ปกติเขียนแต่เิชิงสารคดี คราวนี้ลองเขียนเรื่องแนวรักๆดูบ้าง เป็นเรื่องจริงที่สร้างแรงบันดาลใจให้เขียน เลยนำมาให้อ่าน รบกวนวิจารณ์/ชม ด้วยครับ
รัก
พี่สาวผมมีเหตุต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการผ่าตัดเล็กๆน้อยๆ ถึงแม้จะเพียงแค่วันสองวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่ในฐานะของน้องชายที่ดี ผมก็เลยต้องไปเยี่ยมสักหน่อย
ตอนนั้นเป็นเย็นวันจันทร์ ผมขึ้นลิฟท์ของโรงพยาบาลไปที่ชั้น 9 ออกจากลิฟท์แล้วก็เดินเลี้ยวเข้าสู่โถงทางเดินใหญ่ ซึ่งปลายสุดเป็นบันไดหนีไฟที่แสงสุดท้ายของวันกำลังสาดผ่านประตูกระจกฝ้าบานใหญ่เข้ามาเป็นลำรัศมีดูแปลกตา
มองย้อนแสงไป ผมเห็นเงาของคนๆหนึ่งกำลังเดินมาทางผม เมื่อใกล้เข้า และสายตาปรับกับสภาพแสงได้แล้ว จึงได้เห็นภาพของคุณยายท่านหนึ่ง คะเนจากริ้วลอยบนใบหน้าและผมที่ขาวโพลนแล้วท่านคงเห็นโลกใบนี้มาแล้วอย่างน้อยๆก็ 70 ปี ท่านกำลังเข็นรถเข็นให้กับคุณตาท่านหนึ่งที่มีอายุไล่เลี่ยกัน ใบหน้าของคุณตา สงบ นิ่งเฉย ดูเหมือนเกือบจะไม่ได้รับรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นมากนัก
รถเข็นคันนั้นเต็มไปด้วยสายระโยงละยาง คุณตาคงไม่สามารถออกไปไหนได้ไกลนัก คุณยายจึงพาออกมาเข็นรถไปมาอยู่ตรงทางเดินนี้ ถึงแม้จะไม่ได้มีอะไรให้ดูมากไปกว่าประตูห้อง และแสงที่สาดเข้ามา แต่ก็คงจะดีกว่าอุดอู้อยู่ในห้องทั้งวัน
ผมเดินไปจนสุดทาง หาห้องของพี่สาวไม่เจอ จึงรู้ว่าตัวเองเดินเลี้ยวผิดทาง ขาย้อนกลับ ผมเดินสวนกับตายายทั้งคู่อีกรอบ
คราวนี้ผมได้มีโอกาสเห็นทั้งคู่อย่างชัดเจน เพราะแสงอ่อนๆสีส้มอบอุ่นของยามเย็นส่องไปที่ท่านทั้งสองจากทางด้านหลังของผม คุณยายเข็นรถเข็นหลบเข้าริมทางเมื่อเห็นผมเดินสวนมาบนทางเดินแคบๆ ระหว่างที่หยุดรอให้ผมผ่านไปนั้น มือของท่านก็ลูบเบาๆไปที่ผมสีขาวที่เหลืออยู่ไม่มากของคุณตา ตอนแรกผมไม่มั่นใจนักว่าสถานะภาพของทั้งคู่นั้นเป็นเช่นไร อาจจะเป็นพี่น้องกัน หรืออาจจะเป็นเพื่อนกัน แต่สายตาที่คุณยายมองไปที่คุณตาในตอนนี้อบอุ่นอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นสายตาที่ไม่สามารถใช้มองใครได้เลยนอกเสียจาก “คู่ชีวิต”
แล้วคุณยายก็ค่อยๆโน้มตัวลงไปจูบเบาๆที่หน้าผากของคุณตา
เป็นการจูบเพียงเบาๆ แต่ความรัก ความผูกผันที่ส่งผ่านไปนั้น ช่างมากมายจนผมไม่อาจจะบรรยายได้ เป็นเวลาเพียงเสี้ยววินาที ที่ทำให้ผมเห็นเวลาเป็นสิบๆปีที่ทั้งคู่ ผ่านร้อน ผ่านหนาวร่วมกันมา ผมมองภาพนั้นด้วยความตื้นตัน เพราะเมื่อดูสีหน้าของคุณตาแล้ว ท่านอาจจะไม่ได้รับรู้อะไรเลย ราวกับว่าคุณยายแสดงความรัก ทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่สามารถรับรู้ได้ เป็นความรักที่ยั่งยืนมั่นคงเกินกว่าที่จะเรียกร้องอะไรเป็นการตอบแทน
นึกไปถึงวันที่ผมแต่งงาน ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ผมเคารพ แต่งงานกับภรรยาของท่านมา 60 กว่าปีแล้ว ท่านให้โอวาทกับเราว่า ความรักของ สามี-ภรรยา นั้นเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่เพราะเป็นความรักของคนสองคนที่ ต่างพ่อ-แม่ ต่างภูมิหลัง แต่มารักกัน ใช้ชีวิตร่วมกันจนแก่เฒ่า ท่านบอกว่า พ่อ-แม่ นั้นย่อมรักลูกเพราะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตน แต่ความรักของสามี-ภรรยานั้นเป็นความมหัศจรรย์อย่างแท้จริง
เย็นวันนั้น ผมกลับบ้านมาก็เห็นภรรยา นั่งทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ ในห้องนอน เธอหันมาจุ๊ปาก ไม่ให้ผมพูดเพราะลูกน้อยวัย 8 เดือนกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงใกล้ๆ จากที่คิดว่าจะเล่าเรื่องของคุณตาและคุณยายให้ฟังผมเลยเปลี่ยนใจ เดินอ้อมไปที่ด้านหลังเก้าอี้ที่เธอนั่งอยู่ แล้วก็ก้มลงไปจูบเธอที่หน้าผากเบาๆ....
จากคุณ :
คิลลี่แมน
- [
8 ส.ค. 48 11:41:25
]