CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    เพื่อนสนิท...ของหัวใจ(ตอนที่3)

    “กรเมื่อวานเป็นไงมั่งอ่ะ” ลูกแก้วถามศุภกรที่กำลังขับรถอยู่ด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้เหมือนกับคุยเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไปทั้งๆที่ในใจอยากรู้ใจจะขาด

    “เรื่องจี๊ดน่ะเหรอ” ศุภกรถามด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ

    “ก็ใช่อ่ะดิ”

    “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก เรากับเขาก็กลับมาคบกันใหม่แค่นั่นเอง” เสียงของคนตอบยังคงเรื่อยๆไม่เปลี่ยนแปลง

    “กลับมาคบกันใหม่เนี่ยนะไม่มีอะไรมากของแก” ลูกแก้วย้อนถามเสียงสูง จนคนที่ทำหน้าที่ขับรถต้องหันมามองอย่างแปลกใจ

    “อืม แล้วทำไมแกต้องทำท่าตกอกตกใจซะยกใหญ่ขนาดนั้นด้วยวะ”

    “เปล่าก็ไม่มีอะไรหรอก แค่งงนิดหน่อยเท่านั้นเอง แล้วทำไมแกกับจี๊ดถึงกลับมาคบกันล่ะ” หญิงสาวรีบปฏิเสธแล้วย้อนถามกลับไป

    “ทีแรกเราก็จะไม่ยอมหรอก แต่เขาบอกว่าถ้าเราไม่ยอมกลับไปคบกับเขาอ่ะ เขาจะกินยาตาย เราก็เลยกลัวอ่ะดิ กลัวว่าเขาจะทำจริงๆอ่ะ” ชายหนุ่มบอกเหตุผลที่ทำให้หญิงสาวที่นั่งฟังอยู่ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความคิดไม่ถึงว่าแฟนเก่าของเพื่อนคนนี้จะงัดไม้นี้ขึ้นมาใช้

    “แล้วแกยังรักเขาอยู่รึเปล่าอ่ะ” หญิงสาวถามขึ้นเมื่อตั้งสติได้แล้วและก็ต้องกลั้นใจรอคำตอบที่จะออกมาจากปากของชายหนุ่มด้วยความรู้สึกระทึก

    “รักเหรอ...ไม่หรอกเราไม่ได้รักเขาแล้วล่ะ แต่ที่เรากลับไปคบกับเขาก็เพราะเรากลัวว่าเขาจะทำอะไรบ้าๆอย่างที่เขาพูดอ่ะ” ชายหนุ่มตอบหลังจากนั่งทบทวนความรู้สึกของตนเองชั่วครู่

    “...” หญิงสาวที่ได้ฟังคำตอบก็รู้สึกว่าหัวใจพองฟูอยู่ในอกจนพูดอะไรไม่ออก

    ‘เขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้นแล้ว ดีใจจังเลย แต่เขาก็คงไม่มองเราอยู่ดีหรอกยัยลูกแก้วเอ๊ย หักใจซะเถอะ’ หญิงสาวบอกกับตัวเองในใจ

    “เป็นอะไรไปไอ้ลูกแก้ว” ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นคนนั่งข้างๆอยู่ๆก็เงียบไป

    “เปล่าไม่ได้เป็นอะไรหรอก คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ” หญิงสาวตอบพร้อมกับส่งรอยยิ้มสดใสไปให้เขา และก็ได้รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของหล่อนยิ้มตามไปด้วยยกลับมา


    “ไอ้ลูกแก้ววันนี้จี๊ดเขาจะไปบ้านเราด้วยนะ” ศุภกรบอกกับลูกแก้วเมื่อเขาเดินมาที่รถพร้อมกับหญิงสาวร่างสูงโปร่งราวกับนางแบบ ใบหน้าคมถูกตบแต่งด้วยเครื่องสำอางเอาไว้อย่างสวยงาม

    “พอดีเราอยากไปดูบ้านของกรเขาน่ะ เธอคงไม่ว่าอะไรนะลูกแก้ว” จี๊ดบอกกับลูกแก้วด้วยน้ำเสียงฟังแล้วชวนหมั่นไส้

    “ได้อยู่แล้วล่ะ ก็มันบ้านกรมันนี่ ไม่ใช่บ้านเราสักหน่อย เราแค่อาศัยรถกรมันไปเท่านั้นแหละ” ลูกแก้วบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนที่จะเข้าไปนั่งด้านหลังของรถ

    “จี๊ดขึ้นรถเถอะ” ศุภกรพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆก่อนจะเปิดประตูรถด้านข้างคนขับให้หญิงสาวเข้าไปนั่ง จากนั้นตัวเขาก็ขึ้นนั่งที่คนขับแล้วขับรถออกไปไม่พูดไม่จา บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความอึดอัด


    เมื่อถึงบ้านแล้วลูกแก้วก็ลงจากรถไปทันทีโดยไม่สนใจคนอื่นๆที่นั่งในรถเลย ปล่อยให้ศุภกรต้องเผชิญความน่าอึดอัดกับหญิงสาวอีกคนตามลำพัง

    “วันนี้กรไม่มาด้วยเหรอลูกแก้ว” แม่ของลูกแก้วถามขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามาในบ้านคนเดียว

    “ไม่ค่ะ วันนี้แฟนเขามาที่บ้านน่ะค่ะ เดี๋ยวเขาก็คงหาอะไรกินกันเองแหละค่ะแม่” หญิงสาวตอบ

    “แฟนใหม่เหรอ” แม่ยังคงซักต่อ

    “เปล่าค่ะ แฟนเก่าน่ะค่ะ เขากลับมาคบกันใหม่”

    “อ้าวเหรอ แล้วนี่เราเป็นอะไรไปยัยลูกแก้ว อารมณ์ไม่ดีเหรอไงเรา” แม่หันมาถามลูกสาวของตัวเองเมื่อเห็นท่าทางหน้าตาของลูกตัวเองแล้ว

    “เปล่าค่ะแม่ ลูกแก้วว่าเรามากินข้าวกันเลยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวลูกแก้วไปตามพ่อก่อนนะค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้ร่าเริงแล้วเดินหายไปในห้องทำงานของบิดา


    ‘ป่านนี้คงจะไปนั่งกินข้าวสวีทกันเต็มที่แล้วล่ะสิ’ หญิงสาวนึกหมั่นไส้ชายหนุ่มข้างบ้านอยู่ในใจเมื่อขึ้นมานั่งทำการบ้านที่ห้องของตัวเอง

    ‘ยัยลูกแก้วเป็นอะไรไป เราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปโกรธอะไรกรหรอก เรากับกรเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นเอง อย่าลืมสิ’ เสียงอีกเสียงหนึ่งในหัวก็ส่งเสียงค้านออกมา หญิงสาวจึงรู้ตัวว่าตัวเองได้ทำอะไรไปบ้าง

    ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่มันก็แสนไกล... เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนเตียงนอนดังขึ้นปลุกให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์ความคิดของตัวเอง

    “ฮัลโหลกรเหรอมีอะไร” หญิงสาวถามทันทีเมื่อกดปุ่มรับสายโดยที่ไม่ต้องดูชื่อที่ขึ้นอยู่ที่หน้าจอเพราะเสียงนี้เป็นเสียงที่เธอตั้งเอาไว้สำหรับศุภกรโดยเฉพาะ

    “ลูกแก้วแกทำไรอยู่” ชายหนุ่มไม่ตอบหากถามย้อนกลับมา

    “ก็นั่งทำการบ้านอยู่อ่ะ ไมเหรอ”

    “ไม่มีอะไรหรอก แค่จะโทรมาคุยด้วย” ปลายสายตอบอย่างเหงาๆ

    “บ้านก็อยู่แค่เนี่ยต้องโทรมา เอางี้นะแก เดี๋ยวแกเดินมาหาเราที่บ้านละกันนะ เราจะเปิดประตูรอ” พูดจบหญิงสาวก็กดวางสาย


    “นั่งก่อนไอ้กร” หญิงสาวบอกกับชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในบ้าน

    “แล้วนี่พ่อแม่แกนอนแล้วเหรอ” แขกผู้มาเยือนถาม

    “ยังหรอก แต่เข้าห้องไปแล้วล่ะ” หญิงสาวตอบเมื่อเอาแก้วน้ำมาให้ชายหนุ่ม

    “วันนี้แกเป็นอะไรไปน่ะลูกแก้ว โกรธเราเหรอ” ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อหญิงสาวเจ้าของบ้านนั่งลงเรียบร้อยแล้ว

    “ปละ...เปล่าสักหน่อย” หญิงสาวตอบอย่างตกใจ

    “งั้นแกเป็นอะไรไป เงียบๆตั้งแต่ในรถแล้ว” ชายหนุ่มยังคงซักไซ้ต่อ

    “...” หญิงสาวเงียบเพราะไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้ยังไงดี

    ‘เราไม่พอใจเพราะแกพาจี๊ดมาด้วย เราไม่ชอบ’ นี่เป็นคำตอบที่หญิงสาวอยากจะบอกให้ชายหนุ่มรู้แต่ไม่กล้าเลยได้แต่บอกในใจ

    “ลูกแก้ว” ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวด้วยเสียงต่ำ หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอเพราะรู้ดีว่าเมื่อชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอย่างนี้แสดงว่าเจ้าตัวไม่เลิกลาแน่ถ้ายังไม่ได้คำตอบ

    “ก็ได้ๆ เอาตรงๆเลยนะ” หญิงสาวถาม เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยักหน้ารับก็เปิดปากพูดต่อ “เราไม่ชอบจี๊ด”

    “เพราะอะไรแกถึงไม่ชอบเขาล่ะ” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

    “ก็เพราะ...เรารู้สึกว่าเขาไม่จริงใจกับแกไง เขาดูเสแสร้งยังไงก็ไม่รู้” หญิงสาวตอบ

    “โธ่! เรื่องแค่นี้เองเหรอแก เราก็นึกว่าเรื่องอะไร” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงโล่งอก

    “ก็แค่นี้แหละ” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงน้อยใจพร้อมกับเชิดหน้าไปทางอื่นให้เขารู้ว่าหล่อนงอนแล้วนะ

    “อะไรว่ะแค่นี้ก็ต้องน้อยใจด้วย หัวก็ไม่ได้ล้านนี่หว่า” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา พลางเอามือมาขยี้ผมของหล่อนจนผมยุ่งไปหมด

    “ไม่ต้องมายุ่งเลยแก” หญิงสาวยังงอนไม่หายพลางใช้มือจัดผมที่ยุ่งเหยิงให้เข้าที่

    “โอ๋ๆ ดีกันเถอะนะ” ชายหนุ่มยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าหญิงสาว ลูกแก้วอดยิ้มกับอาการเหมือนเด็กๆของชายหนุ่มไม่ได้

    “ก็ได้” ลูกแก้วตกลงเหมือนเสียไม่ได้

    “แต่ยังไงก็ขอบใจนะแกที่เป็นห่วงเรา แกนี่เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ”

    “เราเป็นเพื่อนที่ดีอยู่แล้วล่ะ แกเพิ่งรู้เหรอ” หญิงสาวพูดอย่างหลงตัวเอง

    “เปล่ารู้มาตั้งนานแล้ว เราเลยมาขอข้าวแกกินไงล่ะ” ชายหนุ่มอ้อน

    “อะไร! นี่แกยังไม่ได้กินข้าวอีกเหรอมันจะสามทุ่มแล้วนะ” ลูกแก้วถามออกมาด้วยความตกใจเมื่อมองดูนาฬิกาแล้วเห็นว่าเกือบสามทุ่มแล้ว

    “ก็ใช่อ่ะดิ พอเราไปส่งจี๊ดเสร็จถึงบ้านก็โทรไปหาแกนั่นแหละ” ชายหนุ่มบอกเสียงละห้อย

    “แล้วแกกับจี๊ดมัวแต่ทำอะไรอยู่ล่ะ ถึงได้ไม่กินข้าว” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้

    “ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย เขาอยู่แค่แป็บเดียวเอง เราก็ไปส่งเขา แต่บ้านเขาอยู่ตั้งไกลน่ะแก รถก็ติดอีกต่างหาก” ชายหนุ่มอธิบาย

    “แล้วทำไมแกไม่หาอะไรกินข้างทางล่ะ” ลูกแก้วยังคงสงสัย

    “ก็เรามัวแต่คิดว่าแกเป็นอะไรไปน่ะสิมันเลยยังไม่หิว แต่ตอนนี้เราหิวแล้วล่ะ” ศุภกรบอกเหตุผลที่ทำให้หัวใจของคนฟังเต้นผิดจังหวะก่อนที่จะกลับสู่จังหวะเดิมเมื่อได้ยินเสียงเล็กๆในหัวขัดขึ้นมา ‘เขาแคร์ความรู้สึกเราก็เพราะเราเป็นเพื่อนเขาน่ะสิ เขาไม่ได้คิดเกินกว่านั้นหรอก อย่าดีใจไปเลยยัยลูกแก้ว’

    “งั้นเดี๋ยวเราไปดูก่อนนะว่ามีอะไรให้แกกินบ้าง” พูดพลางลุกเดินไปยังครัวเพื่อหาอะไรมาให้แขกผู้มาเยือนทาน

    จากคุณ : @หนูเอ๋อ@ - [ 9 ส.ค. 48 23:09:15 A:168.120.26.35 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป