ตอนที่16 บทสนทนากลางม่านหมอก
นี่มันวันโลกาวินาศอะไรเนี่ย!
เสียงแหลมปรี๊ดสบถพรืดติดต่อกันเป็นชุดหลุดออกจากปากของสาวน้อย ขณะที่เจ้าตัวเสยผมดำขลับของตนเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ อีกมือก็รั้งเจ้าตัวที่อยู่ข้างหน้าจนมันกรีดเสียงบาดหู ยังให้คนข้างๆหันมาว๊ากใส่
ยายเจ๊บ้า! ทำให้:-)หน้าขนนั่นหยุดส่งเสียงซะทีได้ไหม รำคาญ!
เจ๊บ้าค้อนขวับ กระแทกเสียงสู้ลมแรงที่ปะทะหน้า
ทำได้ที่ไหนเล่า! เป็นไปได้ก็อยากเหมือนกันนั่นแหละ เก่งนักก็มาลองเองสิ!
พอซะทีน่าเรน เซจเอ่ยปราม แล้วก็ตวัดนัยน์ตาเขียวสดใต้เงาแว่นที่บัดนี้มีแววระอาส่งไปเป็นเชิงติอีกคนที่กำลังยิ้มกระหยิ่มใจอยู่ นายก็ด้วย
อะไร๊ ฉันไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย อย่ามาใส่ความกันนะ นาธานทำเสียงสูง แกล้งกลอกนัยน์ตาสีน้ำตาลสดใสไปมา ทำให้นัยน์ตาอีกคู่หรี่ลง สีฟ้ากระจ่างดูเบื่อหน่ายและมืดมน
และดูท่าคู่หูของเขาก็คงจะรู้ตัว จึงส่งเสียงงี๊ดๆเป็นเชิงปลอบเบาๆ แม้ว่าจะไม่รู้ก็ตามว่าอีกฝ่ายมีเรื่องอะไร
เคอินยิ้มจางส่งให้ รอยยิ้มที่ดูยังไงก็รู้สึก...เศร้า
ขอบใจนะ
นี่! ฉันนึกอะไรออกแล้ว เรนโบว์ส่งเสียง พอกลับมานะ ฉันต้องหาทางแก้เผ็ดเบียทริชให้ได้เลย พวกนายก็ต้องช่วยฉันด้วย!
อืม จะว่าไป...มันก็สมควรนะ นาธานพึมพำ เล่นเอาเพื่อนๆตาโตเป็นไข่ห่านยักษ์ เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นพ้องกับเรนโบว์ เจ้าตัวจึงรีบดักคอ
ไม่ต้องมามองแบบนั้นเลย ก็มันจริงนี่...มีอย่างที่ไหน ส่งเด็กน้อยตาดำๆออกมาเผชิญโลกกว้างโดยลำพัง ส่วนตัวเองก็นั่งจิบไวน์สบายใจเฉิบอยู่ที่ปราสาท
บ่นจบก็เอามือเคาะหัวสิงโตตัวน้อยเบาๆ แล้วพูดกับมัน เจ้านายแกนี่ใช้ไม่ได้จริงๆเลยนะ
ที่เขาพูดมันมีเหตุผลดีทีเดียวเชียวล่ะ เพราะก่อนหน้านี่น่ะ...
--------------------------------------------------------------------------------
หา!
เสียงร้องแบบไม่เชื่อหูดังขึ้นพร้อมกันทันทีหลังจากที่หญิงสาวพูดจบ ทำให้รอยแย้มยิ้มปรากฎบนเรียวปากของเบียทริชอย่างขบขัน
อืม ทำไมหรือ นัยน์ตาสีน้ำทะเลพราวระริก ราวกับกำลังหยอกล้อ
ให้พวกเราไปกันเองงั้นเหรอคะ เรนนโบว์ถาม แล้วก็แย้งต่อทันทีเมื่อคนถูกถามพยักหน้าแบบสบายๆ แต่มัน...ไม่ไหวหรอกค่ะ อาจารย์ก็ไปด้วยกันสิคะ
คาลิส...คนเราน่ะ ถ้าไม่ลองก้าวไปข้างหน้าด้วยตัวเอง แล้วเมื่อไหร่เล่า...ที่จะรู้ถึงคุณค่าของตน อย่าคิดเพียงว่า ไม่ได้ ไม่เก่งพอ เชื่อในตัวเองสิ ความกล้าที่ทำให้เกิดความสำเร็จก็เริ่มต้นมาจากสิ่งนั้นแหละ
พูดจบก็เยื้องกรายออกจากห้องไป และหลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มวางแผนกัน
...พวกเธอจะต้องมุ่งไปทางเหนือตามที่วีก้าบอก เราเชื่อว่าศรทั้งสี่ที่ว่านี้ ต้องหมายถึง พวกเธอทั้งสี่อย่างแน่นอน นัยน์ตาสีน้ำทะเลกวาดมองเด็กๆทั้งสี่ เลขสี่...เป็นไปได้มากที่จะใช่นะ
แล้วดวงแสงทั้งสี่ล่ะครับ ถ้าสี่หมายถึงพวกเราแล้วทำไมถึงเป็นดวงแสง...ไม่ใช่ศร เซจเอ่ย แววครุ่นคิดปรากฏบนนัยน์ตาที่บัดนี้มรกตคู่นั้นดูเข้มและเต็มไปด้วยเรื่องต่างๆมากมาย
ไม่รู้สิ คนฟังตอบง่ายๆ เล่นเอาพวกที่เหลือพร้อมใจกันหมายเหตุไว้ในใจเป็นแถว ว่าคนๆนี้...เอ่อ...เข้าใจยาก และยากที่จะเข้าใกล้
ทั้งๆที่เมื่อครู่ยังดูคร่ำเคร่งอยู่เลยแท้ๆ แต่กลับตอบแบบไม่คิดแบบนี้...เฮ้อ จะไปกันรอดไหมนี่
ต่อไปก็...อาวุธ
เด็กๆพวกนี้มีไว้กับตัวอยู่แล้วครับ ราเชลเอ่ยขัด แต่อีกฝ่ายส่ายหน้า แล้วชี้ไปที่สองในสี่คน
คาลิสกับ...บิวเบอร์ตัน จำเป็นจะต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น ชินส์...ช่วยไปเลือกดาบที่ดีๆหน่อยให้สองคนนี้ที คำพูดจบลงพร้อมกับที่ร่างสูงหายลับไปจากประตู
เอาล่ะ ในระหว่างที่รอ พวกเธอมารู้จักกับสหายที่จะไปกับพวกเธอไปพลางๆก่อนละกัน พลันก็มีสิ่งมีชีวิตขนาดต่างๆกันย่างเท้าเข้ามา ทั้งสี่...พวกสัตว์เวทย์ที่เคยเห็นตอนเข้าสอบนั่นเอง
เอ...จับคู่ไปแล้วกัน จะได้สะดวกๆ เบียทริชเอ่ยคล้ายออกความเห็น แต่กระนั้นเจ้าหล่อนก็ช่วยเป็นธุระให้เสร็จสรรพ โดยที่คนถูกช่วยยังมึนงง...ไม่เข้าใจอะไรแม้แต่อย่างเดียว อืม รูทเทิร์นเวทกับคลอว์ คาลิสกับวิงค์ บิวเบอร์ตันก็เอากอกอร์นละกัน...ฉลาดดี อ้อ แล้วก็เธอ เคอิน ไนท์ เซอไวน์น่าจะดีที่สุดสำหรับเธอนะ
ขณะที่เธอยังคงพูดไปเรื่อยๆ ชินส์ก็เดินเข้ามาพร้อมกับดาบสองเล่ม ยื่นให้ทั้งสอง คนที่กำลังพูดเป็นต่อยหอยจึงหยุด แล้วเปลี่ยนเป็นดุนหลังพวกเขาออกไปข้างนอก พร้อมกับตะโกนเรียกเสียงใส เฟรย์ เจ้าก็ด้วย ไปกับดอร์นนี่นะ ช่วยๆกันหน่อย
ถ้อยนั่นเล่นเอาเจ้าจิ้งจอกมาดมากตาค้าง โวยไล่หลังทันทีที่รู้สึกตัว
เดี๋ยว! ฉันไม่เอาเจ้านี่นะ! เบียทริช!
แต่ก็ได้รับคำตอบรับเพียงเสียงหัวเราะใสๆอย่างอารมณ์ดีเท่านั้น
จากคุณ :
merochan
- [
29 ส.ค. 48 19:44:07
A:202.183.168.85 X:
]