CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    สุนทรภพ(เจาะเวลาหาสุนทรภู่ ฉบับปรับปรุงใหม่) ตอนที่ 4 ขุนทัศนะปราการกวีแปลกหน้าจากแดนไกล

    “นายๆ ตื่นลูก มานอนอะไรอย่างนี่น้ำท่าไม่อาบ ไปอาบน้ำแล้วมากินข้าว ไปๆ ลุกได้แล้ว”  
                 “ครับแม่”  หือ “แม่ๆ จริงๆ ด้วย วู้ฮู้กลับมาแล้วโว้ยกลับมาได้แล้ว
       
             เขาลืมตาขึ้นพร้อมกับมองไปรอบๆ บ้านแต่บ้านหลังที่เขาอยู่นั้นดูไม่คุ้นเอาเสียเลย     มีเพียงบางอย่างที่เหมือนเดิมเพียงแค่บางอย่างจริงๆ เพราะทุกอย่างรวมทั้งตัวบ้านได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงจากบ้านทาวน์เฮาส์หลังขนาดปลานกลางกลับกลายเป็นบ้านที่ใหญ่โตไปจากเดิมมากเขาขยี้ตาดูและลองหยิกเนื้อตัวเองอยู่หลายรอบ     คุณชลดาผู้เป็นแม่เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาส่งให้ขณะนั้นปรานทัศน์ยังดูงงๆ และมึนกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อนี้อยู่ไม่หาย    

           คุณชลดายืนมองหน้าลูกชายตัวเองอยู่พักใหญ่เห็นลูกชายทำท่าทางแปลกๆจึงได้ถามขึ้น

      “เป็นอะไรเหรอลูก...นาย  หนูไม่สบายหรือเปล่า”     เธอพูดพลางเอื้อมมือมาแตะที่หน้าผากของปรานทัศน์อย่างเป็นห่วงแต่ปรานทัศน์รู้ดีว่ามันเปลี่ยนไปจริงๆและมีอะไรผิดปรกติไปมากด้วยเขาไม่ได้ป่วยและไม่ได้ฝันอย่างแน่นอนเขาคิด  เมื่อก่อนคุณชลดาจะเรียกปรานทัศน์ว่า “ตาทัศน์” และสรรพนามที่เรียกกันจะเรียกว่าแกเสียมากกว่าไม่ใช่หนูและวิธีปลุกมันเปลี่ยนไปจากเดิมเขาจึงถามขึ้น

      “แม่เรียกใครว่านายอ่ะ นี่แม่ไม่สบายมากกว่ามั๊ง”  เขาถามกลับเพราะมันผิดปรกติเหลือเกิน

      “ ก็เรียกหนูไงล่ะก็ชื่อหนูน่ะ อะไรจำชื่อตัวเองไม่ได้เหรอ…โถสงสัยจะเป็นหนัก ” เธอชี้แจง

      “ ไอจำน่ะจำได้ครับแต่แม่เรียกผมว่าทัศน์ไม่ใช่เหรอเรียกมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วด้วย ”

            ปรานทัศน์แย้งขึ้นและพลันนึกในใจหรือว่าเขาจะหายไปนานจนแม่อาจจะตรอมใจจนเสียสติแต่เขาฉุกคิดขึ้นมาอีกว่าแม่ไม่มีอาการอะไรเลยที่เรากลับมาไม่ดีใจหรือเสียใจแล้ว  4  เดือนที่เขาไปอยู่ที่อื่นมาล่ะ เขาเหลือบไปมองนาฬิกาดิจิตอลในห้องซึ่งสามารถบอกเวลาและวันที่ได้พร้อมกัน ผลปรากฏว่านี่คือวันที่   20 มิถุนายน   วันแรกที่เขาย้อนเวลากลับไปในอดีตและเขาเพิ่งจะหายไปแค่
    2  ชั่วโมงหรือตัวเขาไม่ได้หายไป  ในขณะที่เขาลำดับเหตุการณ์อยู่นั้นคุณชลดาก็สะสางเรื่องชื่อของเขาต่อ

      “ทัศน์-เทิดที่ไหนกันแม่เรียกหนูว่านายมาตั้งแต่หนูจำความได้แล้ว ”    คุณชลดาแย้งอีก

      “เอ่อๆ... แม่ครับเรื่องนั้นไว้ก่อนเถอะครับผมมีอะไรจะถามหน่อย     ตลอด 2 ชั่วโมงที่กลับจากมหาลัยผมนอนอยู่ในห้องตลอดเลยเหรอครับ ”

      “ อ้าวพูดแปลกอีกแล้ว ก็ใช่นะสิตอน 5 โมงเย็นแม่ชุ่มเข้าไปทำความสะอาดเขายังบอกอยู่เลยว่าหนูหลับคาหนังสือเรียน ”     คุณชลดาสาธยายต่อ

      “ แม่ชุ่ม!!   ใครอ่ะครับ   แม่ชุ่ม ”    ปรานทัศน์ตกใจระรอก 2

      “ตายแล้วลูกชั้น คุณชลดาทำท่าจะเป็นลม ก็แม่บ้านบ้านเราไง ไม่เอาแล้วแม่ไม่เล่นด้วยแล้วไปอาบน้ำเลยเดี๋ยวจะได้มาทานข้าว ทานยาแล้วจะได้ไปนอน สงสัยจะเรียนเหนื่อยโถลูกแม่”   คุณชลดาถอนหายใจเฮื๊อกใหญ่ก่อนที่จะโผลเข้ามาโอบปรานทัศน์ด้วยความเป็นห่วง     ปรานทัศน์ปัดมือของคุณชลดาออกด้วยความตกใจและไม่รอช้าผละจากมือคุณชลดาได้เขารีบวิ่งไปที่ห้องอย่างเร็วแค่ 2 ชั่วโมงเองอะไรๆ มันงอกออกมาเยอะแยะขนาดนี้เลยเหรอ

              ปรานทัศน์ค้นดูหลักฐานของตัวเองทุกอย่างด้วยใจระทึก   ไม่ว่าจะเป็น  บัตรประชาชน   บัตรนักศึกษา  รวมไปถึงใบทะเบียนบ้านด้วย เขาได้ แต่คิดและภาวนาว่าไม่ให้เป็นอย่างที่เขาคิดแต่พอหยิบบัตรขึ้นดูปรากฏว่ามันเป็นไปแล้ว     ในบัตรทุกใบหลักฐานทุกอย่างเป็นของเขาแต่ชื่อที่ปรากฏเปลี่ยนไปจากปรานทัศน์ กลายเป็น “ นาย ทัศนัย  ชัยพิพากษ์ศิลปะ ”

      “ ซวยแล้ว...มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยแล้วชื่อปรานทัศน์หายไปไหนล่ะเนี่ย ”  ปรานทัศน์ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นห้อง     เขาคิดว่าเรื่องทั้งหมดคงเกิดจากฝีมือของตัวเขาเองที่ไปทำให้บางอย่างเปลี่ยนไป     ครู่ใหญ่คุณชลดาก็เดินเข้ามาดูว่าลูกชายตัวเองเป็นอะไร    ปรานทัศน์ทนไม่ไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงถามแม่ถึงความเป็นมาของตัวเองทำทีประจบแม่เพราะรู้ดีว่าเขาคงได้รับคำตอบและรายละเอียดที่ผิดปรกติทั้งหมดเป็นอย่างแน่  

               คุณชลดาซึ่งตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนละคนกับคนเดิมไปแล้วพอเจอลูกประจบของปรานทัศน์เข้าหน่อยก็เล่าให้ฟังถึงประวัติทุกอย่างของบ้านและของตัวปรานทัศน์เองคิดว่าปรานทัศน์คงอยากให้เล่าเรื่องปู่ทวดให้ฟังอีก

      “ แม่ครับทำไมเราถึงอยู่บ้านใหญ่อย่างนี้ล่ะครับ ”   ปรานทัศน์ตั้งคำถามก่อน

      “ ลืมหรือไง  ก็เป็นบ้านของปู่ทวด ไง ที่มาเป็นเพื่อนสนิทกับท่านสุนทรภู่ น่ะ นายยังชื่นชมและยังให้แม่เล่าเรื่องปู่ทวดกับท่านสุนทรภู่ให้ฟังอยู่บ่อยๆ แถมยังบอกว่าโตขึ้นจะเป็นกวีเอกเหมือนท่านสุนทรภู่กับปู่ทวดอีก ”

      “ แล้วปู่ทวดชื่อว่าอะไรครับ ”

      “ เอ้...ลูกนี่ก็ “ ปรานทัศน์ ”  ไง ยังรับราชการคู่กับท่านสุนทรภู่เลย  รู้สึกจะตำแหน่งขุนเหมือนกัน ตำแหน่ง...อืม... อ๋อ “ ขุนทัศนะปราการ ”   ถ้าจำไม่ได้มานี่ตามแม่มาจะให้ดูอะไร จะได้เลิกอำแม่ซะที ”   ปรานทัศน์เดินตามคุณชลดาไปถึงห้องพระห้องหนึ่งซึ่งมีของเก่าแก่เรียงรายมาก
    มายสวยงามเป็นระเบียบ   ทั้งสองเดินไปยังรูปถ่ายบานใหญ่ที่แขวนไว้เป็นรูปเก่าที่มีผู้ชายใส่ชุดราชปแตน 2-4 คนยืนอยู่ชายทุกคนดูภูมิฐานและสง่า  คุณชลดาชี้ให้ปรานทัศน์ดูชายชราอายุประมาณ 60 คนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ทรงตะวันตกท่ามกลางการห้อมล้อมของชายกลุ่มนั้น

       “ นี่ไง  ปู่ทวดถ่ายตอนรับราชการ รู้สึกจะถ่ายตอนสมัยกลางๆ รัชกาลที่ 5 ครองราชน่ะ ดูสินายหน้าเหมือนปู่ทวดเลยนะ ใส่หนวดเคราสักหน่อยอย่างกับคนเดียวกันเลยนะ ”

       ปรานทัศน์เห็นภาพนั้นก็ใจหายวาบ ไม่เหมือนได้อย่างไรก็คนในรูปก็คือเขานั่นเอง เขาคิด  วินาทีนั้นเองเขาก็รู้ทันทีว่าทุกอย่างเกิดจากนิราศบทนั้นจึงทำให้เรื่องราวมันยุ่งเหยิงประวัติศาสตร์กลับตาลปัต   เขาคงต้องหยุดเรื่องนี้เสียที   แต่จะทำอย่างไรล่ะ!!!

    จากเรื่องราวทั้งหมดที่แปลกไป    มากปรานทัศน์รีบกลับมาดูหนังสือตันเหตุเล่มนั้นทันทีที่นึกออก    เขาเปิดดูหน้าที่ต่อจากเรื่องของพระอภัยมณี     ประวัติของสุนทรภู่และเรื่องราวทั้งหมดกลับมาแล้วแต่มีบางส่วนที่หายไป     ในขณะเดียวกันก็มีเรื่องราวใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นกัน   ต่อจากนั้นก็เป็นนิราศเจ้าปัญหา มันกลับมาอยู่ในหนังสือเล่มนี้แล้วและในหนังสือยังกล่าวถึงขุนทัศนะปราการสหายสนิทต่างวัยของสุนทรภู่อีกด้วย    คงเพราะเหตุนี้เองจึงทำให้เรื่องราวในปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยนไป

       ชายหนุ่มยังคงคิดต่อไปอีกว่าเรื่องราวของขุนทัศนะปราการคงไม่ได้มีดแค่บางส่วนในประวัติสุนทรภู่เล่มนี้อย่างแน่นอน    

       รุ่งเช้าเขารีบไปที่มหาวิทยาลัยแต่เช่าตรู่และมุ่งตรงไปยังห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเพื่อค้นหาบางอย่าง ใช่แล้วมันคือเรื่องของขุนทัศนะปราการเขาจะไปดูให้แน่ชัดว่าสิ่งที่เขาคิดจะเป็นจริงหรือไม่     ในชั้นหนังสือชีวประวัติปรานทัศน์พบว่ามีเรื่องราวประวัติของขุนทัศนะปราการคนนี้จริงๆ  มีทั้งเรื่องราวของประวัติ   ผลงาน   และเรื่องราวต่างๆ เหมือนของสุนทรภู่ทุกประการ

       “ มีเรื่องราวพวกนี้ได้ยังไง ” เขาคิด “ เรากลับมาก่อนที่ที่นิราศบทนั้นจะเขียนเสร็จนี่นา…อืม...แล้วขุนทัศนะปราการเป็นใครนะ ดูหน่อยดีกว่าไหนๆ ก็หามาแล้ว ”  เขาเปิดหนังสือประวัติของขุนทัศนะปราการดูปรากฏว่ามีเรื่องราวเขียนไว้อย่างละเอียดจนไม่น่าเชื่อ  ความว่า

