ตอนที่ 2
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2547
การได้หลับเต็มอิ่มทำให้เช้าวันนี้ผมตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น รู้สึกรื่นเริงไปกับเสียงใบไม้กระทบลม รับกับเสียงขับขานเจื้อยแจ้วของนกในยามเช้า ทำให้อยากยกย่องธรรมชาติเป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่ เพราะ ทุกผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นมานอกจากความสวยงาม ยังมีความลงตัวอย่างเหมาะสมเสมอจะเติมแต่งเพิ่ม หรือ ลบออกสักขีดหนึ่งก็ไม่ได้
การมาทำงานตั้งแต่แปดโมงเช้าของผมทำความแปลกใจให้ใครหลายคน เพราะผมไม่เคยมาเข้างาน เร็วกว่าสิบโมงเลยตั้งแต่ทำงานมา อาจเป็นเพราะผมมาเร็วก็ได้ทำให้อีกสักพักพระพิรุณเทลงมาอย่างหนักโดยไม่มีเค้ามาก่อน ผมมองสายฝนที่นอกหน้าต่าง แล้วมองความวุ่นวายที่เกิดขึ้นบนท้องถนน คนมากมายพากันวิ่งหาที่ร่มเพื่อหลบฝน มองรถที่เริ่มติดเนื่องจากต้องขับช้าลง
ผมไม่เคยเชื่อว่าโลกกลม วันนี้ ตอนนี้ เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังวิ่งเข้าไปที่ร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามสำนักงาน เธอคนนั้น คนที่ผมเจอที่สวนสาธารณะเมื่อวาน อาจเป็นเพราะตอนนี้หัวใจผมใหญ่กว่าสมอง ทำให้เท้าพาผมลงจากออฟฟิศชั้นสอง แล้ววิ่งฝ่าสายฝนไปที่ร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามทันที และเมื่อเข้าร้านไป ผมมองไม่เห็นที่นั่งว่างเลยนอกจากเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามที่นั่งเธอ คนที่ผมตามหาแล้วผมเดินตรงไปที่เก้าอี้ตัวนั้นอย่างไม่ลังเล
ไม่ทราบว่าที่นั่งตรงนี้ว่างหรือเปล่าครับ
เธอเงยหน้าขึ้นมองผม แล้วเธอทำหน้าแปลกใจ ก่อนที่จะพยักหน้ายอมรับว่าที่นั่งว่าง แม้ตอนนี้เสื้อผ้าเธอเปียกปอนไปด้วยสายฝน ผมแบนลีบ หน้ายังมีเม็ดฝนติดอยู่ แต่สำหรับผมแล้ว เธอก็ยังดูดี ผมไม่รู้สึกตัวเลยเมื่อพนักงานนำกาแฟร้อนมาวางตรงหน้าผม จนกระทั่งเสียงจานกระทบโต๊ะ ทำให้ผมรีบหยิบช้อนตักน้ำตาลใส่ทันที
คุณชอบกาแฟใส่เกลือหรือค่ะ
คุณว่าอะไรนะครับ
ฉันถามคุณว่า คุณชอบกาแฟใส่เกลือหรือค่ะ
ผมมองโถที่ผมตักอยู่ จึงรู้ตัวว่าตัวเองตักโถผิดทั้งๆที่ ผมรู้ว่าสีของเกลือและน้ำตาลของร้านนี้แตกต่างกันอย่างชัดเจน เนื่องจากที่นี้ใช้น้ำตาลทรายแดง
ครับผมทราบ เพียงแต่ผมอยากลองรสชาติใหม่ๆเท่านั้นเอง ผมปดเธอ จะให้ผมบอกเธอได้ไง ว่า
ผมมัวแต่จ้องมองเธอจนผมหยิบผิด
คุณมักทำให้คนอื่นรู้สึกแปลกใจในการกระทำของคุณเสมอหรือค่ะ
คุณแปลกใจในการกระทำของผม
ใช่ค่ะ ไม่ว่าเมื่อวานที่คุณก้าวจากเรือลงน้ำ หรือ วิ่งฝ่าสายฝนจากตึกตรงข้ามมาร้านกาแฟ หรือดื่มกาแฟใส่เกลืออยู่ตอนนี้
ผมรู้สึกดีใจเมื่อรู้ว่าเธอสังเกตการกระทำของผม แต่ผมอยากบอกเธอจังว่า การกระทำที่คุณเห็นนั้นมันเกิดขึ้นได้เมื่อผมมาพบเธอเท่านั้นแหล่ะ
การกระทำของผมทุกเรื่อง มักมีเหตุผลส่วนตัวไม่ทราบว่าคุณอยากรู้เรื่องไหนก่อนละ
ถ้าเป็นเหตุผลส่วนตัว ฉันก็ไม่ควรจะรู้ไม่ใช่หรือค่ะ
จริงๆแล้ว ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เป็นความลับจนเปิดเผยไม่ได้ และที่สำคัญคือผมอยากให้คุณรู้
ถ้าฉันไม่อยากจะรู้ละค่ะ คุณจะทำยังไง
ก็ไม่เป็นไรผมจะเล่าให้ฟัง
เอาละซิ เป็นการเริ่มต้นพบกันที่ไม่สวยเอาเลย ดูเหมือนทั้งเธอและผมเริ่มต้นที่ จะทะเลาะกันมากกว่าที่จะเป็นมิตรกัน
เธอมองไปที่นาฬิกาที่ติดอยู่ทีผนังของร้าน ก่อนที่หันมายิ้มให้ผม ผมช่างอ่อนแอจังที่แพ้ให้กับรอยยิ้มนี้ เมื่อเธอไม่ต้องการฟังก็ไม่เป็นไรทุกอย่างแล้วแต่เธอแล้วกัน
ฉันมีเวลาฟังคุณเล่าเรื่องเดียวเท่านั้น และฉันให้คุณเลือก
ถ้าอย่างนั้นผมเลือกเรื่องกาแฟใส่เกลือแล้วกัน ก่อนที่ผมจะมาร้านกาแฟผมอ่านเรื่องกาแฟใส่เกลือจากอินเตอร์เน็ต เรื่องมีอยู่ว่ามีในหลังจากเลิกงานเลี้ยง ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีใครใส่ใจเขาชวนหญิงสาวที่ดูโดดเด่นที่สุดในงานไปทานกาแฟกับเขา เมื่อถึงร้านกาแฟ เขาเองก็ประหม่าจนพูดไม่ออก ในขณะที่เธอก็รู้สึกอึดอัดจนอยากกลับบ้าน แต่ทันใดนั้นเขาก็ถามบ๋อยว่า ขอเกลือป่นได้ไหมอยากได้มาใส่กาแฟ ทุกคนในร้านประหลาดใจ ส่วนเขาก็อายจนหน้าแดง แต่ยังเติมเกลือลงในกาแฟ และดื่มมันเสียด้วย ทำให้เธออดถามเขาไม่ได้ เขาตอบว่า เมื่อเขายังเด็กบ้านอยู่ติดริมทะเล เขาเป็นลูกน้ำเค็มเล่นกับทะเลทุกวัน เคยชินกับรสเค็มของเกลือ เหมือนรสชาติกาแฟเค็ม เพราะฉะนั้นเมื่อทุกครั้งที่เขาได้ลิ้มรสกาแฟเค้มๆเขาก้จะคิดถึงวัยเด็ก คิดถึงพ่อแม่ที่อยู่ที่นั้น และเธอก็ประทับใจในตัวเขาเพราะผู้ชายที่บอกว่าเขาคิดถึงบ้าน แสดงว่าขาต้องรักครอบครัว และมีความรับผิดชอบต่อครอบครัว นั้นเป็นจุดเริ่มต้นมิตรภาพดีๆทั้งเขาและเธอ
เรื่องน่ารักดีนะค่ะ เลยทำให้คุณอยากดื่มกาแฟใส่เกลือ
ใช่ครับ แต่เหตุผลที่มากกว่านั้น
คุณคงไม่บอกว่าคุณเป็นลูกน้ำเค็มนะ
ไม่ใช่ แต่คือ
.ผมอยากให้เราทั้งคู่เริ่มต้นมีมิตรภาพดีดีต่อกัน คุณจะรังเกียจหรือเปล่าที่จะบอกชื่อและเบอร์โทรให้ผม เพื่อเราจะได้ติดต่อกัน
คุณทำบ่อยไมค่ะ
อะไรที่คุณว่าผมทำบ่อย
การกินกาแฟใส่เกลือ
ครั้งแรกครับ
เธอยิ้มเยาะ ราวกับเธอจะบอกผมว่า รู้นะผมกำลังปดเธออยู่ ทั้งๆที่แล้วผมพูดความจริง
เธอมองนาฬิกาที่ผนังอีกครั้ง แล้วยิ้ม ผมหวังว่าเธอจะให้คำตอบที่ผมต้องการ
ฉันรู้สึกดีใจที่เราได้พบกัน และสนุกมากที่ได้คุยกับคุณ แต่ฉันคงจะไม่ให้ชื่อ และเบอร์โทรกับคุณ จนกว่าเราจะพบกันอีกครั้ง ฉันต้องไปแล้วละค่ะ
ช่างเป็นการปฏิเสธที่นิ่มนวลสำหรับการที่ไม่อยากคบใครสักคน แต่อย่างน้อยผมยังมีความหวังถ้าผมได้พบเธออีกครั้ง
โชคดีครับ และหวังว่าเราได้พบกันใหม่
ค่ะ
แล้วเธอก็หยิบกระเป๋า ลุกจากที่นั่ง แล้วเดินออกจากร้านไป ผมมองตามเธอและหวังว่าเธอจะหันกลับมาอีกครั้งแต่เธอก็ไม่ทำอย่างนั้น เธอยังคงเดินไปตามทางจนลับสายตาผมไป
ผมอาจผิดหวังที่ไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการ แต่ผมก็รู้สึกดีใจที่ได้คุยกับเธอในวันนี้ ถึงแม้จะเป็นเวลาสั้นๆก็ตาม ผมคิดว่า เธอคงไม่ชอบผมเท่าไร เธอคงคิดว่าผมไม่จริงใจ เนื่องจากเธอต้องคิดว่าผมหลอกเธอเรื่องการดื่มกาแฟใส่เกลือครั้งแรก และถ้าเป็นผมก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน
=========================
แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 48 20:15:40
จากคุณ :
an_an_ant
- [
14 ส.ค. 48 20:04:25
]