กลรัก...ร้อยเล่ห์ ตอนที่ 7/2
สวัสดีครับ คุณภูมิรพี ผม
ธนพัทธ์ ยินดีที่ได้รู้จักครับธนพัทธ์สาวเท้าเข้ามาหาทั้งสองคนพร้อมกับแนะนำตัวเอง ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งยิ้มทักทายเพียงเล็กน้อย เขาไม่นึกแปลกใจที่ธนพัทธ์รู้จักชื่อของเขา ในเมื่อชื่อเขามักลงในหนังสือพิมพ์ตรงหน้าข่าวการเมืองไม่เว้นแต่ละวัน กับอีกบางทีก็ยังให้สัมภาษณ์นักข่าวทางโทรทัศน์ด้วย
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ คุณธนพัทธ์
ไม่นึกเลยนะครับว่าผมจะได้มาพบนักการเมืองหนุ่มชื่อดังที่นี่ มาพักผ่อนหรือครับ
ครับ
ช่วงนี้รู้สึกเครียดๆ วันหยุดเลยหาเวลามาเที่ยวทะเลบ้างน่ะครับ ภูมรพีกล่าวอย่างเป็นมิตร พร้อมส่งรอยยิ้มที่แพรวามักชอบมองทุกครั้งไป เขาคือนักการเมืองหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่ใครๆต่างจับตามอง ด้วยวัยเพียงสามสิบต้นๆแต่ก็ได้เป็นถึงผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง นั่น
ยิ่งทำให้ชื่อเสียงเขาโด่งดังไปทั่ว นอกจากชื่อเสียงด้านการงานแล้ว ภูมิรพียังมีชื่อเสียงในหมู่สาวๆอีกด้วย คงเป็นเพราะใบหน้าเรียวค่อนข้างขาวรับกับจมูกโด่งเป็นสัน คิ้วเข้มพาดเฉียงส่งให้ดวงตายาวรีดูมีเสน่ห์ขึ้น เสื้อคอป่านสีขาวโบกสะบัดยามลมพัด กางเกงสีน้ำตาลขาสั้นเข้ากับรองเท้าสานเบาสบาย ท่ายืนเอามือล้วงกระเป๋า พักขาข้างหนึ่ง ทำให้ดูแปลกตาไป แทบทุกครั้งที่เธอพบภูมิรพีนั้น เขามักสวมสูทสีดำ หน้าตาเคร่งเครียด แต่ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ นี่ถ้าหากสาวๆเห็นเขาตอนนี้ล่ะก็ คงใจละลายกันเป็นแถวๆ
. แพรวาอมยิ้มน้อยๆพร้อมกับส่งประกายสุกใสในดวงตาไปให้ภูมิรพี
นี่คุณภูมิรพี รู้จักคุณแพรวาด้วยหรือครับ ธนพัทธ์โพล่งถามขึ้นมาเมื่อเห็นสายตาของแพรวาแล้วชวนให้หงุดหงิดใจขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่มีเหตุผล
ผมรู้จักแพรมาตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะครับ พอดีบ้านอยู่ติดกัน แล้วน้องชายผมก็เป็นเพื่อนสนิทของแพรวาด้วยน่ะครับ
อ้อ... เป็นเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กนี่เองถึงได้ดูสนิทกันขนาดนี้
พี่โตคะ แพรวาเราไปเดินเล่นกันตรงนู้นดีกว่านะคะ แพรมีเรื่องจะพูดด้วย แพรวาคล้องแขนภูมิรพีพลางเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวาน
ฉันมีธุระกับพี่โต ขอตัวก่อนแล้วกันนะคะคุณธนพัทธ์ แพรวาหันมายิ้มให้ชายหนุ่ม ก่อนลากเทพบุตรผู้ช่วยเหลือเธอให้รอดพ้นจากผู้ชายตัวใหญ่ยักษ์คนนั้นมาได้อย่างหวุดหวิดพร้อมเอ่ยว่า
ดีจังเลยได้พบพี่โต แพรมีเรื่องจะรบกวนอยู่พอดี
ได้สิ
แล้วทิ้งคุณธนพัทธ์ไว้อย่างนั้นจะดีหรือ แพร
ช่างเขาเถอะค่ะ นายคนนั้นเขาชอบมายุ่งวุ่นวายกับแพร รำคาญจะแย่ ว่าพลางกอดกระชับแขนที่เกาะเกี่ยวไว้อย่างสนิทสนม แล้วลอบชำเลืองมองไปยังธนพัทธ์ที่ยืนกอดอกนิ่งๆมองมาทางเธอ ก่อนยื่นหน้าเข้าไปใกล้ภูมิรพีจนริมฝีปากบางห่างกับแก้มเขาเพียงนิดเดียว
แพรว่าไปหาร้านเงียบๆคุยกันดีกว่า ชายหนุ่มเพียงแต่พยักหน้าน้อยๆ ในใจนั้นอดคิดไม่ได้ว่า แพรวาทำตัวใกล้ชิดเขามากเกินไป
จนให้สังหรณ์ใจว่าอาจเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นในไม่ช้านี้.
