CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    =[+] ฉิกจับอิด [+]= นิยายจีนร่วมแต่งแนวทดลอง : ตอนที่ 89 เสี่ยว...รำพึง!

    ดวงอาทิตย์เพิ่งลับเหลี่ยมเขา ความมืดมิดคืบคลานเข้าแทนที่ ราวป่าทึบแห่งนี้ยามกลางวันมืดครึ้มน่าสะพรึงกลัว ยามค่ำคืนยิ่งมืดมิดวังเวง ต่อให้คนสายตาดีหากพลัดเข้ามาในป่านี้ยามมืดค่ำก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นคนตาบอดผู้หนึ่ง ดังนั้นผู้ที่สัญจรไปมาต่างหลีกเลี่ยงมิใช้เส้นทางนี้หลังพระอาทิตย์ตกดิน!

    ดวงจันทร์เลือนขึ้นปรากฎเด่นอยู่ริมขอบฟ้า ดวงดาวเล่าก็ทอประกายสุกใส ทว่าแสงดาว และเดือนกลับมิสามารถล่วงล้ำกร้ำกลายพ้นผ่านกิ่งใบอันหนาทึบของป่าแห่งนี้ได้แม้เพียงเล็กน้อย! ทำให้เส้นทางในป่าที่ยามกลางวันยังมีผู้ใช้สัญจรอยู่บ้าง แต่ยามเมื่อความมืดมิดมาเยือน ก็มีเพียงสรรพสัตว์ที่ออกหากินในยามค่ำคืนทั้งหลายที่ใช้สัญจร

    ดังนั้นทั่วทั้งราวป่า นอกจากเสียงสัตว์กลางคืนที่ออกหากินตามปกติแล้ว ล้วนแต่เงียบสงัดปราศจากเสียงอื่นใดอีก

    ทว่าค่ำคืนนี้กลับแตกต่างออกไป ความเงียบสงัดของป่าใหญ่มิสามารถคงอยู่ได้เนิ่นนานนัก เพราะบัดนี้บังเกิดเสียงดังรบกวนขึ้นแล้ว! เป็นเสียงฝีเท้าม้าที่ดังก้องไปทั่วชายป่า

    ค่ำมืดแล้วเหตุใดจึงบังเกิดเสียงฝีเท้าม้า หรือเจ้าสัตว์สี่ขาเหล่านั้นบังเอิญพลัดหลงกลับฝูง? แต่ฝูงม้ามิใช่อาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าโล่งกว้างหรอกหรือ? เหตุใดเวลานี้จึงมาวิ่งตะบึงอยู่ในป่าทึบเช่นนี้?

    คำตอบปรากฎขึ้นในชั่วเวลาไม่นานนัก เนื่องเพราะปรากฎม้าสี่ตัววิ่งตะบึงมาตามทางสัญจรในป่าทึบ บนหลังม้าทั้งสี่ประกอบด้วยผู้คนสี่คนควบขับอยู่ คนทั้งสี่สวมใส่เสื้อผ้าเลิศหรู ประดับประดาด้วยอัญมณีมีค่า เสื้อผ้าที่สวมใส่เป็นสีเขียวคาดแดงเช่นเดียวกันทั้งสี่คน!

    ดูจากการแต่งกายทุกผู้คนก็สามารถทราบได้ทันทีว่ามันเป็นคนของฉิกจับอิดนั่นเอง! หนำซ้ำพวกมันยังมีฐานะมิต่ำทราม ดูจากตราหยกที่ห้อยติดตัวอยู่หว่างเอว ก็ทราบว่าพวกมันเป็นชนชั้นลำดับหัวหน้าหน่วย และระดับผู้นำสาขา ในที่สุดคนของฉิกจับอิดยังมิได้ถูกกำจัดไปจนหมดสิ้น อย่างน้อยก็ยังหลงเหลืออยู่ที่นี่อีกสี่ชีวิต

    ทั้งสี่คนก้มหน้าก้มตาขับบี่แหวกฝ่าความมืดมิด โดยมิปริปากกล่าววาจาใดใดต่อกันเลยแม้สักครึ่งคำ จะมีก็เพียงเสียงเกือกม้ากระทบพื้นดินเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เสียงที่บังเกิดขึ้นคล้ายบังเกิดจากม้าตัวเดียว คนทั้งสี่กลับสามารถควบขับเป็นจังหวะดุจเดียวกัน

    ดูจากสภาพแล้วพวกมันเร่งรีบยิ่ง แสดงให้เห็นว่า หากมิใช่มีธุระเร่งร้อน ก็กำลังหลบหนีเป็นแน่

    "ฟึ่บ ฟึ่บ" กิ่งไม้เกี่ยวโดนเสื้อผ้าของพวกมันขาดเป็นริ้วรอยขึ้น ทว่าคนทั้งสี่มิเพียงมิแยแสสนใจ ยังควบขี่อาชาคู่ใจรวดเร็วมากยิ่งขึ้นๆ โดยมิสนใจว่าเสื้อผ้าจะถูกเกี่ยวขาดจนกระรุ่งกระริ่ง ดูจากสภาพการณ์แล้ว พวกมันล้วนแต่มีฝีมือในการขับขี่สูงส่ง เหตุใดจึงปล่อยให้เสื้อผ้าถูกเกี่ยวขาด ข้อสันนิษฐานที่ว่ามันเร่งรีบไปทำธุระเป็นอันพับเก็บไป เนื่องเพราะต่อให้มันเร่งรีบเช่นไร ก็ไม่น่าถึงกับปลดปล่อยให้เสื้อผ้าถูกเกี่ยวขาดโดยมิสนใจเช่นนี้

    เช่นนั้นเป็นไปได้ประการเดียว.....พวกมันกำลังหลบหนี ทั้งยังเป็นการหลบหนีอย่างสุดชีวิตทีเดียว!

    คนทั้งสี่ประกอบด้วย บุรุษวัยกลางคนสองคนขับขี่อยู่ด้านหน้า ที่หว่างเอวพกพาดาบใหญ่เล่มหนึ่ง ส่วนอีกสองคนที่ด้านหลังเป็นบุรุษหนุ่มหน้าตาคมคาย ที่หว่างเอวพกพากระบี่ยาว ดูจากฝักกระบี่ และฝักดาบแล้ว ล้วนเป็นศาสตราวุธที่ล้ำเลิศยากพบพาน ผู้ที่สามารถพกพาศาสตราวุธวิเศษเยี่ยงนี้ น่ากลัวมิมีผู้ใดพลังฝีมืออ่อนด้อยมาก่อน!

    ทว่ายามนี้กลับต้องรีบหลบหนีอย่างเร่งร้อนเพียงนี้ แสดงให้เห็นว่าคู่มือของมันย่อมมิธรรมดาสามัญ หนึ่งเดียวที่พวกฉิกจับอิดในเวลาเกรงกลัวถึงกลับหลบหนีโดยมิคิดชีวิตย่อมเป็นอื่นใดไปมิได้ นอกจาก....หน่วยงานล่าอสูร!!!!

    พวกมันทั้งสี่กำลังหลบหนีคนในหน่วยงานนี้อยู่นั่นเอง!!!!!

    ทั้งสี่จัดเป็นยอดฝีมือลำดับต้นๆ ของพรรคฉิกจับอิด พลังฝีมือแม้มิเทียบเท่ายอดฝีมือระดับต้นๆ เฉกเช่น "สามมารตลบเมฆ" "เกี่ยมฮุ้น" หรือ "หัตถ์เทพบัญชา" ทว่าย่อมมิอ่อนด้อยจนเกินไป
    การที่พวกมันจำต้องหนีหัวซุกหัวซุนเช่นนี้ แสดงว่า "หน่วยงานล่าอสูร" นั้นมีความยิ่งใหญ่ และกล้าแข็งถึงเพียงไหน

    ทั้งสี่เมื่อควบม้าเข้าสู่เขตป่าทึบ ม้าที่วิ่งตะบึงประดุจสายลมก็พลันต้องผ่อนฝีเท้าลง เนื่องจากสภาพของเส้นทางที่รกชัฏ และติดขัด รวมถึงกิ่งก้านของต้นไม้ที่ขวางระเกะระกะ

    "ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ"

    เสียงชายเสื้อปะทะลม เงาคนไหววูบวาบ ท่ามกลางความมืดทะมึนของราวป่าทึบ

    ผู้คนเจ็ดแปดคนอาศัยวิชาตัวเบาอันเลิศล้ำ ดีดพุ่งกายจากคาคบไม้ต้นหนึ่ง ทะยานร่างไปยังอีกต้น ชั่วเวลาเพียงอึดใจก็เคลื่อนกายล้ำหน้าม้าทั้งสี่ตัวไปอย่างรวดเร็ว

    "พรึ่บ!"

    "ฮี้ฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ"

    ม้าทั้งสี่ตัวพลันยกขาหน้าทั้งสองชูสูงขึ้น หยุดชะงักอยู่กลางคัน

    ผู้คนแปดคนร่อนร่างลงบนพื้น แบ่งเป็นสองขบวนหนึ่งหน้าหนึ่ง หนึ่งหลัง ล้อมกักคนทั้งสี่ไว้กึ่งกลาง

    "ฮึ่มมม" คนทั้งสี่ส่งเสียงลอดรายฟัน รู้ว่าในที่สุดก็มิสามารถหลบหนีอีกฝ่ายไปได้สำเร็จ

    "มารร้ายทั้งสี่ เจ้ายังคิดหลบหนีอีกหรือ? ทางที่ดียอมจำนน หากยอมสังหารตนเองลงเสีย พวกเราจะยังคงซากศพของพวกเจ้าไว้สมบูรณ์!"

    "เหลวไหล!!!" หนึ่งในสี่คนตวาดกลับไป

    "ในเมื่อพวกเจ้ามิยอมจำนน พวกเราได้แต่ลงมือแล้ว!"

    ยังมิทันขาดคำ คนทั้งแปดเหินร่างเข้าหาสี่คนบนหลังม้าอย่างรวดเร็ว ดาบกระบี่ล้วนชักออกมาถืออยู่ในมือทิ่มทะลวงเข้าใส่คนบนหลังม้า

    หนึ่งในสี่คนที่ดูท่าจะเป็นผู้นำพลันตวาดคำ "ข้างบน!!!!"

    ทั้งสี่พร้อมใจกันสละม้าคู่ขา เหินล่างขึ้นสู่ด้านบน หลบเลี่ยงจากการจู่โจมของอีกฝ่าย กลายเป็นว่าคนทั้งแปดแห่งหน่วยงานล่าอสูรกลับพุ่งเข้าหาความว่างเปล่าแทน

    พวกฉิกจับอิดเวลานี้แม้มีผู้คนน้อยกว่า แต่เนื่องจากอีกฝ่ายจู่โจมผิดพลาด ดังนั้นกลับกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบแทน!

    แต่แล้วพริบตานั้น คนทั้งแปดที่เห็นชัดๆ ว่าจู่โจมผิดพลาดพลันตวัดขาเหยียบย่ำบนอานม้า โผพุ่งติดตามขึ้นสู่เบื้องบน กลายเป็นหยิบยืมแรงจากการกดเหยียบบนอานม้า แปรเปลี่ยนทิศทางจู่โจม!

    "ฮี้ฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ" ม้าทั้งสี่ตัวพลันร่ำร้องออกมา ควบตะบึงไปข้างหน้าอย่างตื่นตระหนก ฝุ่นควันคลุ้งขึ้นตลบอบอวล

    คนของฉิกจับอิดทั้งสี่ได้แต่ร่ำร้อง "แย่แล้ว!" ฝืนใจชักดาบกระบี่ที่หว่างเอวออกอย่างฉุกละหุก ทว่ามิทันการณ์เสียแล้ว คนของหน่วยงานล่าอสูรได้พุ่งร่างเข้าประชิดร่างของคนทั้งสี่ ดาบกระบี่ในมือกลับกลายเป็นประกายแสงพุ่งวาบเข้าใส่จุดสำคัญของพวกมัน ที่สำคัญมันมีจำนวนมากกว่าอีกฝ่ายถึงเท่าตัว กลายเป็นสองคนกลุ้มรุมหนึ่งคน ซ้ำร้ายหนึ่งคนที่ว่ายังต้องรับมืออย่างฉุกละหุก

    "ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก"

    เสียงโลหะทิ่มแทงเข้าใส่เลือดเนื้อดังสนั่นไปทั่วราวป่า ห่าโลหิตสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ ร่างสี่ร่างร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน กลายเป็นซากศพสี่ร่างนอนจมกองเลือด พวกมันทั้งสี่ล้วนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีเขียวคาดแดง เป็นคนของฉิกจับอิด! พวกมันแม้ยิ่งใหญ่มานับสิบปี สุดท้ายต้องตกตายเยี่ยงสุนัขข้างถนน นับว่าโชคชะตาของผู้คนมิยั่งยืนแน่นอนจริงๆ

    คนทั้งแปดก้มมองดูซากศพทั้งสี่ หนึ่งในพวกมันชักมีดสั้นเล่มหนึ่ง เป็นมันแวววับ เดินเข้าหาร่างทั้งสี่ บรรจงตัดศีรษะสี่หัวออกมา

    การที่คนของ "หน่วยงานล่าอสูร" ต้องทำเช่นนี้ก็เนื่องมาจาก ทางการมีการตั้งค่าหัวของพวก "ฉิกจับอิด" ดังนั้นหลังจากที่สังหารอีกฝ่ายลง พวกมันยังมีรายได้เพิ่มพูนจากศีรษะของพวกฉิก งานเช่นนี้นับว่านอกจากมีเกียรติจากการที่ได้เป็นคนตามล่าพวกขายชาติแล้ว ยังนับว่ามีผลตอบแทนที่งดงามยิ่งทีเดียว!

    .................

    จากคุณ : ทีมแต่งนิยาย - [ 11 ส.ค. 48 01:02:29 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป