ขุนช้างขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง (๒๘)
ใต้ร่มใบบุญ
พ่อแม่พี่น้องที่เคารพขอรับ นกไร้รัง คนไร้บ้าน แต่ยังมีความสุขเป็นอย่างไร...เป็นอย่างนี้ขอรับ...
จะกล่าวถึงขุนแผนแสนสนิท
เรืองฤทธิ์พริ้งเพริศเฉิดฉัน
อาศัยอยู่ในพนาวัน
สองคนด้วยกันกับวันทอง
แช่มชื่นรื่นร่มพนมพนัส
สิ้นวิบัติไพรีไม่มีข้อง
อิงแอบแนบเนื้อนวลละออง
หนุนแต่ขอนไม้รองสำราญใจ
ไร้ฟูกถูกเนื้อวันทองอ่อน
เหมือนนอนเตียงทองอันผ่องใส
เพลินฟังวังเวงเพลงเรไร
พิณพาทย์ไพรกล่อมขับสำหรับดง
มืดสิ้นแสงเทียนประทีปส่อง
ก็ผ่องแสงจันทร์กระจ่างสว่างส่ง
บุปผชาติสาดเกสรขจรลง
บุษบงเบิกแบ่งระบัดบาน
เรณูนวลหวลหอมมารวยริน
พระพายพัดประทิ่นกลิ่นหวาน
เฉื่อยฉิวปลิวรสสุมามาลย์
ประสานสอดกอดหลับระงับไป ฯ
แล้วอยู่มาวันหนึ่ง แม่วันทองก็ฝันว่า ได้เอื้อมมือไปคว้าดวงอาทิตย์มาแล้วก็กลืนไว้ในอก และยังมีชายหนึ่งมาควักลูกตาข้างขวาไป แล้วกลับเอาดวงตาอื่นซึ่งมืดมัวมาคืนให้ จึงปลุกขุนแผนให้ช่วยทำนายฝันให้ด้วย
ขุนแผนเอง ก็ไม่อยากจะบอกความทั้งหมดที่มีทั้งดีและร้าย ก็ได้แต่ตอบเลี่ยง ๆ ไปว่า เธอกำลังจะท้อง และจะได้ลูกชายมีบุญวาสนา สามารถพึ่งพาได้ในภายภาคหน้า
แต่ที่ดวงตาต้องพรากจากไปนั้น ทำนายว่าจะลำบากนิดหน่อย แต่ก็คงจะไม่เป็นไรมากหรอกน่า...เธอ...
นางวันทองก็ร้องไห้ ว่ามาท้องมาไส้ระหว่างลำบากยากเข็ญอยู่ในป่า
ขุนแผนก็ปลอบโยนว่า อะไรกัน รู้ว่าจะมีลูกน่าจะดีใจนะน้องนะ
แต่เราก็คงจะต้องย้ายที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าอีกก่อนที่จะมีใครพบ แล้วก็พาเมียขึ้นม้าเดินทางต่อไป
ขอบทชมดงอีกสักทีเถิดขอรับพ่อแม่พี่น้อง เพราะแต่ละสำนวนในเรื่องนี้นั้นก็หลากหลายและไพเราะด้วยกันทั้งนั้น
ร่มรื่นพื้นพรรณบุปผา
สะอาดตาช่อชูดูไสว
ขุนแผนชักม้าคลาไคล
บัดใจถึงเขา ธรรมเธียร
ที่เชิงเขาเหล่าพรรณมิ่งไม้
ลมพัดกวัดไกวอยู่หันเหียน
รกฟ้าขานางยางตะเคียน
กันเกราตระเบาตระเบียนแลชิงชัน
สนสักกรักขีต้นกำยาน
ฉนวนฉนานคล้าคลักจักจั่น
ปรางปรูประดู่ดูกมูกมัน
เหียงหันกระเพราสะเดาแดง
เต็งแต้วแก้วเกดอินทนิน
ร้อยลิ้นตาตุ่มชุมแสง
ขวิดขวาดราชพฤกษ์จิกแจง
สมุลแว้งแทงทวยกล้วยไม้
กระพ้อเงาะระงับกระจับบก
กระทกรกกะลำพอสมอไข่
ผักหวานตาลดำลำไย
มะเฟืองไฟไข่เน่าสะเดานา
ไทรโศกอุโลกโพกพาย
โพบายไกรกร่างอ้อยช้างหว้า
พลับพลวงม่วงมันจันทนา
ปักษาเพรียกพร้องร้องจอแจ ฯ
เป็นอย่างไรบ้างขอรับ แยะดีไหม ก็สำนวนพรรณอย่างนี้แหละขอรับ ที่ข้อสอบวรรณคดีในสมัยเรียนชอบถามดีนักว่า มีต้นไม้กี่ชนิด ?
พ่อแม่พี่น้องจะลองนับเล่นดูบ้างก็ได้นี่ขอรับ
พอดีท่านก็มีต่อ...เอาละ...ขอ ชมนก อีกสักสำนวนหนึ่งก็แล้วกัน เสียดายน่ะขอรับ ถ้าจะข้ามไปเสียเฉย ๆ
นกกระลางลางล้วงได้ด้วงจิก
ลูกอ้าปากริกร้องวอนแม่
ดุเหว่าจับเถาตำลึงแล
เห็นลูกสุกแดงแจ๋เข้าจิกกิน
นกขมิ้นจับเถาขมิ้นเครือ
คาบเหยื่อเผื่อลูกแล้วโผผิน
สาลิกาพาหมู่เที่ยวจู่บิน
เขาคูคู่ถิ่นอยู่ริมรก
กระทาปักหาตัวเมียจ้อ
ชูคอปีกกางหางหก
ค้อนทองร้องรับกันป๊กป๊ก
นกคุ่มเปรียวปรื๋อกระพือบิน
ไก่ป่าขันแจ้วอยู่แนวไพร
เขี่ยคุ้ยขุยไผ่เป็นถิ่นถิ่น
หารังเรียกคู่อยู่กับดิน
หยุดกินวิ่งกรากกระต๊ากไป ฯ
คราวนี้ก็เดินป่าไปเรื่อย จนนางวันทองท้องได้เข้า เจ็ดเดือน ขุนแผนก็เริ่มวิตกถึงความลำบากของเมีย แล้วก็ไปนึกขึ้นได้ว่าเคยได้ยินข่าวเล่าลือกันว่า ท่านพระพิจิตร เจ้าเมืองพิจิตรนั้น เป็นคนใจดีมาก ใครตกทุกข์ได้ยากก็พากันบากหน้าไปพึ่งพิงท่านและก็ไม่เคยผิดหวังเลย สักรายเดียว ก็เลยคิดว่าจะไปหาท่านดีกว่า
ว่าแล้วก็พาเมียเดินลัดตัดดง ไปได้อีกประมาณสิบวัน ก็บรรลุถึงเมืองพิจิตร แล้วก็จัดการบริกรรมคาถา นะเมตตา ให้ผู้ที่พบปะสนทนาด้วยรู้สึกรักใคร่เอ็นดู แล้วก็ว่าอีกคาถาหนึ่งคือ กำบังตน
ขุนแผนกับเมียก็เลยเดินลัดตัดพ้นบ่าวไพร่ที่หน้าจวนเข้าไปหมอบกราบท่านพระพิจิตรที่กำลังนั่งเล่นอยู่ที่ชานจวนได้อย่างสะดวกดาย
ครานั้นขุนแผนแสนสุภาพ
กับวันทองก้มกราบลงที่นั่น
ขุนแผนจึงบอกไปฉับพลัน
ตัวลูกอ่อนนั้นชื่อวันทอง
ตัวข้าชื่อขุนแผนแสนสงคราม
ดั้นแดนคงรามมาทั้งสอง
จึงเล่าเรื่องความไปดังใจปอง
เดิมวันทองชื่อพิมพิลาไลย
ขุนช้างชิงนางจากหอห้อง
ข้าจึงลักวันทองเข้าป่าใหญ่
ล้างทัพยับตายกระจายไป
จนใจอยู่ป่ามาหลายเดือน
วันทองท้องแก่น่าสงสาร
กลัวจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นกลางเถื่อน
ครั้นจะพากันเข้าไปเหย้าเรือน
เกรงจะเหมือนทำกรรมให้มารดา
รู้ว่าเจ้าคุณเอ็นดูสัตว์
จึงดั้นดัดลัดดงตรงมาหา
ฝากชีวิตข้าพเจ้าทั้งสองรา
เจ้าคุณกรุณาได้โปรดปราน ฯ
พระพิจิตรและนางบุษบาผู้ภรรยา ได้ฟังเรื่องราวก็รู้สึกสงสาร ประกอบกับต้องมนต์ นะเมตตา เข้าไปด้วย ก็ให้เอ็นดูสองผัวเมียเหมือนลูกเหมือนหลาน แล้วก็จัดแจงที่พักอาหารการกินให้อย่างดี
ครั้งนั้น ขุนแผนก็ได้มาพักอยู่ที่เมืองพิจิตร เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม แล้วก็หันหน้ามาปรึกษากันว่าจะเอาอย่างไรต่อไปกับชีวิตดี เพราะขณะนี้นางวันทองก็ท้องแก่มากแล้ว
จะขอให้พระพิจิตรท่านบอกส่ง
ลงไปอยุธยามหาสถาน
สารภาพรับผิดคิดให้การ
ต้านทานข้อฟ้องของขุนช้าง
เหตุด้วยตัวเราเข้ามาหา
มิได้ไปจับมาแต่ป่ากว้าง
โทษทัณฑ์นั้นเล่าจะเบาบาง
เห็นมีทางข้างจะกรุณา
เมื่อจะเอาโทษทัณฑ์ฉันใด
ก็ตามใจด้วยเรานี้เป็นข้า
ได้ถือน้ำพระพิพัฒน์สัจจา
จะหลบลี้หนีหน้าไปทำไม
ถือตามคำโบราณท่านว่ามา
ว่าว่ายน้ำเข้าหาจระเข้ใหญ่
ยากง่ายตายเป็นประการใด
ให้เป็นไปตามกรรมที่ทำมา
พี่รักเจ้าสู้เอาชีวิตแลก
ถึงจะแหลกครั้งนี้พี่ไม่ว่า
จะแก้ไขมิให้น้องต้องอาญา
ก้มหน้าไปเถิดเจ้าอย่าเศร้าใจ ฯ
จากคุณ :
พจนารถ๓๒๒
- [
8 ส.ค. 48 06:03:41
]