สวัสดีค่ะ มาแป่ะเรื่องต่อแล้ว
ตอนนี้อาจจะติดเรต...นิ๊ดดดหน่อยนะค่ะ (อิอิ อ่านแล้วก็อย่าคิดมาก)
---------------------------------------------------------
หัวใจไร้มลทิน
เสียงกรุ๊งกริ๊งของกระพรวนพวงเล็กที่แขวนกับประตูหน้าร้านอาหารเล็กๆดังขึ้น เมื่อมีผู้เปิดเข้ามาผมเงยหน้าจากจานข้าวพุ่งสายตาไปที่ประตูทันทีด้วยหวังว่าจะเห็นบุคคลที่เฝ้าคอย
แต่แล้วผมก็ต้องก้มหน้าเขี่ยข้าวในจานต่อด้วยความรู้สึกเซ็งๆ เมื่อคนที่เข้ามาไม่ใช่เธอ แต่กลับเป็นใครก็ไม่รู้หุ่นล่ำยังกะนักกล้ามแน่ะ
จนกระทั่งข้าวกระเพราะไก่ไข่ดาวที่จัดว่าเป็นหนึ่งในเมนูสิ้นคิดเกือบหมดจาน เสียงกรุ้งกริ๊งก็ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมๆกับร่างบางอวบอิ่มที่มักจะทำให้หัวใจผมสูบฉีดเลือดรุนแรงทุกครั้งที่เห็นเธอ
สายตาผมจับจ้องเธอนับแต่วินาทีนั้น จนกระทั่งเธอเดินไปนั่งที่โต๊ะเล็กมุมร้าน ซึ่งเธอจะนั่งมุมนั้นทุกครั้งที่เข้ามาในร้านนี้
คุณคิดว่าผมบ้ามั้ย ถ้าจะบอกว่าผมแอบมองเธอเงียบๆมา สามเดือนแล้ว แต่ไม่เคยเข้าไปคุยกับเลยซักครั้ง ทั้งๆที่ตั้งใจอยู่หลายครั้งเหมือนกันแต่ก็เหลว เพราะไม่กล้า
อีกอย่าง เธอก็ดูสวยสะอาดเหลือเกิน เธออาจจะมีคนรักแล้วก็ได้
ผมจึงได้แต่แอบมองเธอไปแบบนี้
และอาหารที่เธอทานเป็นประจำ คือ มักกะโรนีผัดกุ้ง กับน้ำแตงโมปั่น หรือไม่ก็จะเป็นกุ้งทอดกระเทียม กับน้ำแตงโมปั่นเหมือนเดิม แต่ทุกครั้ง เธอจะตบท้ายด้วยไอศกริมรสส้มเสมอ
ผมชอบเวลาที่เธอขยับร่าง เส้นผมเรียบตรง ดำเงา ของเธอจะพลิ้วตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย จนทำให้ผมอยากลองลูบเล่นดู ว่ามันจะนุ่มลื่นซักแค่ไหนกัน
ขณะที่ผมกำลังมองเธอเพลินๆอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงอะไรแว่วเหมือนว่าจะดังอยู่ใกล้ๆ พลัน! ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อถูกฝ่ามือหนาหนักของใครบางคนตบผัวะเข้าที่ต้นแขนเต็มๆ
เฮ้ย! มองอะไรวะ ข้าถามตั้งนานแล้ว
สติสตังผมวิ่งกลับคืนร่างทันที แล้วก็กระพริบตาปริบๆมองคนตรงหน้าอย่างงงๆ
อ้อ! ผมลืมบอกไป ว่าวันนี้ผมมีเพื่อนมาด้วย และเพื่อนคนนี้ก็กำลังหันไปมองตามสายตาของผมบ้าง
ครู่เดียว มันก็หันกลับมา และพูดด้วยน้ำเสียงหมิ่นๆ
โธ่! นึกว่ามองใคร
นายรู้จักผู้หญิงพรรณนี้ด้วยเรอะ
ผมมองเพื่อนไม่สู้จะพอใจนักที่ ทำไมจะต้องเรียกเธอว่า ผู้หญิงพรรณนี้ แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีออกไป ได้แต่ส่ายหน้า และถามกลับไปว่า
นายรู้จักเหรอ
เพื่อนผมเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนจะตอบในสิ่งที่ทำให้หัวใจผมกระตุก
เธอเป็นผู้หญิงไซด์ไลท์..เคยอยู่กับพี่ชายข้าที่คอนโดเดือนนึง
ผมได้แต่นั่งอึ้ง ไม่คิดว่าเพื่อนจะโกหกแต่อย่างใด เพราะผมก็รู้จักพี่ชายของเพื่อนพอสมควร และเห็นว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงบ่อย ตามประสาคนมีเงินเหลือกินเหลือใช้
เพียงแต่ผมคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่แลดูสวยสะอาด นัยน์ตาเศร้าๆคนนั้นจะเป็นผู้หญิง
ขายตัว
สายตาผมมองไปที่เธออีกครั้ง
เห็นเธอกำลังพูดโทรศัพท์มือถือด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเพียงครู่เดียวก็วางสาย และไม่สนใจอาหารตรงหน้าเลย
สีหน้าเธอเปลี่ยนมาเป็นเหนื่อยหน่ายยังไงชอบกล ก่อนจะหันไปเรียกพนักงานเก็บเงิน และลุกเดินออกจากร้านทันที
ทั้งๆที่เธอเพิ่งจะทานมักกะโรนีไปไม่กี่คำ น้ำแตงโมก็พร่องไปนิดเดียว และวันนี้เธอยังไม่ได้ทานไอศกริมด้วย!
เฮ้! เพื่อนผมเคาะโต๊ะเบาๆเรียกสติผมกลับมาอีกครั้ง
ติดใจรึไง
เอาไว้วันเกิดนายข้าจะเอายัยนี่ผูกโบว์มาเป็นของขวัญให้
เฮ้ย! บ้าน่า
ผมอุทานออกไป แต่ภายในใจกลับคิดเล่นๆว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดีน่ะซิ
----------------------------------------------------
ฉันเดินกลับห้องชุดของตัวเองอย่างเซ็งๆ และเข้าห้องได้ไม่นานโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นอีกครั้ง จากบุคคลเดิม ที่ฉันไม่อยากจะเสวนาด้วยเลยในขณะนี้
ค่ะ
ฉันกดรับสาย คิดจะพูดให้เด็ดขาดไปเลย
ปาง
เธอไม่เปลี่ยนใจแน่เหรอ
ไม่ค่ะ ปางเบื่อ
ปางอยากอยู่เงียบๆ
เหรอ
แต่ถ้าเธอเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็บอกพี่นะ
เพราะอย่างเธอเนี่ยหากินได้อีกหลายปีเชียวล่ะ
ค่ะ ฉันตอบกลับไปเพื่อตัดความรำคาญและปิดเครื่องทันที
ฮึ! ยังหากินได้อีกหลายปีเหรอ
ฉันมักเจ็บยอกแสลงทุกครั้งที่ได้ยินประโยคนี้จากนายหน้า
แต่ฉันก็ปฏิเสธกับความเป็นจริงไม่ได้เช่นกัน
ช่างเถอะ
ตอนนี้ฉันอยากแช่น้ำอุ่นแล้วซิ
ฉันถอนใจยาวก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ
และมักจะหยุดดูตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ที่ส่องให้เห็นได้ทั้งตัว
มองเนื้อตัวเปล่าเปลือยที่ใครๆต่างก็ชมว่าฉันสวยงามไร้ที่ติ
แต่สำหรับฉัน ฉันกลับคิดว่า ร่างกายนี้สุดแสนจะสกปรก เต็มไปด้วยริ้วรอยมลทิน ไม่มีส่วนไหนน่าจับต้อง หรือน่าลูบไล้เลย
มันน่าขยะแขยงสิ้นดี!
สองวันต่อมา
โทรศัพท์มือถือของฉันดังขึ้นอีกครั้ง จากนายหน้าคนเดิม
ฉันกดรับพลางคิดว่า หลังจากวันนี้ไป ฉันจะซื้อเบอร์ใหม่
นายหน้าโทรมาครั้งนี้ เพื่อขอให้ฉันรับงานสุดท้ายในคืนนี้ พอฉันบอกปฏิเสธ นายหน้าก็เริ่มพูดจาทำนองลำเลิกเอาบุญคุณ สมัยที่ฉันต้องการเงินอย่างเร่งด่วน
ในที่สุด ฉันก็ยอมตกลง
และทันทีที่ปิดเครื่อง ฉันก็ถอดซิมการ์ดออกจากโทรศัพท์ปาทิ้งอย่างเดือดดาล พร้อมๆกับรู้สึกสมเพชตัวเองไปด้วย
ที่ครั้งนั้นฉันยอมขายตัว เพราะต้องการเงินมาเป็นค่าผ่าตัดทำบายพาสหัวใจให้พ่อโดยเร่งด่วน เพราะในชีวิตนี้ฉันเหลือท่านเพียงคนเดียวเท่านั้น
แต่สุดท้าย การผ่าตัดก็ล้มเหลว
ฉันเสียพ่อไป หลังจากที่เสียตัวให้กับผู้ชายแปลกหน้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง
เงินก้อนนั้นไม่ช่วยอะไรเลย แต่มันกลับผลักดันให้ฉันพบเจอแต่สิ่งเลวร้าย
แม้กระทั่ง คนรักที่คบหาดูใจกันมาเกือบสามปีก็เผยธาตุแท้ออกมา
ขณะที่ฉันกำลังเสียใจกับเหตุการณ์ที่ประดังเข้ามาในชีวิต จิตใจฉันก็อ่อนแอและเผลอระบายสิ่งที่ฉันกระทำลงไปอย่างจำใจ โดยหวังเพียงจะได้คำปลอบโยนที่แสนอบอุ่นจากเขา เพื่อต่อกำลังใจให้ฉันก้าวเดินทว่า
เขากลับทำร้ายจิตใจฉันซ้ำลงไปอีก โดยการข่มขืนฉัน เพราะโกรธที่ตลอดเวลาฉันหวงเนื้อหวงตัวกับเขา แต่กลับไปนอนกับคนอื่น
ในเมื่อคนอื่นได้ เขาก็ต้องได้!
หลังจากนั้น เขาก็เที่ยวโพนทะนาเรื่องของฉันไปทั่วให้ฉันได้อับอายจนต้องย้ายหนีจากถิ่นที่เกิดมาแต่อ้อนแต่ออด
ฉันไม่รู้ว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นเพราะถูกชะตากลั่นแกล้ง หรือเป็นเพราะความโง่เขลาเบาปัญญาของตนเองกันแน่
แต่นั่น มันก็ผ่านมา สิบปีแล้ว
สิบปี แห่งการดำเนินชีวิตเป็นผู้หญิงขายตัว และเหตุใดทำให้ฉันดำเนินชีวิตบนถนนสายนี้
จนป่านนี้ ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทั้งๆที่คลอดมา ฉันก็ไม่เคยได้รับความสุขจากการหลับนอนกับผู้ชายเลย
------------------------------------------------------
ผมเดินตามเพื่อนคนเดิมที่กึ่งลากกึ่งจูงผมเข้าโรงแรมที่เป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจของครอบครัวมัน
เฮ้ย! พาข้าเข้ามาในนี้ทำไมวะ?
เหอะน่า
รับรอง มันแน่
มันยักคิ้วให้ผม และทำหน้าเจ้าเล่ห์ยังไงชอบกล จนทำให้ผมเริ่มระแวงในพฤติกรรมของมัน และพาลคิดในแง่ร้ายทันที ว่ามันอาจจะลากผมมาทำมิดีมิร้ายก็ได้ แต่อีกใจก็แย้งว่าเพื่อนผมคงนี้คงไม่เป็นอย่างที่คิดหรอก
เอาวะ ถึงตัวผมจะเล็กกว่ามัน
แต่ผมก็วิ่งได้เร็วล่ะน่า
เพื่อนผมไขกุญแจห้องและผลักผมเข้าไปข้างในเพียงลำพัง และทำท่าจะปิดประตูทันที
เฮ้ย! แล้วนายล่ะ ผมรีบถามพร้อมๆกับยึดบานประตูไว้
ไม่ล่ะ ข้าไปชอบกินแซนด์วิส
นายไปแกะของขวัญคนเดียวเหอะ เพื่อนผมตอบแบบกำกวมและผลักมือผมออกก่อนจะปิดประตู
แซนด์วิส!! ของขวัญ!!
อะไรของมันนะ หรือว่ามันจะสั่งให้เชฟใหญ่ของโรงแรมทำแซนด์วิสที่แปลกพิสดาร อร่อยเลิศมาให้ลิ้มลองในวันเกิดผม
แต่ทำไมมันต้องให้มากินในห้องนี้ด้วย!?
ผมคิดอย่างไม่เข้าใจ ขณะสอดส่ายสายตาไปรอบๆห้อง เพื่อหาไอ้เจ้าแซนด์วิสที่ว่า และขณะนั้นหูผมก็ได้ยินเสียงเหมือนน้ำไหลดังแว่วมาจากประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทและก็เงียบไป ทำให้ผมสงสัยว่า แม่บ้านเขาทำความสะอาดกันตอนสองทุ่มด้วยเหรอ จึงเปิดประตูเข้าไปดูให้หายสงสัย
พลัน!
หัวใจผมแทบกระเด็นไปอยู่ที่พื้น เมื่อเห็นเธอคนนั้นนั่งอยู่บนขอบอ่างอาบน้ำ ทั่วร่างกลมกลึงละอองตามีเพียงผ้าเช็ดตัวพันกายผืนเดียวเท่านั้น และเธอก็หันมาสบตาผม พร้อมรอยยิ้มหวานอย่างเชิญชวน
แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 48 18:11:10
จากคุณ :
มาดาม เค
- [
17 ส.ค. 48 18:10:02
]