CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ฟ้าหลังฝน ภาคพิเศษ(อีกรอบ) ..บททดสอบรัก ..แต่งเรื่องยาวไม่ออกบวกกับช่วงนี้อยากเขียนเรื่องของสองคนนี้เป็นพิเศษ

    ..ตอนพิเศษตอนใหม่ของหมอณัฐกะนู๋นิดค่ะ ไม่รู้ว่าจะให้เป็นตอนอะไรดี ก็เลยเป็น บททดสอบรัก ไป เพราะเป็นช่วงที่หวานชื่นของทั้งคู่แต่เกิดเหตุการณ์ที่มาถือว่ามาทดสอบความรักของสองสามีภรรยา มาดูสิว่าความรักของพวกเขาจะทำให้ช่วยกันฝ่าฟันบททดสอบนี้ไปได้อย่างไร

    ......

    ฟ้าหลังฝน ภาคพิเศษ(อีกรอบ) ..บททดสอบรัก

    แสงแดดที่สาดส่องผ่านผ้าม่านสีหวานเข้ามาทางหน้าต่าง กระทบกับเปลือกตา ทำให้ต้องกระพริบตาถี่ๆ ก่อนที่นัยน์ตาจะเปิดกว้างออกมาพร้อมทั้งรับรู้ถึงสัมผัสอันอบอุ่นข้างกาย..

    ณัฐวุฒิขยับตัวออกเล็กน้อยเพื่อจะทอดมองดวงหน้าที่ยังหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขซึ่งก่อนหน้านี้ยังเบียดซุกอยู่กับอกกว้างของเขา ชายหนุ่มอดที่จะยิ้มน้อยๆ ขึ้นมาไม่ได้ พิศใบหน้าภรรยาสาวยามนอนหลับที่ไม่ว่าจะมองเท่าไหร่เขาก็ไม่มีวันเบื่อ .. คิ้วโก่งสวยเหนือเปลือกตาที่แม้จะยังไม่เปิดเผยให้เห็นดวงตาคู่สวย เขาก็ยังจำแววหวานในนั้นได้เป็นอย่างดี จมูกโด่งเชิดรั้นที่ตรงกันข้ามกับนิสัยโดยสิ้นเชิงของผู้เป็นเจ้าของ ผิวแก้มอมชมพูแสดงให้เห็นถึงความมีสุขภาพดี และยังริมฝีปากเล็กบางสีเข้มกว่าพวงแก้มนั่น ดึงดูดให้เขาก้มลงจุมพิตเบาๆ ที่ริมฝีปากรูปกระจับนั้น ..

    "พี่ณัฐ.."

    แม้จะเพียงสัมผัสบางเบาแต่ด้วยนิสัยนอนไว ซึ่งติดมาจากสมัยที่นัทธมลยังเล็กๆ และเธอต้องตื่นขึ้นมาดูลูกเองตลอดทั้งคืน บวกกับอาชีพพยาบาลที่บางครั้งก็ต้องเข้าเวรดึกบ้าง นิทราจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นทันที

    "อรุณสวัสดิ์จ๊ะ" ณัฐวุฒิกล่าว พร้อมก้มลงจูบรับอรุณอีกครั้ง

    "กี่โมงแล้วค่ะ.. วันนี้พี่ณัฐต้องไปทำงานแต่เช้าไม่ใช่เหรอ" ว่าพลางขยับตัวเพื่อจะลุกขึ้นจากที่นอนไปเตรียมของเช้าให้ผู้เป็นสามีตามปกติ

    "เพิ่งจะหกโมงเช้าเอง นิดนอนต่ออีกหน่อยเถอะ เมื่อคืนก็อยู่เวรยั้นดึก กว่าจะได้กลับมานอนก็เกือบเที่ยงคืนเข้าไปแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องรีบลุกหรอก ข้าวเช้าพี่ไปหากินที่โรงพยาบาลเองได้" หมอหนุ่มว่าก่อนจะกดตัวภรรยาให้นอนบนเตียงต่อ ส่วนตัวเองลุกขึ้น  เตรียมจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไปทำงาน

    "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ยังไงนิดก็ต้องไปปลุกน้องนัท ส่งแกไปโรงเรียนอยู่ดี นิดว่าจะทำกับข้าวก่อน แล้วเดี๋ยวสักพักค่อยไปปลุกลูกตอนนี้พี่ณัฐก็ไปอาบน้ำก่อนแล้วกันค่ะ"
    นิทราไม่ยอมนอนต่อตามที่ผู้เป็นสามีบอก ลุกจากเตียงเดินผลักให้ชายหนุ่มเข้าห้องอาบน้ำ ส่วนตัวเองก็ลงมือเก็บที่นอนให้เรียบร้อย แล้วก็เดินออกจากห้องนอนไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำอีกห้องชั้นล่าง ก่อนจะเข้าครัวไปทำอาหารเช้าให้สามีกับลูก


    ..เกือบจะหกเดือนแล้วที่ณัฐวุฒิพาเธอและลูกสาวย้ายออกมาจากเรือนพักแพทย์หลังเก่าซึ่งเป็นเรือนพักชั้นเดียวมาเป็นบ้านไม้สองชั้นขนาดย่อมไม่ใหญ่ไม่เล็กแต่ดูอบอุ่นยิ่งนัก และยังอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลที่พวกเขาทำงานสักเท่าไหร่ ..นายแพทย์หนุ่มทำเซอร์ไพส์พยาบาลสาวผู้เป็นภรรยาโดยการปิดเงียบไม่ยอมบอกเรื่องบ้านใหม่นี้ตลอดช่วงที่รักษาตัวรอให้ขาหาย และเมื่อหายดี ชายหนุ่มก็พาพวกเธอย้ายออกมาทันที สร้างทั้งความแปลกใจและดีใจให้นิทราอย่างสุดซึ้ง เมื่อนึกไปถึงว่าก่อนหน้านี้ที่เขาเคยถามเรื่องบ้านกับเธอ และเธอก็ตอบไปว่าอยากได้เพียงบ้านหลังเล็กๆ ที่ไม่ต้องใหญ่โตแค่มีครอบครัวที่อบอุ่นเท่านั้นพอ ณัฐวุฒิจำได้และทำตามในสิ่งที่นิทราต้องการเป็นอย่างดี

    ส่วนเด็กหญิงนัทธมล บุตรสาวของทั้งคู่ เมื่อบิดาจัดให้นอนในห้องนอนเล็กๆ กะทัดรัดที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาผ้านับสิบทั้งของเก่าที่นิทราซื้อให้และของใหม่ที่ณัฐวุฒิหามาเพิ่ม เด็กหญิงก็ไม่มีทีท่าจะเข้ามากวนบิดามารดาในห้องนอนใหญ่อีกเช่นบางคืนในบ้านเก่า แถมบิดายังย้ำอีกว่าถ้าน้องนัทอยากได้น้องชายหรือน้องสาวอีกสักคนต้องปล่อยให้พ่อนอนกับแม่แค่สองคนในห้องเท่านั้น (หมอณัฐบอกอะไรกับลูกเนี่ย!..)


    "เดี๋ยวพี่ไปส่งน้องนัทให้เอง นิดไปพักก่อนเถอะ วันนี้ก็อยู่เวรบ่ายไม่ใช่เหรอ พักผ่อนไม่พอเดี๋ยวจะพาลไม่สบายเอาได้นะ ..ขึ้นไปนอนต่ออีกนิด สายๆ ค่อยลุกขึ้นมาอาบน้ำไปทำงาน แล้วยังไงตอนพักเที่ยงพี่จะกลับมารับ"

    ณัฐวุฒิกล่าวขึ้นทันทีที่นิทราเช็ดปากให้บุตรสาวหลังเสร็จสิ้นอาหารมื้อเช้า ก่อนจะเอื้อมหยิบแก้วน้ำส่งให้ภรรยาเพื่อให้บุตรสาวล้างปาก

    "นิดนอนพอแล้วล่ะคะ ให้นิดไปส่งน้องนัทเองดีกว่า พี่ณัฐจะได้ไม่ต้องเสียเวลา ตอนกลางวันก็ไม่ต้องขับรถมารับนิดหรอก นิดไปเองได้ ..สบายมากๆ เดี๋ยวก็เคยตัวกันพอดี"

    หญิงสาวบอกยิ้มๆ อดนึกไปถึงเวลาที่ผ่านมาตลอดช่วงที่ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันในฐานะภรรยาเขาไม่ได้ พอชายหนุ่มหายดีสามารถขับรถเองได้ก็คอยเทียวรับส่งเธอและลูก ..ตอนเข้าเวรพร้อมกันก็ยังไม่เท่าไหร่เพราะยังไงก็ต้องไปกลับด้วยกันอยู่แล้ว แม้ว่าเวรไม่ตรงกันเขาก็ยังคอยรับส่งไปทำงาน อยู่รอหลังเลิกงานแทบจะทุกวัน ยกเว้นแต่ถ้านิทราเลิกดึกมากนัก เขาก็จะไม่รอเพราะต้องกลับมาอยู่ดูลูกสาวแทน จะมีบ้างก็ในคืนวันศุกร์และเสาร์ที่ไม่ต้องอยู่ดูลูก เพราะจะพาเด็กหญิงนัทธมลไปนอนค้างกับอนงค์ที่บ้านเดิมของภรรยา

    อย่างเมื่อคืนก็เช่นเดียวกัน.. ณัฐวุฒิบอกว่าเธอนอนนิดเดียวเพราะเลิกเวรดึก แต่เขาเองก็ยังไม่ได้นอน อยู่รอจนกระทั่งหญิงสาวกลับมาถึงบ้านโดยสวัสดิภาพแล้วนั่นแหละจึงได้เข้านอนหลับสนิทไปก่อนหน้าเล็กน้อย ขนาดว่านิทราตามเข้าไปซุกใต้ผ้าห่มข้างๆ เขายังทำแค่คว้าตัวเธอเข้าไปนอนกอดให้หลับไปด้วยกันเท่านั้น ชายหนุ่มเองก็ไม่ได้นอนเต็มที่เท่าใดนักหรอก

    ..ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตอนนี้ยังรักกันหวานชื่นอยู่ เขาถึงได้เอาอกเอาใจเธอเป็นอย่างดี แต่ถ้าชีวิตคู่เกิดชืดจางขึ้นมา เธอจะเป็นแค่อะไรในชีวิตของเขากัน

    "พี่ไปส่งลูกเองน่ะดีแล้ว รู้ตัวหรือเปล่าว่าวันนี้นิดหน้าซีดๆ นะ ทานก็น้อยกว่าทุกวัน พี่กลัวว่าจะไม่สบายเอาจริงๆ ไปนอนให้พออีกหน่อย ตอนทำงานจะได้มีแรง เชื่อพี่เถอะ ..เอาล่ะ น้องนัทไปโรงเรียนกับคุณพ่อดีกว่านะครับ วันนี้ให้คุณพ่อไปส่งแทนแม่นิดเนอะ ตอนเย็นพ่อก็จะไปรับน้องนัทไปส่งบ้านคุณยายด้วย" ณัฐวุฒิตัดบท ลุกขึ้นไปจูงบุตรสาวก่อนที่ภรรยาสาวจะอิดออดมากไปกว่านี้

    เมื่อไม่สามารถขัดเขาได้ นิทราจึงปล่อยให้สามีทำตามความต้องการของตัวเขาเอง อีกอย่าง.. ก็พอจะรู้สึกเหมือนกันว่าวันนี้ร่างกายตัวเองก็ค่อนข้างอ่อนเพลียจริงๆ ยามเขาทักขึ้นมา หญิงสาวเดินไปส่งณัฐวุฒิกับลูกที่รถ ยืนรอจนท้ายรถของสามีลับสายตาแล้วจึงกลับเข้ามาเก็บโต๊ะอาหาร เสร็จเรียบร้อยจึงมาเอนหลังที่โซฟารับแขก หลับไปตอนใดเธอก็ไม่รู้ตัว


    กริ๊ง!.. กริ๊ง!..

    นิทราสะดุ้งตื่นขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ รีบลุกขึ้นคว้าหูฟัง กรอกเสียงลงไปทันที

    "สวัสดีค่ะ บ้านคุณหมอณัฐค่ะ"

    "พี่เองจ้ะนิด พี่โทรมาปลุกหรือเปล่า" เจ้าของเสียงก็คือเจ้าของบ้านที่นิทราบอกไปตอนรับสายนั่นแหละ

    "ตายจริง!.. สิบโมงกว่าแล้ว นิดหลับเพลินไปหน่อย ดีแล้วล่ะค่ะที่พี่ณัฐโทรมาปลุก ไม่งั้นนิดคงไปทำงานสายแน่ .. นิดจะรีบอาบน้ำแต่งตัวนะคะ พี่ณัฐมาถึงจะได้ไม่ต้องรอ" นิทราละล่ำละลักบอก เกือบจะวางหูไปแล้วถ้าชายหนุ่มไม่รีบขัดขึ้นมาก่อน

    "เดี๋ยวจ้ะนิด .. คือพี่จะโทรมาบอกนิดว่า วันนี้พี่คงไปรับนิดไม่ได้ ..พอดีว่าพี่ต้องไปรับเพื่อนที่สนามบิน อาจกลับมาไม่ทัน นิดมาทำงานเองได้ไหมจ๊ะ ..หรือจะให้ลุงสมไปรับ" เขาหมายถึงคนขับรถของโรงพยาบาล ซึ่งส่วนใหญ่จะมีหน้าที่ขับรถรับส่งคนไข้รวมไปถึงบุคลากรในโรงพยาบาลเวลามีการออกนอกสถานที่

    ".. ไม่ต้องหรอกค่ะ พี่ณัฐ ... เดี๋ยวนิดเรียกรถไปเองได้ อย่าไปกวนลุงสมแกเลย พี่ณัฐไปทำธุระให้เรียบร้อยเถอะค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนิด" ..มันคงไม่ดีที่นิทราจะใช้อภิสิทธิ์เหนือคนอื่นๆ

    ..แม้จะรู้ถึงความจำเป็นแต่นิทราก็ยังอดน้อยใจขึ้นเล็กๆ ไม่ได้ น่าแปลก.. ทั้งๆ ที่ปกติตัวเองเป็นคนมีเหตุผล เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ทำไมถึงเก็บมาเป็นอารมณ์ได้ก็ไม่รู้ แถมตอนนี้เพื่อนที่รู้ใจก็ไม่อยู่ข้างตัวให้คอยปรึกษาสักคน เพราะตั้งแต่ย้ายกลับไปอยู่บ้านที่เชียงใหม่ นานๆ ครั้งฟ้ารุ่งจะติดต่อกลับมา อีกอย่างก็มักจะเป็นทางจดหมายซะมากกว่า ครั้นพอโทรเข้าไปที่บ้านเพื่อนสาวก็มักไม่ได้เจอ ..ส่วนนายแพทย์ยงยุทธ ที่ตอนนี้ปวารณาตัวเป็นเพียงพี่ชายผู้แสนดีไปแล้วนั้น หลังจากที่ขึ้นไปดูงานที่เชียงใหม่ก็หายเงียบไปเหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะได้เจอกันบ้างหรือเปล่า ..


    'กินข้าวเย็นเรียบร้อยแล้วใช่ไหมจ๊ะ ทานข้าวให้ตรงเวลาล่ะ เดี๋ยวจะเป็นโรคกระเพาะเอาได้ ..พี่ไปส่งเพื่อนพี่กลับโรงแรมที่พักก่อนแล้วจะไปรับตอนเลิกงานนะจ๊ะ'

    ข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์เคลื่อนที่ขนาดจิ๋วทำเอาคนอ่านต้องเผลอยิ้มออกมาอีกจนได้ ..ผู้เป็นสามีส่งมาให้ราวกลับจะรายงานตัว

    ..แปลกดีเหมือนกันที่ไม่คิดว่าไอ้เจ้าเครื่องมือสื่อสารเคลื่อนที่ได้อันนี้ที่เดิมเคยคิดว่าไม่จำเป็น บางครั้งก็สร้างความอ่อนหวานเล็กๆ น้อยๆ ให้อยู่เสมอ ..

    โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ ณัฐวุฒิให้หญิงสาวไว้ติดต่อ บอกว่าเผื่อมีเหตุฉุกเฉินจำเป็น .. แรกๆ นิทราก็ไม่ค่อยอยากจะได้นักเพราะเธอเองไม่ค่อยจะได้ติดต่ออะไรกับใครทางโทรศัพท์สักเท่าไหร่ กับเขา ก็อยู่ด้วยกัน เจอหน้ากันทุกวันอยู่แล้ว.. กับมารดา บ้านที่ท่านอยู่ซึ่งก็เป็นบ้านเดิมของตัวเองก็ห่างกับบ้านที่อยู่กับสามีไม่มากเท่าไหร่เช่นกัน แถมก็ต้องเจอหน้ากันทุกอาทิตย์เพราะยังไงก็ไปส่งน้องนัทให้อยู่กับคุณยายทุกวันศุกร์อยู่แล้ว .. หญิงสาวแทบจะนับครั้งที่ใช้งานได้ด้วยซ้ำ ก็จะมีเจ้าข้อความที่ณัฐวุฒิขยันส่งมาให้นี่แหละที่ทำให้รู้สึกว่ามันพอจะได้ทำงานขึ้นมาหน่อย

    ซึมซับกับถ้อยคำหวานจากมือถือ ก่อนจะเริ่มลงมือปฏิบัติหน้าที่ของตนในเวลางานช่วงที่เหลือต่อไป จนไม่ทันรู้ตัวก็เหลือเพียงอีกไม่กี่นาทีก็จะได้เวลาเวรกะดึกมาเปลี่ยนเสียแล้ว .. นิทราจึงละสายตาจากหน้าปัดนาฬิกาเพื่อเตรียมลงมือเก็บข้าวของรอสามีมารับกลับบ้านตามที่เขานัดแนะ แต่ยังไม่ทันจะเก็บของเสร็จด้วยซ้ำ เสียงโทรศัพท์ส่วนตัวก็ดังขึ้นอีกครั้ง

    "มีอะไรหรือคะ พี่ณัฐ"

    กรอกเสียงถามเมื่อเห็นว่าใครเป็นผู้โทรเข้ามา ..วันนี้ชายหนุ่มสร้างความแปลกใจให้เธอเป็นหนที่สองแล้วในเรื่องที่โทรศัพท์มาหาทั้งที่กำลังจะมารับ ..หรือว่ามารับไม่ได้อีกเช่นในตอนกลางวัน

    และดูเหมือนนิทราจะเข้าใจไม่ผิดเมื่อเสียงปลายสายตอบมาว่า

    "พี่ต้องขอโทษนิดอีกครั้งนะจ๊ะ พี่คงไปรับนิดไม่ทัน แต่พี่โทรไปบอกคุณวัชแล้วว่าให้ไปรับนิดแทน ยังไงนิดไปรอพี่ที่บ้านนะ พี่จัดการธุระเสร็จแล้วจะรีบกลับ" น้ำเสียงเขาดูเครียดขึ้นผิดปกติ

    "พี่วัชกลับมาบ้านหรือค่ะ.. งั้นนิดไปรออยู่ที่บ้านแม่ก็แล้วกัน .. พี่ณัฐมี..มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ" ถึงแม้จะรู้สึกไม่ดีที่ต้องผิดหวังอีกเป็นหนที่สอง แต่หญิงสาวเป็นกังวลกับน้ำเสียงของเขามากกว่าจึงตัดสินใจถามออกไปในที่สุด

    "ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ พอดีพี่ยังไม่เสร็จธุระกับเพื่อนน่ะ นิดไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอกนะ ..แค่นี้แล้วกัน เดี๋ยวพี่ชายนิดคงไปรับแล้วล่ะ เพราะพี่บอกไปว่านิดเลิกงานแล้ว ..บายจ้ะ แล้วเจอกัน"

    ยังไงชายหนุ่มก็ไม่ยอมบอก รวบรัดแล้วก็ตัดสายทันที ถึงตอนนี้นิทราจึงอดจะรู้สึกน้อยใจขึ้นไม่ได้

    ..ถ้าไม่มีอะไรทำไมถึงต้องปิดบังด้วย


    ยังมีต่อ

    จากคุณ : makokchor - [ 28 ส.ค. 48 20:10:01 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป