมลก็เข้ามาเกาะแขนบิดาเอ่ยถามถึงอนงค์ที่ไม่ว่าทั้งเขาและภรรยาจะเอ่ยปากชวนยังไง นางก็ยืนยันว่าจะไม่ย้ายมาอยู่ด้วย มารดาของนิทราไม่อยากจะรบกวนชีวิตสมรสของบุตรสาว ทั้งยังอยากอยู่ดูแลบ้านให้กับบุตรชายอีกคน
"คุณยายมาไม่ได้น่ะลูก เพราะจะต้องอยู่ดูแลบ้านให้ลุงวัชเขา เผื่อลุงวัชกลับมาอยู่บ้าน ถ้าน้องนัทคิดถึง พ่อกับแม่นิดจะพาไปอยู่กับคุณยายวันเสาร์อาทิตย์นะลูก ..น้องนัทมานั่งนี่ดีกว่า มาเล่าให้พ่อฟังสิว่าวันนี้หนูไปโรงเรียน ทำอะไรบ้าง.." ว่าพลางจูงมือบุตรสาวให้มานั่งข้างตัว ฟังเด็กหญิงเล่าสิ่งที่ทำในโรงเรียน ปล่อยให้นิทราเดินเข้าไปเตรียมของในครัวมาให้เขากับลูก
หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ววันนี้ ณัฐวุฒิก็ให้นิทราพาไปที่บ้านหญิงสาวก่อน โชคดีที่ว่านิทราพอจะขับรถยนต์ได้จึงขับรถของชายหนุ่มเองพาไปยังบ้านของตน พอมาถึงณัฐวุฒิก็พยายามชวนแม่ยายเขาไปอยู่ด้วย แต่จนแล้วจนรอดอนงค์ก็ยืนกรานจะอยู่บ้านเดิม สุดท้ายพวกเขาจึงไม่ขะยั้นขะยออีกเพียงแต่สัญญาว่าจะพาเด็กหญิงนัทธมลมาอยู่กับคุณยายทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ จากนั้นชายหนุ่มก็จัดแจงให้ภรรยาขับรถขนข้าวของบางส่วนที่เป็นของเธอและลูกจากบ้านเดิม มาไว้ที่บ้านเขาก่อน และเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนเขาก็ขอให้เธอพาเขาไปรับบุตรสาวมาจากโรงเรียนด้วยกัน
แรกทีเดียวพวกครูอาจารย์ที่เคยเห็นหรือรู้จักนิทรามาก่อนก็แปลกใจที่เห็นณัฐวุฒิแทนที่จะเป็นยงยุทธที่ต่างก็พอทราบว่ามาติดพันแม่ม่ายสาวลูกติดคนนี้ แต่เพราะสังคมที่นี่คนข้างเล็ก ข่าวลือเรื่องพยาบาลสาวแต่งงานกับหมอใหม่ซึ่งจริงๆ แล้วคือสามีเก่าได้มาถึงกระทั่งโรงเรียนอนุบาลเล็กๆ แห่งนี้ และยิ่งเมื่อเห็นกริยาที่แสดงออกของณัฐวุฒิที่มีให้กับพยาบาลสาวและลูก ต่างก็พอรู้แล้วว่าชายหนุ่มหญิงสาวคือคนในข่าวนั่นเอง และเดิมที่เคยคิดว่าพยาบาลสาวคนนั้นเป็นหนูตกถังข้าวสารเพราะข่าวว่าหมอหนุ่มที่ว่าคือทายาทมหาเศรษฐีก็มีอันต้องพับไปเช่นเดียวกันเมื่อเห็นว่าณัฐวุฒิดูจะรักใคร่นิทรามากกว่าที่จะสนใจความต่างของฐานะโดยสิ้นเชิง
ยังมีต่อ
แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 48 19:53:52
จากคุณ :
makokchor
- [
6 ส.ค. 48 19:47:26
]