หลังจากมองดูทั้งสองคนเดินคลอเคลียกันจนลับตาแล้ว ธนพัทธ์ยังคงยืนนิ่งอยู่เช่นเดิม คิ้วเข้มขมวดมุ่นแต่เพียงครู่เดียวก็คลายออกพร้อมกับยักไหล่เล็กน้อย
สองคนนั่นจะสนิทสนมกันไปถึงขั้นไหนก็ไม่เกี่ยวกับเรานี่หว่า จะสนใจทำไมวะ
คนที่ต้องร้อนใจต้องเป็นนายธันสิ
ชายหนุ่มส่ายหน้าช้าๆก่อนสาวเท้ากลับไปยังห้องพักของตัวเอง ระหว่างทางนั้นเองเขาเห็นธันวาเดินไปเดินมาพร้อมกับสอดส่ายสายตาหาใครบางคน
นายธันเอ๋ย
คุณแพรของนายน่ะไปคลอเคลียอยู่กับคนอื่นเสียแล้ว แถมเป็นคนดังเสียด้วยสิ
กำลังตามหาคุณแพรของนายอยู่เหรอ ธนพัทธ์ตะโกนถาม
ใช่ครับ ผมไปตามที่ห้องเมื่อกี้ก็ไม่อยู่ กะจะชวนไปชมพระอาทิตย์ตกดินเสียหน่อย หายไปไหนก็ไม่รู้
ธันวาบ่นพึมพำเบาๆ
"เมื่อกี้เห็นเดินเล่นริมหาดกับหนุ่มนักการเมืองอยู่ทางด้านโน้นน่ะ คุยกันเสียสนิทสนมอย่างกับคู่รัก นายลองตามไปดูแล้วกัน พรุ่งนี้อย่าลืมเข้าประชุมล่ะ" ธนพัทธ์กำชับเสียงเข้มแล้วเดินจากไปทิ้งให้ธันวาจมกับความคิดอยู่เพียงคนเดียว เพียงครู่เดียงเท้าทั้งสองก็พาเจ้าของเดินมาตามทางที่พี่ชายบอกไว้พลางสอดส่ายสายตามองหาคู่หมั้นของตนด้วยความรู้สึกร้อนรุ่มเนื่องด้วยระแวงว่าแพรวาจะไปสนิทสนมกับชายอื่น
เพียงครู่เดียวเขาก็เห็นร่างบางที่คุ้นตายืนคุยกับชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาที่มองเพียงแวบเดียวเขาก็รู้ว่าเป็นใคร เนื่องด้วยชายคนนั้นเป็นนักการเมืองชื่อดัง แค่เห็นภาพความสนิทสนมของทั้งสองก็ทำให้เขาแทบคลั่ง ชายหนุ่มเพิ่งตระหนักได้ว่ายามที่เห็นคนรักสนิทสนมกับคนอื่นเป็นพิเศษนั้นสร้างความร้าวรานใจให้เพียงใด เขามุ่งตรงไปหาทั้งสองอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าบึ้งตึง
"แพร...ผมตามหาคุณตั้งนาน มาอยู่ที่นี่เองหรือครับ"
"อ้าว...คุณธัน ขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอกก่อนว่าแพรมาเดินเล่น พอดีแพรเจอเพื่อนเก่าน่ะค่ะ คุณธันคงรู้จักแล้ว" แพรวายังไม่วายกอดแขนภูมิรพีอย่างสนิทสนมพลางส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้เขา โดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจเพียงใด
"รู้จักสิครับ นักการเมืองหนุ่มชื่อดัง เป็นที่หมายปองของสาวๆอย่างคุณภูมิรพี ใครๆก็ต้องรู้จัก" ธันวาสบตาภูมิรพีตรงๆ ดวงตาฉายชัดถึงความไม่พอใจ
"คุณธันวาใช่ไหมครับ" ภูมิรพียิ้มให้ธันวาอย่างพยามยามให้สดใสที่สุด ทั้งๆที่ตอนนี้เขาแทบปวดหัวกับเรื่องที่แพรวาขอให้เขาช่วย ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาไม่ถนัดเลยซักนิด
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ เมื่อกี้แพรเขาเล่าเรื่องคุณให้ผมฟังเยอะเลยครับ" ชายหนุ่มหยุดนิ่งไปชั่วครู่พลางชำเลืองไปยังหญิงสาวข้างตัวที่บัดนี้กำลังขยิบตาส่งสัญญาณให้เขาพูดต่อ เอาวะ...ถือว่าช่วยน้อง เล่นละครเสียหน่อยจะเป็นไรไป...
"แพรบอกว่าคุณเป็นเพื่อนสนิทที่สุดในตอนนี้น่ะครับ" คำว่า 'เพื่อน' นั้นทำให้ธันวาหน้าเสียเล็กน้อยแต่ยังคงไม่รอดพ้นจากสายตาแพรวาไปได้ เธอจึงลอบยิ้มอย่างสมใจแล้วกระตุกแขนชายหนุ่มข้างๆให้แสดงละครต่ออีกครั้ง
"อันที่จริงเมื่อก่อน ผมกับแพรสนิทกันมาก พอโตขึ้นเราก็แยกย้ายกันไปเรียน ไปทำงาน เลยห่างๆกันไป วันนี้โชคดีมากเลยนะจ๊ะที่ได้มาพบแพรที่นี่" ประโยคสุดท้ายเขาหันมาพูดกับแพรวาอย่างอ่อนโยน
"แพรก็ดีใจค่ะที่พบพี่โตที่นี่ รู้ไหมคะว่าแพรคิดถึงพี่โตทุกวัน คอยแต่ภาวนาว่าเมื่อไหร่พี่โตจะว่างมาพบแพรสักที" แพรวาจงใจเน้นเสียงให้อ่อนหวานยิ่งกว่ายามอยู่กับธันวา และก็ได้ผลเมื่อเธอรู้สึกถึงความโกรธ ความหึงหวง ในแววตาของเขา ดี!...ให้รู้สึกซะบ้างว่ายามที่ถูกคนที่รักหักหลังมันเป็นยังไง...
"ครั้งนี้ก็ถือเป็นการมาเที่ยวของเราสองคนเลยสิจ๊ะ วันนี้เราไปหาร้านอาหารโรแมนติกๆทานข้าวกันสองคนดีไหมครับ"
"ด้วยความยินดีอย่างที่สุดค่ะ คุณธันคะ แพรขอตัวก่อนนะคะ.." แพรวาหันมาพูดกับธันวาแล้วจูงมือภูมิรพีเดินจากไป ปล่อยให้เขามองตามด้วยความรู้สึกหลายหลาย ทั้งโมโห ทั้งหึงหวง รวมทั้งกังวลอยู่ในใจลึกๆ ด้วยรับรู้ได้ว่าแพรวากำลังเปลี่ยนใจจากเขาเป็นผู้ชายคนนั้น เขาได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าทั้งสองคนแค่สนิทสนมกันเท่านั้น แพรวาไม่มีทางบอกเลิกเขาเป็นแน่ ในเมื่อตลอกเวลาที่คบกันมาเธอแสดงออกอย่างชัดแจ้งว่ารักเขาต้องการเขามากมายนัก...แล้วจะมาเปลี่ยนใจง่ายๆอย่างนี้ได้อย่างไร...ชายหนุ่มได้แต่หวังว่าสิ่งที่เขาสังหรณ์ใจจะไม่เป็นความจริง
เช้าวันที่สองบนเกาะเสม็ด เริ่มต้นด้วยการประชุมฝ่ายต่างๆของบริษัท ซึ่งกว่าจะได้ข้อสรุปที่ลงตัวก็เป็นเวลากว่าห้าโมงเย็น ธนพัทธ์จึงให้ผู้เข้าประชุมทุกคนได้พักผ่อนแล้วจัดงานเลี้ยงเล็กๆในตอนเย็นไว้ให้ ส่วนวันพรุ่งนี้นั้นก็ให้พักผ่อนกันในตอนเช้า ส่วนตอนบ่ายต้องเดินทางกลับกรุงเทพตามกำหนดเวลา หลังจากพักผ่อนกันเรียบร้อยแล้ว เย็นวันนั้นจึงมีปาร์ตี้เล็กๆบนชายหาดขึ้น ทุกคนต่างสนุกสนานยกเว้นเพียง ธันวาและธนพัทธ์ที่ทำหน้าบูดบึ้งตลอดงาน ธันวาเอาแต่ดื่มเหล้าพร้อมกับมองไปยังแพรวาที่ชวนภูมิรพีมางานด้วยแถมยังคุยกันอย่างสนิทสนมจนคนในบริษัทต่างสงสัยนักหนาว่าตกลงแล้วแพรวาเป็นแฟนใครกันแน่ เมื่อเช้าเขายังได้ยินเสียงซุบซิบว่าแพรวาอยู่กับภูมิรพีทั้งคืนในห้องพัก...นั่นยิ่งทำให้เขาอารมณ์เสียหนักขึ้น ส่วนชายหนุ่มอีกคนที่หน้าตาบูดบึ้งไม่แพ้กันก็เอาแต่จ้องแพรวาและภูมิรพีด้วยสายตาแววตากรุ่นโกรธ ...ดูเถอะ...ขนาดมีคู่หมั้นอยู่แล้วยังสนิทสนมกับชายอื่นขนาดนี้! ไม่อายใครเขาบ้างหรือไงนะ... เขาชำเลืองมองไปยังน้องชายอย่างห่วงใย พลางทอดถอนใจบางเบา ...นายธันเอ๋ย จะ๔กผู้หญิงทิ้งครั้งแรกก็คราวนี้ล่ะวะ...
ภาพบาดตาบาดใจของแพรวาและภูมิรพีทำให้ธันวาทนไม่ไหวจนต้องลุกขึ้นช้าๆเดินโซซัดโซเซไปหาหญิงสาว พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
"ผมขอคุยด้วยหน่อยสิแพร" เสียงพูดคุยอย่างสนุกสนานหยุดชะงัก พร้อมกับที่แพรวาหันมามองด้วยสายตาห่างเหิน
"ได้สิคะ แพรว่าเราไปคุยทางโน้นดีกว่า" หญิงสาวเดินนำหน้าชายหนุ่มไปยังหลังโขดหินไกลสุดสายตา
"คุณธันมีอะไรจะพูดกับฉันหรือคะ" น้ำเสียงที่เอ่ยเรียบเสียจนผู้ที่เดินตามหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
"แพร...กำลังเปลี่ยนใจจากผมหรือ" คำถามตรงๆนั้นทำให้แพรวาโล่งอกที่ไม่ต้องเป็นฝ่ายพูดเข้าเรื่องเสียเอง หญิงสาวบรรจงถอดแหวนหมั้นออกช้าๆแล้วยื่นให้คนตรงหน้า
"ขอโทษจริงๆค่ะ คุณธัน แต่แพรได้พบกับคนที่เหมาะสมกว่าคุณแล้ว เอาแหวนคุณคืนไปเถอะค่ะ" เมื่อเห็นเขาไม่รับแหวนวงนั้น เธอจึงปล่อยมันร่วงลงบนพื้นทรายอย่างไม่สนใจไยดี
"ถ้าคุณไม่รับคืน ก็ทิ้งมันไปดีกว่านะคะ ฉันขอตัว" ร่างบางตั้งท่าเดินจากไปแต่กลับถูกมือแข็งแรงดึงไว้ ดวงหน้าที่เคยหล่อเหลาบัดนี้กลับเหยเกด้วยความผิดหวัง
"ทำไม...ทำไมคุณถึงทิ้งผมไปล่ะแพร คุณไม่รู้หรือว่าผมรักดคุณแค่ไหน" น้ำเสียงดูแห้งโหยอย่างยิ่งจนคนฟังเผลอยิ้มออกมาอย่างสะใจ
"รักน่ะหรือคะ... ที่จริงที่ฉันคบกับคุณไม่ใช่เพราะรักหรอกนะ แต่ฉันก็แค่เห็นคุณรวย หล่อ ก็เท่านั้น มันก็เหมือนกับที่คุณเห็นผู้หญิงสวยๆแล้วต้องทำทุกทางให้ได้เธอมา แล้วก็ทิ้งอย่างไม่ไยดีนั่นแหละ" หญิงสาวเอ่ยเสียงกร้าว ดวงตากลมโตจ้องมองคนตรงหน้าแน่วนิ่ง น้ำตาเอ่อท้นออกมาปริ่มๆ
"ทีนี้คุณรู้หรือยังล่ะ ว่าผู้หญิงที่เขารู้สึกถูกหักหลังมันเป็นยังไง ขอให้เราจากกันด้วยดีนะคะ สุดท้ายที่ฉันอยากจะพูดก็คือ ฉันเห็นคุณเป็นแค่ของเล่นเท่านั้น!" พูดจบก็รีบเดินจากไป โดยไม่รอให้ธันวาทักท้วงได้ทัน ร่างสูงทรุดฮวบลงกับพื้นทราย ภาพนั้นทำให้ผู้ที่หลบอยู่ในมุมมืดหลังต้นไม้ไม่ไกลจากโขดหินนั้นนักมองมาด้วยความเห็นใจ และโกรธแค้นแทน สายตาคมกริบตวัดมองร่างบางที่เดินจากไปอย่างโมโห ...เห็นเป็นแค่ของเล่นงั้นหรือ! ผู้หญิงแบบนี้ไม่เหมาะกับนักการเมืองหนุ่มแสนดีคนนั้นหรอก แพรวา!...
จากคุณ :
พราวตะวัน
- [
20 ส.ค. 48 16:06:51
]