             ขุนทัศนะปราการ ชื่อเดิม ทัศน์ หรือ ปรานทัศน์  เป็นชื่อที่แปลกมากเพราะในสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 ยังไม่นิยมตั้งชื่อ 2 พยางค์  แต่ได้มีคนสันนิดฐานว่า ขุนทัศนะปราการมาจากเมืองอื่น ซึ่งไม่ระบุแน่ชัดว่ามาจากเมืองไหน ประวัติของท่านมาชัดแจ้งตอนที่เข้ารับราชการ  มีบางเหตุการณ์บอกว่าท่านขุนสุนทรโวหารและขุนทัศนะปราการผิดใจกันตอนที่ยังไม่ได้รับตำแหน่ง ทำให้ขุนทัศนะปราการ หรือทัศน์ในตอนนั้นต้องหายหน้ากลับบ้านเมืองของท่านไป  

           ทำให้สุนทรภู่ตรอมใจมากจึงคิดสั้นออกบวช แต่ก็ไม่แน่ชัดและมีบางเหตุการณ์ที่กล่าวอ้างว่า ทั้งสองทะเลาะกันอย่างหนักเรื่องที่แย่งความดีความชอบและใคร แต่งนิราศได้ดีกว่ากัน ที่หน้าแปลกก็คือ หากทั้งสองมีเรื่องกันจริงๆ ทำไม “ นิราศสหายแก้ว ” นิราศบทที่ทำให้ขุนทัศนะปราการได้มีผลงานจึงถูกนำเข้าเฝ้าถวาย และเป็นเหตุให้  ท่านได้เข้ารับราชการ ในเวลาต่อมา อยู่ในตำแหน่งขุนเป็นกวีรองจากสุนทรภู่และได้ทำงานร่วมกันและทั้งคู่ไม่มีทีท่าว่าจะมีปัญหากันแต่อย่างใด จึงทำให้เรื่องนี้ตกไป  


       ปรานทัศน์ยิ่งอ่านก็ยิ่งไม่เข้าใจและเมื่อเขาเปิดไปดูหน้าของผลงาน ปรากฏว่า นิราศบางเรื่องของสุนทรภู่อยู่กับเขาและเป็นผลงานของเขา และสิ่งที่น่าแปลกไปกว่านั้นคือ   หลังจากที่สุนทรภู่เสียชีวิตแล้วแทนที่ขุนทัศนะปราการอะไรนี่จะเงียบหายไปกลับมีบทบาทและได้รับตำแหน่งสูงขึ้นและทำงานต่อไปจนถึงรัชกาลที่ 5 ปลายๆ และเขายังมีส่วนร่วมในการเลิกทาสด้วย!! ซึ่งในหนังสือยังระบุว่าเขาเป็นตัวตั้งตัวตีของข้อเสนอเลิกทาสอีกด้วย      เรื่องราวมันชักจะไปกันใหญ่ ตอนนี้ปรานทัศน์ไม่เพียงแค่เปลี่ยนประวัติศาสตร์หากยังสร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ขึ้นมาอีกมาย  ปัญหาครั้งนี้ใหญ่มากเสียแล้ว ก่อนที่มันจะมีอะไรมากกว่านี้เขาต้องรีบแก้  เขาคิด
       
       เขาไม่แน่ใจว่าหนังสือเล่มนี้จะพาเขากลับไปได้อีกหรือไม่เพราะการที่เขาย้อนเวลากลับไปนั้นคงแค่ไปทำให้สุนทรภู่มีกำลังใจและเป็นผู้ช่วยของสุนทรภู่ตอนกำลังโศกเศร้าเท่านั้น   ซึ่งตอนนี้มันก็เข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้วแต่ทำไมมันกลับยุ่งเหยิงไปกันใหญ่อย่างนี้ หรือว่าสิ่งสำคัญไม่ใช่แค่เรื่องนั้น ขณะที่เขาคิดอยู่นั้นหางตาของเขาก็ได้สังเกตเห็นชายแก่คนหนึ่งนุ่งขาวห่มขาวเหมือนพราหมณ์นั่งจ้องมองเขาอยู่!!

    แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 48 13:05:23

    แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 48 13:03:38

    จากคุณ : ขุนไกรพลพ่าย - [ วันแม่แห่งชาติ 12:59:35 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป