งานติดตั้งบู๊ธดำเนินไป พร้อม ๆ กับที่ญาณิสานำวัสดุตกแต่งต่าง ๆ มาติดตั้งในส่วนที่สามารถทำได้ เวลาผ่านไปเท่าไหร่ หญิงสาวก็ไม่ทันได้สังเกตเพราะอยู่ในตัว อาคารที่เปิดไฟสว่าง จนกระทั่งนึกขึ้นได้และยกนาฬิกาขึ้นมาดู ก็พบว่าเวลาผ่านไปเกือบจะสองทุ่มแล้ว
หัวหน้าคนงานออกไปซื้ออาหารกล่องมาให้คนงานซึ่งไม่ยอมกินอาหารในศูนย์อาหารเพราะเห็นว่าราคาแพงกว่าออกเงินซื้ออาหารกล่องกันเอง ประหยัดเงินค่าเบี้ยเลี้ยงได้ คนงานพากันนั่งพักกินอาหารกล่อง หัวหน้าคนงานซึ่งอายุราวสี่สิบปีเดินเข้ามาถามไถ่อย่างเป็นมิตร
คุณสา ยังไม่หิวข้าวเหรอครับ นี่ใกล้สองทุ่มแล้ว
ก็เริ่มหิวแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวสาขอไปทานข้าวก่อนนะคะลุง
หญิงสาววางมือจากการจัดผ้าม่านให้เป็นจีบ ๆ บนหน้าต่างบานสุดท้ายของบู๊ธ
อีกนานไหมคะ กว่าจะเรียบร้อย
ก็คงจะราว ๆ สามชั่วโมงครับ เสร็จแล้วก็คงเอาเฟอร์นิเจอร์ลงได้เลย
ญาณิสาคำนวณเวลาในใจ เพราะกว่าเฟอร์นิเจอร์จะถูกนำมาประกอบวางและหล่อนจะได้ตกแต่ง ก็คงใกล้เที่ยงคืน
ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวช่วยลงพวกเตียงก่อนเลยได้ไหมค่ะ สาจะได้ปูเตียงได้ อย่างอื่นคงใช้เวลาไม่นาน สาต้องขับรถกลับเอง ไม่อยากกลับดึกมากน่ะค่ะลุง
ได้ครับคุณสา ผมก็กะว่าจะอย่างนั้นเหมือนกัน งานหนนี้เขาให้เวลาจัดบู๊ธน้อยเหลือเกิน เพราะงานมันติด ๆ กันหลายงาน ไม่อย่างนั้น คุณสาคงไม่ต้องอยู่ดึกดื่น
ไม่เป็นไรค่ะ สาไปแล้วนะคะ แล้วจะรีบกลับมาค่ะ
ญาณิสาเดินผ่านบรรดาบู๊ธบริษัทต่าง ๆ พิจารณาดูบู๊ธของหลาย ๆ บริษัทที่เรียบง่าย แค่จัดบู๊ธสำเร็จรูปแล้วเอาของมาวาง ซึ่งบรรดาบริษัทแบบนี้ พนักงานใช้เวลาจัดไม่นานนัก และพากันกลับหมดแล้วโดยขึงเชือกกั้นเอาไว้ เพื่อแสดงอาณาเขตมากกว่าจะป้องกันการลักขโมย เพราะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยคอยดูแลอยู่แล้ว
จากการสังเกตของญาณิสาพบว่ามีอีกหลายบริษัทที่ใช้การทำบู๊ธขึ้นมาใหม่เหมือนกับวราพงษ์ คนงานกำลังขมักเขม่นทำงานกันอย่างหนักเพื่อแข่งกับเวลา กำลังเดินอยู่เพลิน ๆ ก็รู้สึกคล้ายมีใครคนหนึ่งวิ่งตามหล่อนมาเบื้องหลัง หญิงสาวยิ้มให้เมื่อเห็นผู้ที่วิ่งตามมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
นึกว่าจะได้ทันเสียแล้ว ผมรีบเคลียร์งานแล้วมาหาอะไรอร่อย ๆ ทาน
ที่นี่น่ะเหรอค่ะ
หญิงสาวทำเสียงเหมือนไม่เชื่อ ภัทรพยักหน้านิ่ง ๆ ไม่พูดอะไร ยืนรอจนหญิงสาวหมุนตัวกลับ จึงเดินตามไปข้าง ๆ
ผมแวะไปดูงานที่บู๊ธมาแล้ว คราวนี้รู้สึกว่าจะเร็วกว่าทุกครั้ง ปกติ ต้องข้ามวันเลยนะครับ คราวนี้เลยให้คุณโอมเขาออกแบบให้มันติดตั้งง่ายกว่าเดิม
ปกติสามาเดินงานแบบนี้บ่อยนะคะ เห็นแต่ว่าสวย ไม่คิดว่ากว่าจะทำออกมาเสร็จต้องเหนื่อยกันขนาดนี้
ผมสั่งให้ยายวิว ลดสเปคแล้วนะครับเนี่ย ปกติต้องทำกันนานกว่านี้ แล้วพอดี โครงสร้างครั้งนี้ดัดแปลงจากโครงของงานที่แล้ว เอามาทำสีใหม่ แล้วก็เพิ่มเติมบางส่วน ไม่อย่างนั้น มีเวลาสองวันก็ยังทำกันแทบไม่ทันเหมือนกัน
ญาณิสาเดินเคียงคู่ไปกับภัทรจนถึงศูนย์อาหารของศูนย์การประชุมที่เป็นสถานที่จัดงาน ชายหนุ่มเดินไปยังเคาน์เตอร์จำหน่ายคูปอง แลกคูปองอาหารมาจำนวนหนึ่ง แล้วส่งครึ่งหนึ่งในหญิงสาว
เดี๋ยวผมไปนั่งรอก่อนก็แล้วกันนะสา คุณไปเลือกอาหารก่อนนะ
หญิงสาวพยักหน้ารับ แล้วเดินผละจากชายหนุ่มไปยังร้านอาหารที่ตั้งติด ๆ กันอยู่หลายร้านซึ่งส่วนใหญ่นั้นราคาจำหน่ายสูงกว่าร้านค้าภายนอกกว่าเท่าตัว เดินเลือกอาหารสำหรับตัวเองได้แล้ว หญิงสาวก็เดินไปที่ร้านเครื่องดื่มแลกน้ำดื่มสองขวดแล้วเดินไปที่โต๊ะซึ่งภัทรนั่งรออยู่แล้ว
แรกที่เดินเข้ามาใกล้โต๊ะญาณิสารู้สึกถึงความเย็นของลมจากปล่องเหนือศีรษะ ก่อนที่ความรู้สึกเย็นนั้นจะเปลี่ยนมาเป็นความเย็นจากภายในร่างกาย ญาณิสาฝืนตัวเองจนกระทั่งสามารถวางถาดลงบนโต๊ะแล้วทรุดตัวลงนั่งได้ หญิงสาวสูดลมหายใจลึกเพื่อไม่ให้เกิดอาการวูบ หมดสติไปอีก
คุณภัทรไปเลือกอาหารสิคะ สาจะรอทานด้วย
หญิงสาวฝืนยิ้มให้ชายหนุ่ม ภัทรเองก็คงจะไม่รู้สึกถึงความผิดปกติอะไร จึงยิ้มตอบแล้วลุกขึ้นเดินผละไป ญาณิสามองตามชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะนึกเป็นห่วงในใจ
นี่จะเกิดอะไรขึ้นกับคุณภัทรรึเปล่านะ ทำไมเราถึงรู้สึกแปลกไปกว่าที่เคย สองครั้งติดกันแล้ว
ญาณิสาคิดได้แค่นั้นก็ต้องลดมือลงไปกุมที่หน้าท้อง ความรู้สึกจุกเจ็บราวกับถูกชกเกิดขึ้นชั่ววูบหนึ่ง เหมือนจะรุนแรงกว่าเมื่อสองวันก่อน หากหญิงสาวเตรียมพร้อมกับอาการผิดปกตินั้นแล้ว จึงกัดฟันทนได้ กลั้นใจสลัดความรู้สึกนั้นออกไป อดโมโหตัวเองไม่ได้ ที่เกิดมีญาณสัมผัสที่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ซ้ำยังไม่สามารถจะระบุได้ว่าแม่นยำแค่ไหน เพราะบางครั้งหญิงสาวก็ตีความไม่ถูกว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ แต่หญิงสาวก็สามารถที่จะควบคุมมันได้บ้างในกรณีที่มีสติเต็มที่และเตรียมพร้อมรับปฏิกิริยาของร่างกายที่เกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ
รอนานไหม
ชายหนุ่มถามก่อนจะยกอาหารจากถาดวางลงบนโต๊ะ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าหญิงสาว ญาณิสายิ้มให้ภัทร ความรู้สึกประหลาดนั้นบรรเทาลงมากแล้ว จึงไม่ได้แสดงอาการผิดปกติอะไรออกไป
ญาณิสานั่งคิดอะไรไปพลาง ๆ ระหว่างที่นั่งรับประทานอาหารกันเงียบ ๆ สองคน หญิงสาวนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหล่อน น้องสาว และภัทร อุบัติเหตุร้ายแรงที่ทำให้หญิงสาวต้องนอนนิ่งเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่นาน และตื่นขึ้นมาพร้อมกับญาณสัมผัสที่ยากจะบอกที่มา และสำหรับตัวหล่อนเองก็ไม่ได้เรียกร้องต้องการเลยแม้แต่น้อย
หากจะยึดถือว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ย่อมมีเหตุผลในตัวของมันเองแล้ว ญาณิสาก็บอกตัวเองได้ว่าหล่อนค้นมันไม่พบ
วันนี้เป็นอะไรรึเปล่า ดูคุณเหนื่อย ๆ
ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวนั่งนิ่งมาเป็นเวลานาน ไม่สนใจจะตักอาหารรับประทานอีก
ก็คงจะเหนื่อยจริง ๆ ค่ะ เหนื่อยมาก ๆ ก็พาลทำให้ทานอะไรไม่ค่อยลง
นี่เราใช้งานคุณหนักเกินไปรึเปล่าเนี่ย
ไม่หรอกค่ะ สาชอบนะคะ ได้ทำอะไรแบบนี้ สนุกกว่านั่งโต๊ะทำงานเสียอีก เปลี่ยนบรรยากาศ ดีออกค่ะ
หญิงสาวตอบยิ้ม ๆ ความอยากอาหารนั้นอยู่ ๆ ก็หดหายไปดื้อ ๆ ญาณิสาจึงรวบช้อน เปิดขวดน้ำดื่ม
ดีใจที่คุณชอบนะ แต่ผมไม่ค่อยอยากให้คุณทำงานดึก ๆ เท่าไหร่ มันอันตราย เป็นผู้หญิงเดินทางค่ำ ๆ มืด ๆ น่าเป็นห่วง
ไม่น่ากลัวหรอกค่ะ มีอะไรสาก็อยู่ในรถอยู่แล้ว คุณภัทรวางใจเถอะค่ะ ไม่น่าจะมีอะไร
ชายหนุ่มพยักหน้ารับคำ ไม่พูดอะไร แต่สีหน้ายังคงแสดงความวิตกกังวลให้เห็น ญาณิสาจึงเสชวนคุยเรื่องอื่น ๆ
ปกติคุณภัทรมาคุมงานเวลาเขามาติดตั้งบู๊ธทุกครั้งหรือคะ
ไม่ทุกครั้งหรอกครับ แต่ครั้งนี้ ผมอยากมาเป็นพิเศษ ว่าจะอยู่ดูแลจนกว่าจะเสร็จ คุณสาอย่ากลับดึกนักเลยครับ แต่งเท่าที่ทำได้ไปก่อน ถ้าอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ มาตกแต่งใหม่ต่อพรุ่งนี้ได้ก็เอาไว้ก่อนเถอะ
สาก็กะว่าจะทำอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ พวกที่แค่เอามาจัดวาง ๆ สาจะเก็บเอาไว้ทำตอนเช้า แล้วก็จัดดอกไม้ไปด้วย คิดว่าคงไม่เกะกะอะไรเท่าไหร่ นั่งจัดดอกไม้ไปด้วย น่าจะดีนะคะ ดึงความสนใจได้ด้วยส่วนนึง
งั้นเดี๋ยวผมอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกันนะ
หญิงสาวขยับจะค้าน แต่เมื่อเห็นสีหน้า แววตาจริงจังของภัทร ก็นิ่งเสีย พยักหน้ารับคำเบา ๆ แล้วนั่งเงียบ รอชายหนุ่มรับประทานอาหารจนอิ่ม จึงชักชวนให้กลับไปทำงาน
ไปกันเถอะค่ะ สาให้เขายกเฟอร์นิเจอร์พวกเตียงไม้ ลงแล้ว ขอตัวไปปูผ้า ตกแต่งเตียงก่อนนะคะ กลัวจะเสร็จดึก
จากคุณ :
Jason_Bourne
- [
27 ส.ค. 48 14:13:44
]