(ต่อจากตอนที่แล้ว)
แสงแดดอ่อนๆ ที่ส่องเข้ามาภายในห้องนอนของชายหนุ่ม พร้อมกับเสียงนกกระจิบนกกระจอกร้องจิ๊บจั๊บกันลั่นระงม บวกกับเสียงไก่ขันที่แข่งกันส่งเสียงเป็นสัญญาณแจ้งให้อาร์ตรู้ว่าตอนนี้เช้าแล้ว ชายหนุ่มเหลือบตาไปมองนาฬิกาที่หัวเตียง เจ็ดโมงกว่าๆ แล้วหรือ นี่เขาหลับไปกี่ชั่วโมงเอง เมื่อคืนนี้เขามัวแต่นั่งทำอะไรอยู่ถึงตีสามนะ ตัวเองเดินกลับเข้าห้องมาเมื่อไหร่ อาทิตย์เองก็แทบจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ นี่เขาอาการหนักถึงขนาดนี้เลยหรือนี่ นึกพลางก็ลุกขึ้นจากเตียง ขยับแข้งขยับขา บิดขี้เกียจไปมาสองสามที ก่อนที่จะพับผ้าแพรที่ใช้ห่มนอนแล้วจัดวางเข้าที่ จัดหมอนให้เข้าทางและดึงผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่จนเรียบร้อย แล้วจึงเดินออกจากห้องเพื่อไปล้างหน้าล้างตา
ป่านนี้หนูพิมพ์คงไปโรงเรียนแล้วสินะ อาร์ตคิดในใจเมื่อเสมองออกไปนอกหน้าต่างด้านที่มองเห็นตัวบ้านของเด็กสาวที่อยู่ข้างๆ บ้านเขานี่เอง แล้วเขาก็ต้องสะบัดศีรษะไล่ความคิดออกนั้นไป นี่เขาเป็นอะไรกันนี่ ทำไมต้องนึกถึงแต่เด็กสาวตัวเล็กคนนี้อยู่ตลอดเวลา โชคดีที่จำไม่ได้ว่าเมื่อคืนตอนหลับเขาฝันถึงเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นเขาคงจะอาการหนักถึงขนาดที่ว่า ยามหลับก็ฝันถึง ยามตื่นยังคะนึงหา เป็นแน่
อาร์ตตื่นแล้วหรือลูก เสียงคุณออมทองมารดาของชายหนุ่มทักขึ้น เมื่อเห็นอาร์ตกำลังเดินลงมาจากบันไดบ้าน ไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาไปลูก เดี๋ยวจะได้มากินข้าวพร้อมกัน แม่ของอาทิตย์ตื่นแต่เช้าเสมอ เพื่อเข้าไปในสวนดูแลต้นไม้ต้นไร่ ก่อนที่จะมาจัดเตรียมอาหารมื้อเช้าให้เขาก่อนที่จะไปมหาวิทยาลัย
หลังจากที่อาทิตย์จัดการกับกิจวัตรยามเช้าของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็พอดีที่คุณออมทองทำกับข้าวเสร็จ ชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปช่วยแม่ของเขาจัดโต๊ะอาหาร จัดวางสำรับกับข้าวให้เรียบร้อย วันนี้แม่ของเขาทำข้าวต้มเครื่อง ผักกาดดองและขิงดองถูกจัดวางในจานอย่างเรียบร้อย ยำกุ้งแห้งสีสวยดูน่ากิน และไข่เจียวใส่หัวไชโป้ที่ส่งกลิ่นหอมโชยมา ทำหน้าที่เรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี
เมื่อคืนนี้ขึ้นไปนอนตอนกี่โมงกี่ยามกันล่ะอาร์ต หน้าตายังเพลียๆ อยู่เลยนะลูก กินข้าวต้มร้อนๆ จะได้กระฉับกระเฉง มารดาของชายหนุ่มเอาใจใส่กับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของเขาอยู่ตลอดเวลา เมื่ออาร์ตได้ยินแม่ของเขากล่าวดังนั้น ก็ลูบหน้าตัวเองพลางหันไปถามคุณออมทองว่า หน้าอาร์ตโทรมมากเลยเหรอแม่
เปล่าหรอกจ๊ะ แค่ดูตาคล้ำๆ นิดหน่อย พักผ่อนเกินไปน้อย ระวังจะไม่สบายไปนะลูก ยังไงเสียแม่ของอาทิตย์ก็ยังเป็นห่วงเป็นใยเขาในทุกเรื่อง วันนี้มีเรียนตอนบ่ายไม่ใช่เหรอลูก ทำไมตื่นแต่เช้าเชียว
พอดีวันนี้ที่ชมรมกีฬา เค้าจะปฐมนิเทศน้องใหม่ของชมรมน่ะจ้ะ อาร์ตก็เลยต้องไปเร็วหน่อย
อืม งั้นก็รีบๆ กินเถอะลูก เป็นถึงประธานชมรม ไปสายตั้งแต่วันแรกจะดูไม่ดี
เมื่ออาทิตย์จัดการกับข้าวต้มสองชามใหญ่ของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ทำท่าจะเข้าไปล้างจานชามในครัว จนแม่ของชายหนุ่มต้องออกปากว่าเดี๋ยวเธอจะจัดการเอง อาร์ตจึงได้แต่เก็บจานชามและสำรับกับข้าวให้เข้าที่เข้าทางก่อนที่จะเข้าไปสวัสดีแม่ของเขา และออกไปสตาทรถ เพื่อเดินทางไปมหาวิทยาลัย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หวัดดีคับ พี่อาร์ต เสียงของกีรติรุ่นน้องชมรมคนหนึ่งของอาร์ตเอ่ยทักพี่ประธานชมรม เมื่อเห็นว่าเขาเดินเข้ามาในโรงยิมที่เป็นสถานที่นัดหมาย พี่มาพอดีเลย พวกผมกำลังเรียกรวมเด็กใหม่อยู่พอดี พี่นั่งรอตรงนี้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวพอพวกผมจัดการเรียบร้อยแล้ว ค่อยมาเรียกพี่ไปคุยกับรุ่นน้องพวกนั้นแล้วกัน อาร์ตได้แต่พยักหน้าตอบรับ พลางมองดูรุ่นน้องชายหญิงปีหนึ่งจำนวนมาก ที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของชมรมกีฬาที่นั่งรวมตัวกันอยู่ที่กลางสนามบาสภายในโรงยิม ดูท่าทางปีนี้ชมรมของเขาคงจะปั้นนักกีฬาหน้าใหม่ๆ ได้เป็นจำนวนไม่น้อย นอกเหนือจากเด็กที่เข้ามาผ่านทางโครงการช้างเผือกของมหาวิทยาลัยด้วยแล้ว
ระหว่างที่อาร์ตกำลังมองดูรุ่นน้องในชมรมกำลังกล่าวแนะนำตัวกับน้องใหม่อยู่นั้น พลันสายตาเขาก็เหลือบไปเห็นนักศึกษาหญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้เข้าไปรวมอยู่กับกลุ่มเพื่อนด้วย กลับแยกตัวไปนั่งอยู่คนเดียวที่อัฒจันทร์ริมสนาม ท่าทางว่าคงจะมานั่งรอเพื่อนอยู่ และดูเหมือนว่าเธอก็คงกำลังมองมาทางเขาเช่นเดียวกัน แต่อาร์ตก็ต้องหยุดความคิดของเขาไว้เพียงเท่านั้น เมื่อนายกีรติเดินเข้ามาเรียกให้เขาออกไปพูดคุยแนะนำตัวประธานชมรมกับน้องใหม่ที่นั่งรออยู่ อาทิตย์เดินเข้าไปกล่าวแนะนำตัวด้วยมาดขรึม วันนี้เจอกันวันแรกก็ต้องเก๊กท่าขู่ซะหน่อยก่อน จากรูปร่างหน้าตาของชายหนุ่ม และบุคลิกเคร่งขรึมที่เขาแสดงออกมา ทำให้รุ่นน้องสาวๆ หลายต่อหลายคน แทบจะมองอาทิตย์ตาแทบไม่กระพริบกันเลยทีเดียว
หลังจากที่อาทิตย์แนะนำตัวและทำความรู้จักกับน้องใหม่ของชมรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของกรรมการในชมรมคนอื่นๆ ที่จะดำเนินกิจกรรมของวันนี้ต่อไป ชายหนุ่มทำหน้าที่เพียงดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ให้อยู่ในขอบเขตไม่เกินเลยไปกว่าที่ควรจะเป็น จนเมื่อเวลาล่วงเลยไปพอสมควร เขาจึงเอ่ยปากขอตัวกับทุกคนเพื่อเตรียมตัวไปเข้าเรียน โดยที่ชายหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่า มีสายตาคู่หนึ่งที่จับจ้องเขาอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งชายหนุ่มเดินออกไปจนลับสายตา
++++++++++++++++++++++++++++
แสงแดดยามเย็น บวกกับลมพัดโชยเบาๆ สร้างบรรยากาศให้คนที่กำลังนั่งทอดอารมณ์อยู่ที่โต๊ะม้าหินริมสระน้ำในมหาวิทยาลัยเพียงลำพัง กำลังทำตาปรือท่าทางว่าจะหลับแหล่มิหลับแหล่เสียให้ได้ แต่แล้วคนที่ทำท่าจะว่ากำลังจะนั่งหลับก็ต้องสะดุ้งสุดตัว จากฝ่ามือที่เข้ามาปะทะกับไหล่ของเขาอย่างแรง พร้อมกับเสียงร้องเรียกดังๆ ที่คุ้นเคย เฮ้ย ไอ้อาร์ต อะไรวะ ให้นั่งรอแค่นี้ทำเป็นหลับ ชานนท์นั่นเองที่เป็นคนปลุกเขา ระหว่างนั้นก็มีเพื่อนในกลุ่มที่คณะของเขาอีกสองเดินเข้ามาสมทบ
โห อะไรวะเนี่ย แค่เดินไปซื้อของกินแค่นี้ เอ็งถึงกับจะหลับเลยเหรอ ข้าว่าพวกข้าก็เดินไปไม่นานเท่าไหร่เองนะ เสียงพิพัฒน์หรือเปี๊ยก เอ่ยถามเขาขึ้นมา หรือเมื่อคืนมัวแต่ทำอะไรอยู่วะ ไม่ยอมหลับยอมนอน
ไอ้เปี๊ยกไม่ต้องมาทำหน้าลามกเลยเอ็ง ข้าจะหลับหรือจะตื่นมันก็เรื่องของข้าเว้ย อาทิตย์ตอบเพื่อนของเขากลับไป เมื่อเห็นว่าไอ้เจ้าเปี๊ยกกำลังทำหน้าเป็นหมาสงสัย แบบที่มองแล้วดูท่าทางว่ามันไม่น่าจะคิดไปในทางดีๆ สักเท่าไหร่ แล้วก็หันไปทางวรวุฒิหรือวุฒิ เพื่อนอีกคนของเขาที่กำลังทำท่าพยักพเยิดเห็นดีเห็นชอบไปกับไอ้เปี๊ยกด้วย ไอ้วุฒิ เอ็งก็หยุดเลยไม่ต้องไปเออออกับไอ้เปี๊ยกมันมากนัก ไอ้เพื่อนเวรพวกนี้ จริงๆ เลยนะเอ็ง
เอ้า เฮ้ย! หยุดกัดกันซักประเดี๋ยว กินๆ เข้าไปซะ เผื่อจะช่วยให้ลูกๆ ในปากมันหยุดเห่า ชานนท์โยนน้ำอัดลมกระป๋องให้กับเพื่อนๆ อีกสามคน เพื่อปิดปากก่อนที่สงครามน้ำลายจะเลยเถิดมากไปกว่านี้
เออ ไอ้อาร์ต เมื่อวานกลับไปแล้วน้องพิมพ์เค้าพูดถึงข้าบ้างหรือเปล่าวะ ชานนท์เอ่ยปากถามอาร์ตเพื่อนสนิทของเขาอย่างไม่ให้ชายหนุ่มได้ทันตั้งตัว อาร์ตแทบสำลักน้ำในทันทีก่อนที่จะกลั้นใจตอบเพื่อนของเขาไปอย่างส่งๆ ก็พูดถึงบ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่คนที่รอฟังคำตอบอยู่อยากรู้มากกว่านั้น น้องเขาพูดถึงข้าว่าไงบ้างล่ะ
เขาบอกว่าเอ็งพูดมากดี นี่เขาไม่ได้พูดปดอะไรเลยนะ ก็หนูพิมพ์เป็นคนบอกเขาเองว่า พี่นนท์นี่เขาคุยสนุกดี อาทิตย์ก็ตีความได้ว่าหนูพิมพ์คงจะอยากจะบอกว่านายนี่มันพูดมากจังทำนองนี้ ไม่เป็นไรหรอกน่าบิดเบือนคำพูดนิดหน่อย แต่สาระสำคัญยังอยู่ครบ
เฮ้ย น้องเค้าพูดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ ชานนท์ทำท่าคิดมาก สงสัยคราวนี้ท่าทางเขาคงทำคะแนนได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สาวเจ้าถึงได้พูดออกไปอย่างนั้น
อืม ก็ทำนองนั้นแหละ คนจับประเด็นเก่งพูดตอบเพื่อนออกไป
ทำนองนั้น? ชานนท์ย้ำคำพูดของอาทิตย์ก่อนจะถามซ้ำอีกครั้ง ทำนองนั้นมันทำนองไหนวะ เอ็งไม่ต้องมากันท่าน้องพิมพ์เลยนะไอ้อาร์ต ไหนบอกว่าน้องสาวไม่ใช่เหรอ ก็เปิดโอกาสให้เพื่อนหน่อยสิ เอ็งไม่อยากได้น้องเขยหน้าตาหล่อๆ อย่างข้าหรือไงวะ
ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลยไอ้นนท์ ข้ากั๊กอะไรเอ็งตรงไหน คิดไปเองหรือเปล่า อาทิตย์ทำปากแข็งตอบกลับเพื่อนออกไป ชายหนุ่มอีกสองคนที่เหลือกำลังทำหน้างงๆ กับบทสนทนาของเพื่อนของพวกเขาทั้งสองคนอยู่
เฮ้ย คุยอะไรก็ให้คนอื่นเค้ารู้เรื่องกันบ้างสิวะ ไม่ใช่รู้กันแค่สองคน ตกลงนี่น้องพิมพ์ไหนวะ ไอ้อาร์ต วรวุฒิรีบเบรกเพื่อนทั้งคู่ เขาก็อยากจะมีส่วนร่วมในการสนทนาหัวข้อนี้ด้วยนี่ แต่ไม่ทันที่อาทิตย์จะเอ่ยปากตอบเพื่อนของเขาไป นายชานนท์ตัวดีก็รีบตอบคำถามนั้นออกมาทันที น้องพิมพ์ที่เป็นเด็กข้างบ้านของไอ้อาร์ตที่มันพูดถึงอยู่บ่อยๆ ไง เมื่อวานนี้ข้าบังเอิญไปเจอมา น่ารักโคตรเลยว่ะ
ทันทีที่ชานนท์พูดจบ พิพัฒน์ก็รีบพูดออกมาทันที อะไรวะ มีน้องน่ารักไม่รู้จักพามาแนะนำให้เพื่อนรู้จักบ้าง มิน่าพวกข้าจะไปเที่ยวบ้านเอ็งทีไร ทำเป็นห้ามโน่นห้ามนี่อยู่เรื่อย เอ สงสัยว่าที่ไม่เคยเห็นเอ็งไปจีบสาวคนไหนในม.บ้างเลย เพราะมีน้องพิมพ์อยู่แล้วนี่หรือเปล่า แล้ววรวุฒิก็รีบผสมโรงตามทันที เฮ้ย ไอ้อาร์ต นี่เอ็งริอ่านจะเป็นสมภารกินไก่วัดเหรอ
ไอ้พวกนี้ หุบปากไปเลยเอ็ง สมภงสมภารอะไร บอกว่าน้องก็น้องสิวะ คนที่โดนมอบตำแหน่งเจ้าอาวาสให้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวรีบพูดแก้ตัวทันที
เออ ให้มันจริงเถอะ แล้วเอ็งไม่ต้องมากันท่าข้าเลยนะไอ้อาร์ต ยังไงๆ ซะข้าก็จองน้องพิมพ์ไว้แล้ว ชานนท์รีบพูดตอบรับทันทีเมื่อได้รับคำตอบจากนายอาร์ต แต่เมื่อได้ยินดังนั้น อาทิตย์ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่อไปไม่ได้รีบร้องห้ามเพื่อนทันที เฮ้ย ไม่ได้นะเว้ย แล้วก็มองไปเห็นสายตาของเพื่อนทั้งสามที่ส่งสายตามาอย่างจับพิรุธก่อนที่จะรีบแก้ตัว
เอ่อ ข้าหวังดีกะเอ็งนะไอ้นนท์ พอหนูพิมพ์เรียนจบม. 6 ที่บ้านเค้าก็จะย้ายไปอยู่เมืองนอกแล้ว ข้าไม่อยากให้เพื่อนรักอย่างเอ็งต้องมาอกหักน่ะ
ไม่กลัวเว้ย อกหักดีกว่ารักไม่เป็น ก่อนที่ชานนท์จะพูดลอยๆ ต่อไปว่า ไอ้สมภารเอ้ย มัวแต่จดๆ จ้องๆ มีหวังได้กินแห้วแทนไก่แน่ๆ ก่อนที่จะทำหน้ายียวนกวนประสาทใส่นายอาร์ตอย่างน่าเตะเสียนี่กระไร
พูดอะไรวะ ไอ้นนท์ ไม่ค่อยได้ยินเลย เอาปากมาพูดใกล้ๆ หน่อยซิ อาร์ตบอกเพื่อนของเขา ก่อนที่จะลุกขึ้นไปหา โดยไม่ต้องรอให้เท้ามาถึงปาก ชานนท์ก็รีบกระโดดผลุงไปทันที แต่อาทิตย์ก็ไม่รอช้า ร้องเรียกพลางวิ่งไล่เพื่อนของเขา ไอ้นนท์เอ็งไม่ต้องหนีเลยนะ
เฮ้ย เอ็งสองคนเนี่ย ปีสี่แล้วนะเว้ย ตัวจะโตกว่าควายอยู่แล้ว ดันเล่นกันเป็นลูกหมาไปได้
เออว่ะ เดี๋ยวใครต่อใครเค้าจะพาลคิดว่า เด็กวิศวะที่นี่นอกจากจะปากหมา แล้วยังปัญญาอ่อนอีก เสียสถาบันหมดนะเว้ย เพื่อนทั้งคู่ที่เหลืออยู่ของชานนท์และอาทิตย์ตะโกนบอกพวกเขาทั้งสอง คนที่กำลังทำท่าจะไล่เตะกัน ก็กลับตัวกลับใจมาเข้าโครงการสมานฉันท์ แล้วหันเป้าหมายไปหาคนที่ส่งเสียงมาในทันที ไอ้วุฒิ ไอ้เปี๊ยก
แต่ไม่ทันระวังตัวอาทิตย์ก็หันไปชนร่างของใครคนหนึ่ง เขาได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ และด้วยสัญชาตญาณที่มี ชายหนุ่มรีบคว้าเอวของร่างบางเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่เจ้าของเสียงนั้นจะล้มลงไปซะก่อน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จบบทแล้วค่ะ
แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 48 21:38:29
จากคุณ :
ชมสิจ๊ะ
- [
27 ส.ค. 48 19:45:49
]