"ธง ลูกน่าจะแต่งงานแต่งการ มีลูกได้แล้วนา" ชายชราบนรถเข็นหันมากล่าวกับผม "ไม่ล่ะพ่อ ช่วงนี้งานยุ่งพอดี Boss เลื่อนตำแหน่งให้ผมช่วงนี้คงต้องทำงานมากขึ้นน่ะ" "ไม่ได้นายังงี้เมื่อไหร่พ่อจะได้เห็นหน้าหลานล่ะ นี่ ลูกสาวอาหมิงน่ะ พ่อนัดให้ลื้อไปดูตัว 3 รอบแล้ว เมื่อไหร่จะไปซะที" "... เอาน่าว่างเมื่อไหร่ผมจะบอกอีกทีแล้วกัน พ่อก็อย่าไปรับปากนัดใครให้ผมก่อนอีกล่ะ จะได้ไม่ต้องไปผิดสัญญากับใครเขา" "ก็ลื้อมันไม่ว่างซักที อั๊วไม่นัดให้แล้วลื้อจะได้เจอลูกสาวอาหมิงมันไหม?"ผมเข็นรถเข็นต่อไปเงียบ ๆ รู้ว่าการโต้เถียงในเรื่องนี้คงหาบทสรุปไม่ได้อีกเช่นเคย "แม่เองก็บ่นเหมือนกัน ว่าลูกเอาแต่ทำงานไม่ยอมกินยอมนอน นี่ คนเราน่ะทำงานมันก็ดีนะ แต่ต้องรู้จักพักผ่อนบ้าง" "โธ่พ่อ ผมบอกกี่ทีแล้วว่าแม่จากเราไปนานแล้วนะ" "จริง ๆ เมื่อวานแม่แกยังมาเยี่ยมพ่ออยู่เลย" ผมได้แต่ส่ายหน้า อาการหลงลืมของพ่อยิ่งวันยิ่งเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว นี่ยังดีที่แกยังจำลูกชายคนเดียวของแกได้อยู่ "เอาไว้ค่อยคุยต่อวันหลังแล้วกันนะครับ ผมต้องไปทำงานแล้ว"
ผมก้าวออกจากประตู Lift ที่เปิดออกสู่ห้องทำงาน ทั้งห้องเต็มไปด้วยอุปกรณ์ electronic จำนวนมาก จะว่าไปแล้วนอกจากบริเวณที่เป็นเก้าอี้นั่ง 2ตัวและประตู Lift ทุกอย่างในห้องนี้ล้วนประกอบไปด้วยอุปกรณ์ Computer ทั้งสิ้น
ชายร่างท้วมที่กำลังก้มหน้าก้มตาตรวจเช็คสายระโยงระยางค่อยเงยหน้าขึ้นมาจับจ้องที่ผมเมื่อผมเดินเข้าไปใกล้ ๆ
"2 นาที 17 วินาที ไม่เลวนักสำหรับการมาสายครั้งแรกหลังจากได้เลื่อนตำแหน่ง" "ไม่เอาน่า ผมไปทำหน้าที่ลูกกตัญญูมา" ผมเบะปากอย่างไม่ค่อยพอใจนัก "นายจ้างแกให้ทำงาน 18 ชม. ต่อวัน ไม่ใช่ให้แกไปเลี้ยงคนแก่นะ" "เออ ถ้าไม่อยากให้ 18 ชม ที่ว่าสูญเปล่าไปกว่านี้ล่ะก็ Sync ผมซะที"
ผมรีบนั่งลงบนเก้าอี้ที่มีสายระโยงระยางกลางห้อง แล้วคว้าเอาแว่น VR มาสวม พร้อมกับยัดหูฟังเข้าไปในรูหูเพื่อตัดบทการโต้แย้งกับ Engineer ขี้บ่นคนนี้ซะ
"Psycho Sync พร้อม จะ Login ใน 10 วินะ" "เออ รีบทำเข้าเถอะน่า" น่าเบื่อจริง ๆ กับกระบวนการเย่นเย้อเหล่านี้ กะแค่เชื่อมคลื่นสมองเข้าไปในระบบ Mainframe แค่นี้ต้องทำเป็นยุ่งยาก หลังจากสิ้นเสียงนับถอยหลัง จิตของผมก็ถูกส่งเข้าไปอยู่ที่ใจกลางของระบบ โทรจิต หรือ Psychonetwork ที่เทียบแล้วก็คือโทรศัพท์ในสมัยก่อน แต่ด้วยเทคโนโลยีในวันนี้ เราใช้วิธีขยายสัญญาณทางสมองของผู้รับกับผู้ส่งแทนการส่งสัญญาณเสียงเท่านั้น ส่วนหน้าที่ของผมหรือ ก็แค่คอยตรวจตรา Synapse ต่าง ๆไม่ให้มีปัญหา
ด้วยแว่น VR ที่ใส่ทำให้ผมมองเห็นกระแสจิตของคนที่ใช้ Network ได้ราง ๆ บางคนเป็นผู้หญิง บางคนเป็นผู้ชาย บางคนผอม บางคนอ้วน ผม Scan ไปเรื่อย ๆ แต่แล้วก็ต้องเอะใจที่มี Synapse หนึ่ง มีค่าเป็นเลขคี่และมันอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่ 2 วันก่อนแล้วไม่น่าเป็นไปได้ ... Synapse ทุก Synapse มักจะมีคู่ของมัน อาจมีปัญหาว่าใคร Logout ออกไปไม่ได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นนับว่าเป็นเรื่องร้ายแรงทีเดียว เพราะ 2 วันที่ติดอยู่ในโลก VR นี้ ร่างจริงจะต้องย่ำแย่แน่นอน
ผมขยับจอยสติ๊กที่มือเพื่อ Zoom เข้าไปดูที่ Synapse เจ้าปัญหา ร่างนั้นเรือนรางแต่ดูคุ้นเคยยิ่งนัก "เป็นอะไรหรือเปล่าครับ" "..." ยังไม่มีการตอบกลับ "IP คุณมีปัญหาหรือเปล่าครับ ถึงติดอยู่ที่นี่" "..." เอ ท่าจะแย่กว่าที่คิด ผมตัดสินใจขยับเข้าไปใกล้ร่างนั้นอีก
วูบ! ทันทีที่ผม Connect เข้ากับร่าง VR นั้นเพื่อทำการช่วยเหลือ ทุกอย่างก็สว่างขึ้นมาในทันที ในสายตาของผมมีแต่แสงสว่างสีฟ้าอมเทาฉาบอยู่ทุกทิศทาง "อาธง! ทำไมลื้อไม่ไปดูแลเตี่ย!" ผมสะดุ้งทำทีเหมือนถูกไฟฟ้าช๊อต "ลื้อทำให้เตี่ยเสียจาย ทำไมลื้อทำอย่างนี้" ตอนนี้ผมเห็นร่างนั้นชัดอย่างที่ไม่เคยเห็นร่าง VR ของใครชัดเช่นนี้มาก่อน ที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมคือแม่ผูล่วงลับไปแล้วนั่นเอง!"
"แม่! แม่มานี่ได้ไง ... แม่" "เฮ้ยๆ ใจเย็นเด้ อย่าเพิ่งดิ้น" มีมือมาเขย่าผมแรง ๆ ทุกอย่างเริ่มพร่าเลือน "อย่าเพิ่งไป แม่ ผมอยากคุยกับแม่อีก" แต่ทุกอย่างก็ดับวูบลง เหลือ้พียงแสงไฟกระพริบหรี่ ๆ ผมกลับมาสู่โลกความจริงอีกครั้ง "แกเป็นบ้าอะไรวะ อยู่ ๆ ก็ตะโกนโหวกเหวก เรียกหาแต่แม่" "ผมถูก Hack" "Hack! อย่าพูดบ้า ๆ น่าระบบ Main frame ของเราไม่น่าจะถูกHack ได้" Engineer ร่างอ้วนอดทำหน้าตระหนกไม่ได้ ".... ถ้าเป็นน้ำมือมนุษย์นะ" ผมยังยืนกรานอย่างมั่นใจว่านั่นเป็น Massage จากคนที่ผมไม่มีวันลืมแน่นอน... แม่ผมเอง
ท่ามกลางความมืดในห้องของผมผมล้มตัวลงนอน ในใจยังคงคิดวนเวียนถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา "ผมว่าคุณคงเหนื่อยแล้วล่ะ บางครั้งระบบอาจจะรวน จนทำให้ Synapsบางตัวเกิดลัดวงจรน่ะ" "..." ผมยังปักใจว่าผมโดน Hack อยู่ดีและ Hack โดยแม่ผมเอง แว่วเสียงสุดท้ายของหัวหน้าก่อนที่ผมจะเผลอหลับไปก็คือให้ผมลาพักร้อนซักอาทิตย์
อาจเป็นเพราะคำพูดของแม่ก็ได้ที่ทำให้ผมกลับมาเยือนที่สถานดูแลคนชราในวันรุ่งขึ้น พ่อยังคงนั่งยิ้มอยู่ริมหน้าต่างบานเดิม แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าทอทับใบหน้าของพ่อ เหมือนครั้งก่อน ๆ ที่ผมแวะมาเยี่ยมเยือน
"ป๊า ! ผมมาเยี่ยม" "เออ อั๊วรู้แล้ว"พ่อตอบ "ป๊ารู้ได้ยังไง" พ่อยกมือโบกไปทางหน้าต่าง เหมือนร่ำลาใครสักคนที่ปากประตูทางเข้าสถานดูแล ก่อนหันมาให้คำตอบ "แม่ลื้อแวะมาบอกเมื่อกี้" ผมไม่ทำหน้าประหลาดใจเหมือนเช่นเคย คราวนี้ผมเชื่อแทบสนิทใจว่าพ่อเพิ่งคุยกับแม่ที่ล่วงลับไปจริง ๆ "คิดถึงแม่นะครับ" ผมเอ่ยขึ้นระหว่างที่เข็นรถเข็นที่มีพ่อนั่งอยู่ออกไปที่สวน "ฮื่อ...ป๊าด้วย"
fin.
จากคุณ :
S-chiz
- [
7 ส.ค. 48 11:33:16
]