CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    :<>: ปริศนาของเอล :<>: เรื่องที่ 4 นางฟ้าผิดที่ผิดทาง

    เรื่องที่ 1 ซินเดอเรลลาสีเลือดhttp://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3570406/W3570406.html

    เรื่องที่ 2 ภาพฉาบจันทน์  http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3595533/W3595533.html

    เรื่องที่ 3 จากใจอาจารย์ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3622930/W3622930.html



    เรื่องที่ 4 นางฟ้าผิดที่ผิดทาง


    มืดแล้ว...และเวลาที่ก้มลงดูได้จากนาฬิกาข้อมือคือ 4 ทุ่ม 15 นาที

    "ดึกแล้วนะ เอล  กลับบ้านเถอะ"

    เสียงของอังเดรที่ดังขึ้นอย่างชัดเจน ท่ามกลางเสียงจอแจของแหล่งท่องเที่ยวยามกลางคืน เรียกให้ฉันเงยหน้าขึ้น แล้วหันไปดูเขาบิดขี้เกียจอยู่ข้างๆ

    เวลานี้ เราสองคนเปิดแผงขายเครื่องประดับทำมือแบบแบกะดิน อยู่บนทางเท้าหน้าดิสโกเธคแห่งหนึ่งในตัวเมือง  ถัดไปซ้ายมือมีแผงขายไฟแช็กหน้าตาแปลกๆ อยู่แผงหนึ่ง  ส่วนขวามือของฉันเป็นบันไดทอดลงไปยังห้องแสดงดนตรีที่วัยรุ่นนิยมมาเที่ยวมากที่สุดช่วงนี้

    ความจริง บริเวณที่ฉันเปิดร้านอยู่นี่ทำเลดี แต่ผู้คนมักเดินผ่านหน้าร้านไปโดยไม่สนใจจะเหลียวมองสินค้าของฉันเลย อังเดรจึงเบื่อ และหาเรื่องชวนฉันกลับ

    "เดี๋ยวก่อนสิอัง…วันนี้ ฉันยังขายไม่ได้สักอันเลยนะ"

    "ทำอย่างกับเมื่อวานขายได้อย่างนั้น"

    "ก็สองสามชิ้น"

    อังเดรยิ่งทำหน้าเบื่อมากขึ้นอีก… "เอล…ฉันอุตส่าห์ไปขอร้องผู้จัดการดิสโกเธคให้เธอกับลุงไฟแช็กมาเปิดร้านที่นี่…"

    "ด้วยการพาคนในแก๊งไปที่บ้านเขาสามสิบคน"

    "ไม่เห็นเกี่ยวกับเรื่องนั้น  ฉันหมายถึง ทำเลมันดีก็จริง แต่ดูสิ…เธอขายเครื่องประดับอะไร? สร้อยหิน กำไลหญ้า สร้อยดอกไม้แห้งๆ ใครจะซื้อ"

    "เมื่อวานยังมีคนซื้อ" ฉันเถียงพลางขยับปีกหมวกให้พ้นออกจากตาของตัวเองนิดหนึ่ง เพื่อก้มลงดูสินค้าจำนวน 10 รายการบนผ้ากำมะหยี่สีดำที่ปูไว้บนพื้น  มันยังเหลือสร้อยร้อยด้วยหินสีขาวสลับกับสีดำ 3 ชิ้น  กำไลหญ้าแห้ง 2 วงกับมงคลสวมหัวทำจากดอกไม้สด (ที่เริ่มเฉาแล้ว) อีก 5 อัน ซึ่งฉันคิดว่าพวกมันก็สวยดี เสียแต่อังเดรไม่เข้าใจศิลปะในแบบของฉัน

    "เถอะน่า อัง…ถือว่ามานั่งเป็นเพื่อนลุงขายไฟแช็กสักสองสามวัน  เพราะเรากลับเมื่อไร ลุงโดนผู้จัดการร้านไล่กลับทุกที"

    "ไม่เคยรู้เลยนะ…ว่านอกจากเธอจะเป็นนักเรียนดีเด่นแล้วยังใจดีกับคนอื่นเป็นด้วย"

    อังเดรประชดแล้วทิ้งหลังลงพิงกำแพงดิสโกเธค ในขณะที่ฉันต้องรีบกระชับหมวกแบบวัยรุ่นที่สวมอยู่ให้ตกลงมาบังดวงตามากขึ้น  เนื่องจากมีเด็กนักเรียนโรงเรียนเดียวกันสองคน เดินมาหยุดดูไฟแช็กหน้าตาเหมือนหัวคนตากแห้งอยู่ที่แผงข้างๆ

    ฉันรู้…ว่าอังเดรขัดใจฉันลำบาก ค่าที่เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก

    เวลาฉันนึกอยากทำอะไรแปลกๆ เป็นต้นว่า อยู่ดีๆ ออกมานั่งขายของอยู่ริมถนนแบบนี้…เขาจะบ่นพอเป็นพิธีแล้วเงียบในที่สุด

    ดังนั้น  ฉันจึงอาศัยช่วงเวลาที่เขาเลิกเซ้าซี้ให้กลับบ้าน  หยิบสร้อยข้อมือร้อยด้วยหินสีแดงเพลิงออกมาอีกหนึ่งเส้น วางลงบนผ้ากำมะหยี่  เป็นจังหวะเดียวกับที่เด็กนักเรียนโรงเรียนเดียวกันสองคน ผละออกจากร้านของลุงไฟแช็กและเดินผ่านหน้าร้านของฉัน  พอพวกเธอเห็นมันก็ชะงักแล้วเลี้ยวเข้ามา  คนที่แต่งตัวน่ารัก สวมเสื้อกับกระโปรงยีนส์สีน้ำเงินซีด หยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาส่องกับแสงไฟทันควัน

    "ต๊าย! สร้อยนี่สะท้อนแสงไฟเป็นสีรุ้งด้วย สวยจัง! นี่เท่าไรคะ?"

    หนึ่งในนั้นถาม  ฉันจึงยิ้มอยู่ใต้เงาปีกหมวกแล้วตอบว่า "…ไม่ขาย"

    "หา? ไม่ขาย? แล้วเอาออกมาวางทำไมล่ะ"

    "มันเกะกะกระเป๋า เลยเอาออกมาวาง"

    คำตอบของฉันทำให้เด็กคนนั้นค่อยๆ วางของลงอย่างเสียดายที่สุด  แต่แล้ว เพื่อนของเธอซึ่งแต่งตัวชะเวิบชะวาบและแต่งหน้าเสียแก่กว่าอายุจริง ฉวยมันขึ้นมาใส่ข้อมือ

    "ถ้าเธอไม่เอา ฉันเอานะ! ของซื้อของขาย มีคนสนใจก็ขายๆ ไปเหอะน่ะ เอ้า! ฉันให้ราคาเธอสูงๆ เลย!"

    พูดจบ หยิบธนบัตรใบละร้อยโยนมาให้ฉันแล้วรีบฉุดเพื่อนก้าวพรวดๆ ออกไปจากร้าน

    อังเดรยืดตัวขึ้นนั่ง

    "จะให้ไปเอาคืนหรือเปล่า?"

    "อ๋อ ไม่ต้องหรอก" ฉันส่ายหน้าแล้วชูธนบัตรที่เธอผู้นั้นจ่ายเป็นค่าของให้เขาดู "เขาให้ฉันมาตั้งขนาดนี้แน่ะ  เส้นเมื่อวานยังน้อยกว่านี้สี่เท่า"

    ตอนที่ฉันยัดเงินเก็บใส่กระเป๋า สายตาของฉันเหลือบไปยังฝั่งตรงข้ามถนนแล้วเห็นเด็กสาวผู้หนึ่งเข้า เธอมีผมสีบลอนด์อมน้ำตาลเหยียดตรงเป็นเงา ผิวขาว แต่งตัวชุดกระโปรงลูกไม้สีขาวยาวถึงหน้าแข้ง  เดินลงจากรถยนต์รับจ้างแล้วก้าวเข้าไปในร้านกาแฟ ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะติดกระจกริมถนน

    ฉันคิดว่าฉันรู้จักเธอ…เพราะเด็กสาวอายุสิบหกคนนั้นเรียนห้องเดียวกับฉัน  เธอคือลอร่า กราเซีย บุตรสาวตระกูลเก่าแก่ตระกูลหนึ่ง ผู้มีคุณสมบัติของ 'ผู้ดี' อยู่ครบ ทั้งมารยาทงามเป็นเลิศและจิตใจดีจนเรียกว่าประเสริฐ  นอกจากนี้ ฉันยังรู้มาว่าลอร่า กราเซียเป็นที่รักของเด็กๆ ในบ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้าชานเมือง

    โดยปกติ เธอแจ่มใสจนเป็นที่รักของอาจารย์และเพื่อนๆ แต่ระยะหลังนี้ ลอร่า กราเซียเศร้าซึมจนผิดสังเกต  การที่เด็กคนนี้สูญเสียรอยยิ้ม ทำให้ผู้คนรอบข้างเธอพลอยห่อเหี่ยว ไม่ร่าเริง

    มันทำให้ฉันอดคิดไม่ได้ว่า เธออาจได้เป็นคนสำคัญของประเทศในอนาคตเพราะดูมีอิทธิพลเหนือจิตใจผู้อื่น  ดังนั้น ฉันจึงอยากให้ดวงตาสีฟ้าใสของเธอกลับมามีแววหัวเราะเสมอดุจเดิม

    ตอนนั้นเอง ลอร่า กราเซียผลุนผลันออกจากร้านกาแฟโดยที่บริกรยังเดินมาไม่ถึงโต๊ะ แล้ววิ่งข้ามถนนมาฝั่งเดียวกับที่ฉันและอังเดรขายของอยู่โดยไม่ระวังรถยนต์  ทุกคันจึงต้องรีบเหยียบห้ามล้อจนเกิดเสียงเสียดพื้นถนนดังสนั่น  ครั้นแล้ว เธอพุ่งขึ้นทางเท้าแล้วตรงเข้าคว้าแขนชายหนุ่มที่เพิ่งเดินผ่านร้านขายไฟแช็กมาจนเกือบถึงร้านขายเครื่องประดับ

    เขา…โดริค เจสัน นักร้องนำของวงดนตรีพังค์ที่จะขึ้นเล่นบนเวทีในเวลา 23.00 น.

    ฉันรู้จักคนๆ นี้ดีในฐานะนักดนตรีนอกคอกที่เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น ราวกับเธอเหล่านั้นเป็นกระดาษชำระที่ใช้แล้วต้องทิ้ง  และทันทีที่หันไปเห็นลอร่า กราเซีย  เขาชักสีหน้าพร้อมสะบัดแขนอย่างแรง

    "โธ่เอ้ย อีบ้า! มาทำไมอีกวะ!"

    ลอร่า กราเซียเซถอยไปก้าวหนึ่ง แต่ยังพยายามกลับมายื้อโดริค เจสันไว้ เป็นเหตุให้ผู้หญิงชุดแดง ทาปากสีแดงสดที่มากับเขา เข้ามาแกะมือเธอพร้อมบริภาษเด็กสาวด้วยเสียงแหลมสูงเรียกสายตาผู้คน

    "นี่! ปล่อยนะ! นังหน้าด้าน! เจสเขาเขี่ยแกทิ้งแล้ว ยังอุตส่าห์โผล่หัวสีผู้ดีมาให้เขาเห็นอีกเหรอ!"

    แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร ลอร่า กราเซียก็ไม่ปล่อยมือโดริค ทั้งยังร้องไห้ น้ำตาพร่างพรูอย่างเงียบๆ ทำให้นักร้องสไตล์พังค์ผู้นั้นโกรธ  ในที่สุดตบหน้าสาวน้อยเต็มมือ จนเธอกระเด็นไปนั่งกองพื้น!

    "ไปลงนรกเลยไป๊ อีคุณหนูลูกผู้ดี!"

    เขาไล่ส่งเธอแล้วควงแขนผู้หญิงสีแดงของเขาลงไปยังห้องแสดงดนตรีชั้นใต้ดิน ทิ้งให้เธอสะอึกสะอื้นอยู่อย่างนั้นอย่างไม่ใยดี

    ฉันถอนหายใจยาวเมื่อเสียงแหลมๆ ชวนหงุดหงิดของผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นพ้นหูไปเสียที

    "...อัง..."

    "หือ?" เขาขานรับอย่างเกียจคร้าน พลางหาวหวอดๆ ทำเอาฉันระอิดระอากับนิสัยไม่สนเรื่องชาวบ้าน ทั้งที่มักจะยุ่งเรื่องของฉันมากกว่าเรื่องตัวเอง  แต่อันที่จริง ผู้คนที่เดินผ่านไปมา ส่วนมากก็คงคิดเช่นเดียวกับอังเดร ถึงได้ปล่อยให้ลอร่า กราเซียนั่งสะอึกสะอื้นอยู่ ณ จุดเดิมโดยไม่ให้ความสนใจเลย

    "เอาเถอะ…" ฉันพยายามปลง "ช่วยพาผู้หญิงคนนั้นมาที่ร้านทีสิ อัง จะปลอบจะขู่ก็ได้"

    "ครับ…ผม"

    อังเดรลุกไปทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดโดยไม่เอ่ยปากถามสักคำ  ฉันมองลอดปีกหมวกออกไปเห็นอังเดรเข้าไปหาลอร่าซึ่งอยู่ห่างจากร้านของเราเพียงสี่ก้าว

    ฉันเป็นคนบอกให้เขาทำ 2 วิธีคือปลอบกับขู่  อังเดรจึงเลือกวิธีหลังที่เขาถนัดมากกว่า จนทำให้หัวเข่าบอบบางใต้กระโปรงสีขาวของเธอได้แผลถลอกจากการลากถูลู่ถูกัง  เมื่อลอร่า กราเซียถูกจับให้นั่งหันหน้าเข้าหาร้านเครื่องประดับแล้ว ฉันจึงมองเขาด้วยหางตาเป็นการตำหนิ

    "ทำให้มันเบามือไม่ได้หรือไง"

    "อุตส่าห์ทำตามแล้วยังบ่นอีก เธอนี่เรื่องมากชะมัดเลย" เขาบ่นขณะกระโดดข้ามแผงกลับมา แต่ฉันยกมือห้ามก่อนที่เขาทิ้งตัวลงนั่ง

    "ไปที่ไหนก่อนได้ไหม  อีกสิบนาทีค่อยเจอกัน"

    อังเดรชะงัก แต่แล้ว ยอมเดินออกจากร้าน ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามโดยไม่ตั้งคำถามใดๆ ทั้งสิ้น

    ฉันรู้ว่าเขาไว้ใจฉันเสมอ  ดังนั้น ฉันจะต้องใช้เวลาสิบนาทีที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าที่สุด

    เมื่อหันมาทางมิสกราเซีย  เธอยังคงใช้มือปิดหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ แต่พยายามเก็บเสียงเสียจนไม่รู้ว่าคิดอะไร

    "เลิกร้องเถอะสาวน้อย" ฉันส่งเสียงพร้อมยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เธอรับไปใช้เช็ดน้ำตาบนแก้ม

    ทีแรก คำปลอบโยนของฉันทำให้เธอร้องไห้หนักขึ้น แต่ครั้นเอ่ยอีกคำหนึ่ง…มันกลับทำให้เธอหยุดการฟูมฟายได้ชะงัด

    "ที่เธอมารอมันอยู่…เพราะมีเรื่องที่ต้องสะสางไม่ใช่เหรอ?"

    ประโยคที่ฉันพูดและดูเหมือนมันจะเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของเธอ  กราเซียค่อยๆ เงยหน้าที่เปื้อนน้ำตาขึ้นมองฉัน

    "คุณเป็นใคร…ทำไม…"

    "เธอเป็นคนฉลาด…ไม่ว่ามันจะทำอะไรให้เธอก็ตาม แต่เธอรู้ดีต่างหากว่าจะทำอะไรต่อไป"

    เสียงสะอื้นหายไป…

    ฉันยิ้มน้อยๆ ใต้เงาปีกหมวกก่อนจะหยิบสร้อยข้อมืออีกเส้นขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อ แล้วดึงมือลอร่า กราเซียขึ้นมาสวม  มันเป็นสร้อยที่ร้อยจากหินสีขาวสะอาดเหมือนขนหงส์ ห้อยไม้กางเขนเงินซึ่งสลักอักษรโย้เย้เหมือนลายมือเด็ก  สุดท้ายยัดบัตรคอนเสิร์ตในเวลาห้าทุ่มให้เธออีกใบหนึ่ง

    ลอร่า กราเซียเงยหน้าขึ้นมองฉันอย่างฉงน แต่ครั้นได้ยินเสียงดนตรีและเสียงผู้คนกรีดแว่วมาจากห้องแสดงดนตรีใต้ดิน  เธอก็ตัดสินใจ กำบัตรคอนเสิร์ตแน่นแล้วรีบวิ่งลงบันไดเข้าไปในดิสโกเธค

    จากคุณ : ฯคีตกาล - [ 15 ส.ค. 48 14:20:54 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป