CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    Soul of Universe: The Prince of Carina ตอนที่ 2

    Soul of Universe: The Prince of Carina
    Chapter 2: Nice to Meet You 1 [Black Cat]

    เสียงเคาะประตูถี่ๆดังขึ้น เซเฟย์รีบผละจากงานในครัวแทบจะในทันที ต้องเป็นไซเฟอร์แน่ๆ...เธอคิดในใจ ด้วยความเป็นห่วงน้องชาย ร่างบางของหญิงสาววิ่งถลาเข้าไปเปิดประตู

    “…ไซ...เฟอร์...”

    แต่ผู้ที่อยู่ด้านหลังบานประตูไม่ใช่ผู้ที่เธอต้องการจะพบ กลับกลายเป็นผู้ที่เธอไม่อยากจะพบเจอมากที่สุด ความทรงจำที่เลวร้ายและเจ็บปวดไหลเวียนเข้ามาในหัวของเธอ เรื่องราวที่เธอสมควรจะฝังมันทิ้งไปกับตัวตนที่แท้จริงของเธอไปตั้งแต่เมื่อสิบหกปีก่อน

    “…ทะ...ท่าน...” ริมฝีปากซีดขาวของเธอสั่นระริกไม่เพียงแต่ริมฝีปากร่างทั้งร่างของเธอสั่นสะท้านเนื่องจากความตื่นตระหนกและความหวาดกลัว เธอไม่อาจขยับเขยื้อนไปไหนได้ ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ยืนเป็นเป้านิ่งให้นัยน์ตาสีเทาอ่อนคู่นั้นจับจ้อง “ทะ...ทำไม...ถึงเป็นท่าน...โครว์”

    ไซเฟอร์!!!!

    คนคนเดียวที่เธอคิดถึงในตอนนี้ คนคนเดียวที่มีค่าสำหรับเธอมากกว่าชีวิตของตนเอง เธอคงไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าเขาอีกแล้ว....

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    “มีอะไรเหรอครับ อาจารย์เกรย์”

    รูเซียเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของเจ้าแมวดำเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ฉับพลันราวกับว่ามีพลังประหลาดแทรกเข้ามาในโสตประสาทการรับรู้ เจ้าแมวดำตวัดสายตาของมันมามองที่รูเซีย

    “เจ้าไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ” คำพูดนั้นทำเอาชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนสะดุ้งลุกขึ้นจากที่นั่ง

    “คลื่นพลังแบบนี้มัน...ทำไมถึงเพิ่งมารู้สึกเอาตอนนี้...”

    “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” เจ้าแมวดำกระโจนลงจากที่นั่ง “เจ้าเด็กบ้านั่น ไปถึงตัวหมู่บ้านรึยังนะ”

    “อาจารย์ หรือว่าเป็นเพราะเด็กคนนั้น เราถึงได้ไม่รู้สึกถึงคลื่นพลังนี้” รูเซียถามอย่างเร่งรีบ

    “เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน” เจ้าแมวดำตอบกลับอย่างเด็ดขาด “ตอนนี้ต้องรีบเข้าไปในตัวหมู่บ้านก่อน”

    “ข้าจะไปเอารถมา”

    เจ้าแมวสีดำค่อยๆปิดเปลือกตาลงช้าๆเมื่อร่างของรูเซียหายออกไปจากห้องนั้นแล้ว ‘...หรือจะเป็นเพราะเด็กคนนั้น...’ คำพูดเมื่อครู่ของรูเซียผ่านเข้ามาในความคิด ไม่มีคนธรรมดาคนไหนสามารถมองเห็นภูตส่งสารของเหล่านักบวชคริสเตียนครูเสดได้ มันคิดในใจ เด็กนั่นไม่มีกลิ่นของผู้ใช้เวท แต่สามารถมองเห็นภูตส่งสารได้ หรือว่าจะมีใครบางคนจงใจกางอาณาเขตขึ้นรอบตัวเด็กนั่น เพื่อไม่ให้ผู้ใช้เวทสัมผัสได้ถึงพลังเวทของเขา และอาณาเขตนั่นส่งผลกระทบมาถึงประสาทรับรู้ของพวกเราด้วย ทำให้พวกเรารู้ถึงพลังเวทของผู้ที่ผ่านแรงโน้มถ่วงของไลอาเข้ามาได้ช้าลง

    “ข้ากลัวว่าคำตอบมันจะเป็นอย่างนั้นซะแล้วล่ะ รูเซีย” เจ้าแมวดำเอ่ยกับตัวเองเบาๆ “ไซเฟอร์ วินเนเชอร์ งั้นเหรอ”

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ตลอดช่วงชีวิตที่เกิดมาเป็นเวลาสิบหกปีของไซเฟอร์ เขาไม่เคยรู้จักสงคราม ไม่รู้จักการฆ่า ไม่รู้จักการถูกฆ่า เขาเกิดในดาวที่สงบสุข ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข และอยากให้มันเป็นอย่างนั้นตราบนานเท่านาน

    แต่ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขาตอนนี้คืออะไร

    ทุ่งหญ้าที่เคยเขียวขจีตอนนี้ถูกไฟเผาซะจนไหม้เป็นสีดำ ขี้เถ้าสีดำปลิวคละคลุ้งไปทั่วในอากาศ บ้านเรือนที่เคยตั้งตระหง่านเป็นที่อยู่ของผู้คนตอนนี้เป็นเพียงแค่ตอไหม้หลังจากการถูกเผาแล้วเท่านั้น ไซเฟอร์เกือบจะอาเจียนออกมาเมื่อเห็นซากร่างไร้วิญญาณของผู้คนในหมู่บ้านที่นอนอยู่เกลื่อนทุ่งหญ้าที่ยังมีเปลวไฟปะทุขึ้นมาเป็นแถบๆ

    นี่มันเกิดอะไนขึ้น!!!!!

    ไซเฟอร์แทบอยากจะคิดว่าสิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าตนเองตอนนี้เป็นเพียงแค่ความฝัน เขาอยากจะตื่นแล้วออกไปจากความฝันนี้ แต่เขาไม่รู้วิธีที่จะทำให้ตัวเองตื่น

    พี่เซเฟย์!!!!!!

    ไซเฟอร์รีบวิ่งไปที่บ้านของตนเองอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ขาทั้งสองข้างของเขาจะวิ่งไปได้ เด็กหนุ่มวิ่งตัดผ่านทุ่งหญ้าที่ตอนนี้ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นทุ่งหญ้าได้อีกแล้ว มาถึงหน้าบ้านของตนเอง ประตูบ้านถูกเปิดค้างไว้ ไม่มีร่องรอยของการงัดประตูหรือการบุกรุก อาจเป็นบ้านหลังเดียวที่ปลอดภัยจากการถูกเผาก็ได้ แต่ว่า...คนในบ้านล่ะ

    “พี่เซเฟย์” ไซเฟอร์ค่อยๆก้าวเข้าไปในบ้าน

    “พี่เซเฟย์!!!” ไซเฟอร์ตะโกนก้องไปทั่วบ้าน แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมาเหมือนเช่นทุกที

    ภายในบ้านยังคงเป็นเหมือนเดิม เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในบ้านยังวางอยู่ที่เดิม ไม่มีรอยแตกหัก ไม่มีร่องรอยของความเสียหาย เหมือนกับว่าเธอหายตัวไปเฉยๆ

    สายลมอ่อนๆพัดผ่านเข้ามาภายในบ้านทางประตูที่ถูกเปิดทิ้งไว้ สัมผัสจากสายลมที่กระทบถูกตัวเด็กหนุ่มที่ยืนอย่างเงียบงันอยู่เพียงลำพัง ช่างหดหู่และเหยียบเย็นเหมือนกับความรู้สึกในใจของผู้ที่สูญเสีย

    เด็กหนุ่มค่อยๆทรุดตัวลงนั่งบนโต๊ะ โต๊ะที่เขาและพี่เซเฟย์ใช้เป็นที่นั่งทางข้าวด้วยกันทุกวัน เขาเอาหน้าซบลงกับฝ่ามือพยายามข่มกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา...เธอไม่อยู่แล้ว...ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย...ปกป้องไม่ได้....เขามาสามารถปกป้องเธอได้....

    คล้ายๆกับมีอะไรบางอย่างมาดลใจ ไซเฟอร์เงยหน้าขึ้นจากฝ่ามือ นัยน์ตายังคลอไปด้วยน้ำตา เขาเหลือบไปเห็นหนังสือเล่มหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ เป็นหนังสือที่พี่เซเฟย์อ่านเป็นประจำ เขาหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาดู แล้วเปิดมันแบบผ่าน แล้วพบว่ามีจดหมายเก่าๆฉบับหนึ่งแนบอยู่ด้วย จดหมายฉบับนั้นจ่าหน้าซองถึงเขา เป็นลายมือของพี่เซเฟย์ ไซเฟอร์ไม่รอช้ารีบแกะเปิดจดหมายนั้นออกอ่านทันที



    ถึง ไซเฟอร์ น้องรัก



    ถ้าเจ้ามีโอกาสได้อ่านจดหมายฉบับนี้ นั่นคงเป็นเวลาที่ข้าไม่ได้อยู่ข้างกายเจ้าอีกต่อไปแล้ว ข้ามีความจริงบางอย่างที่จำเป็นต้องบอกเจ้า เนื่องเพราะข้าไม่สามารถปล่อยให้ความจริงนี้สาบสูญไปพร้อมกับตัวข้าได้

    ความจริงนั่นคือ เจ้ากับข้าไม่ใช่พี่น้องกัน และไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันทางสายเลือดเลยแม้แต่น้อย พ่อแม่ของเจ้าฝากเจ้าไว้กับข้าก่อนที่ชีวิตของพวกเขาจะหาไม่ ข้าสัญญากับทั้งสองว่า ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ต้องให้เจ้ามีชีวิตรอด ข้าไม่สามารถเล่าเรื่องราวทั้งหมดลงในจดหมายฉบับนี้ได้ มันอันตรายเกินไป ถ้าเจ้าอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเจ้าเอง ว่าตัวเจ้าเป็นใคร ถ้าเจ้าต้องการรู้เรื่องราวมากกว่านี้ ก็จงไปที่ เรซีออนซะ ที่นั่นเจ้าจะสามารถหาคำตอบได้ทุกอย่าง แต่ถ้าไม่ต้องการรู้ก็จงออกจากไลอาแล้วหาที่หลบซ่อนตัวซะ และที่สำคัญหาให้ใครรู้ว่าเจ้ารู้จักข้า ไม่ว่าคนคนนั้นจะน่าไว้ใจขนาดไหนก็ตาม

    หลังจากที่เจ้าอ่านจดหมายฉบับนี้จบแล้ว ขอให้เผาจดหมายฉบับนี้ทิ้งไปซะ ไซเฟอร์น้องรัก ถึงแม้ว่าข้ากับเจ้าจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันทางสายเลือด แต่ข้าก็รักเจ้าเหมือนน้องชายแท้ๆ




    รัก    
    พี่เซเฟย์ของเจ้า




    ...นี่มันอะไรกัน...

    คำถามมากมายผุดขึ้นมาในความคิดของเด็กหนุ่ม เขาเพิ่งสูญเสียคนในครอบครัวเพียงคนเดียวไป เขาไม่รู้ว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่รึเปล่า แล้วจู่ๆก็มาเจอจดหมายที่เขียนบอกเอาไว้ว่าพี่เซเฟย์กับเขาไม่ใช่พี่น้องกัน แล้วยังบอกให้เขาเก็บซ่อนตัวอีก พี่เซเฟย์ต้องการจะบอกอะไรเขากันแน่ ข้อความในจดหมายนั่นพี่เซเฟย์เป็นคนเขียนจริงๆรึเปล่า แล้วตอนนี้พี่เซเฟย์อยู่ที่ไหน ยังมีชีวิตอยู่...หรือว่า...ตายแล้ว...

    ยังมีชีวิตอยู่....

    อยากจะคิดแบบนั้น แต่มันก็ยากเหลือเกิน

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    “ราบเป็นหน้ากลอง”

    รูเซียพูดขึ้นเมื่อเห็นสภาพหมู่บ้านที่เมื่อสองวันก่อนยังเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่สวยงามน่าอยู่ ในสมัยที่จักรวรรดิเป็นใหญ่เช่นนี้ หมู่บ้านเล็กๆที่ถูกพวกมันเผาทำลายในช่วงเวลาไม่ถึงวันหาดูได้ถมไป ช่างเป็นการปกครองที่ทารุณ ใครขัดขืนก็กำจัดซะ

    เจ้าแมวดำกระโดดลงจากไหลของรูเซีย มันกวาดตามองรอบๆทุ่งหญ้าที่ถูกเผาจนเกรียมไหม้เป็นขี้เถ้าสีดำ  ทิวทัศน์ที่คุ้นเคย เมื่อครั้งสงครามระหว่างเหล่านักบวชคริสเตียนครูเสดและเหล่าผู้นำเผด็จการของจักรวรรดิปะทุขึ้น หมู่บ้านเล็กๆไร้ทางสู้แบบนี้ถูกเผาไม่มีเหลือ สุดท้ายสงครามก็จบลงที่ความพ่ายแพ้ของนักบวชคริสเตียนครูเสด

    “ถ้าพวกเรามาเร็วกว่านี้ล่ะก็...” รูเซียพูดขึ้นอีก

    “เจ้าคิดว่าถ้ามาถึงเร็วกว่านี้ เจ้าจะช่วยพวกนี้ได้ยังงั้นเหรอ” เจ้าแมวดำพูดแทรกขึ้นมา “เจ้าคิดว่าพวกเราในตอนนี้มีปัญญาช่วยใครได้งั้นเหรอ ขนาดตัวเองยังจะเอาไม่รอดเลย”

    “ช่างเถอะ” เจ้าแมวดำพูดขึ้นอีกเมื่อเห็นในหน้าของรูเซียเศร้าลงไปเพราะคำพูดของตน “รีบตามหาเจ้าเด็กนั่นกันเถอะ อย่งน้อยเจ้าก็น่าจะช่วยเจ้าเด็กนั่นได้” พูดจบก็เดินนำหน้ารูเซียไป

    “ครับ” รูเซียรับคำ “แต่อาจารย์เกรย์ อะไรที่ทำให้กองลาดตระเวนของจักรวรรดิยอมล่าถอยไป ปกติแล้วพวกมันจะไม่ยอมถอยไปถ้าไม่ได้ของที่ตามหากลับไปด้วย ถ้าของที่มันต้องการคืออาร์เคีย แต่อาร์เคียก็ยังอยู่กับเรา”

    “ไม่รู้สิ พวกมันคงได้อะไรกลับไปแทนแล้วมั้ง” เจ้าแมวดำหันมาตอบชายหนุ่ม

    “แต่อาจารย์ คนที่นำทัพมาคือ...” จู่ๆรูเซียก็หยุดพูด สายตาจับจ้องอยู่ที่เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหน้าทั้งสอง เจ้าแมวดำหันกลับไป สีหน้าของเด็กหนุ่มก็ดูแปลกใจไม่น้อยไปกว่าทั้งสอง

    “ไซเฟอร์...”

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ชาที่เพิ่งชงเสร็จใหม่ๆถูกวางเอาไว้ตรงหน้าของไซเฟอร์ ไอน้ำอุ่นที่ระเหยออกมาจากถ้วยชาทำให้เขารู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย หลังจากที่ได้เห็นสภาพของหมู่บ้านที่ตนเองเติบโตมา พร้อมกับการหายตัวไป (ไซเฟอร์อยากคิดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่) ของพี่เซเฟย์ เขายกชาขึ้นจิบนิดนึงก่อนจะวางมันลงตามเดิม ความร้อนของชาทำให้เขารู้สึกว่าตัวไปได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ถูกแช่เย็นให้จมอยู่กับภาพของหมู่บ้านที่ถูกทำลายในชั่วพริบตากับการหายตัวไปของพี่เซเฟย์

    แต่...ไม่คิดเลยว่าเขาจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้งในเวลารวดเร็วเช่นนี้...

    ในที่สุดไซเฟอร์ก็เงยหน้าขึ้น ตาของเขาสบกับนัยน์สีน้ำตาลอ่อนของรูเซียพอดี “นี่เป็น...ฝีมือของพวกจักรวรรดิ...อย่างนั้นเหรอครับ” คำถามแรกหลุดออกมาจากปากของไซเฟอร์ “เพราะต้องการได้...เจ้าภูตตัวนั้น...”

    “อืม...” รูเซียตอบกลับ สีหน้าเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก

    “ข้าก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน เรื่องความร้ายกาจของจักรวรรดิ แต่ไม่คิดว่ามัน...” เสียงของเด็กหนุ่มขาดห้วงไป “คุณ...รูเซีย...จำได้รึเปล่า ที่เคยขอให้ข้าช่วยน่ะ ตอนนี้ข้าพร้อมที่จะช่วยแล้วนะ”

    “เจ้าอยากช่วยพวกเราจากใจจริง หริอเจ้าอยากช่วยพวกเราเพราะไม่มีที่ไปกันแน่” เจ้าแมวดำพูดแทรกขึ้นมา นัยน์ตาสองข้างที่สีไม่เหมือนกันของมันจ้องเขม็งอยู่ที่ไซเฟอร์

    จากคุณ : อากิโตะ - [ 21 ส.ค. 48 13:49:29 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป