ความคิดเห็นที่ 99
สวัสดีครับคุณคัมภีร์โบราณ
จาก 'ตำนานฉันทลักษณ์กับหลักการใหม่' ของ 'คมทวน คันธนู' กล่าวถึงเรื่อง 'ละลอกทับ ละลอกฉลอง' เอาไว้ว่า
'..ละลอกทับ ละลอกฉลอง คือการลงท้ายวรรคด้วยเสียง ซึ่งมีรูปวรรณยุกต์กำกับ เช่น
มีรักพร้อมย่อมอยู่เป็นคู่ยาก ถึงอดอยากทุกข์ย่ำขยำขยี้ รักพรายฉายพรายช่องนำร่องชี้ อัญมณีอำนรรฆคือรักนั้น
คำว่า 'ขยี้' ก็ดี 'ชี้' ก็ตามท่านเรียกว่า 'ละลอกฉลอง' คำ ว่า 'นั้น' ท่านปองเรียกว่า 'ละลอกทับ'..'
เมื่อนำมาประกอบกับที่คุณคัมภีร์แจ้งไว้
'..ขอทบทวนข้อบังคับในการเขียนอีกครั้ง เผื่อใครจะอยาก ลองเขียนดู
ข้อบังคับอยู่ที่คำท้ายวรรค ๒, ๓ และ ๔ ของแต่ละบท ต้องใช้คำตายตลอด, วรรค ๒ ใช้ได้ ๒ เสียง เอก กับ โท (ควรใช้เอกเพราะรับกับตรีดีกว่า), วรรค ๓ และ ๔ ต้องลงด้วยเสียงตรีเท่านั้น..'
ผมทดลองเขียนทั้ง ๒ แบบ พิจารณาดูเห็นว่าเป็นได้ทั้ง สองอย่าง ผันเสียงวรรณยุกต์ลงกันพอดี ไม่น่าจำกัด 'ต้อง' เป็น 'คำตาย' เท่านั้น
เงินเดือนออกกลอกตาใบหน้าซีด ถูกเหล้ารีดเป็นลมจนผมร่วง ซบน้องรักนักร้องหาช่องล้วง กระเป๋ากลวงได้กำดันของเก๊
ดูรายจ่ายหลายจุดหงุดหงิดจับ เงินเป็นตับหลุดต้องอยากฮ่องเต้ ก้มดูตีนจีนเตี๊ยะคงเจี๊ยะเต๊ ปากโว้เว้วายวอดจอดแล้วโว๊ย
นึกถึงไข่ไข้ขึ้นกลืนไม่เข้า เรียงเต็มเบ้าอยากบ้าส่ายหน้าโบ้ย ขย้อนออกปากอ้วนไข่กวนโอ๊ย ครั้นเห็นโพยเงินพร่องร้องเหมือนแพะ
ไข่ก็ไข่ไข้ขึ้นฝืนคงเข้า เรื่องนี้เก๋าต้มการชำนาญแกะ ตั้งหม้อข้าวหย่อนไข่สุกไล่แคะ เอาช้อนแงะหงอยหงอยต่อยเปลือกงัด
คิดถึงเหล้านักร้องเคยคล้องไหล่ แต่พอไข่วาบเข้าเลยเบาขัด ยกมือไหว้ร้องว่าอยากหาวัด เอาใจทัดกรรมฐานให้ผ่านทุกข์/.
ท้ายวรรคที่ ๒ - ร่วง, เต้, โบ้ย, แกะ, ขัด เสียงเอกและโท ท้ายวรรคที่ ๓ - ล้วง, เต๊, โอ๊ย, แคะ, วัด เสียงตรี ท้ายวรรคที่ ๔ - เก๊, โว๊ย, แพะ, งัด, ทุกข์ เสียงตรี
จากคุณ :
ราม ลิขิต
- [
29 ส.ค. 48 01:22:24
]
|
|
|