แม้พายุครืนโครมคอยข่มขวัญ
เดือนดับกดดันให้หดหู่
เมฆดำคลุมฟ้าไม่น่าดู
แต่สักครู่ดาวจะเด่นเป็นศรัทธา
ท้อบ้าง ทุกข์บ้างการย่างทิศ
มืดมนบางขณะจิต อย่าอ่อนล้า
ยิ่งย่ำ จงยิ่งด้วยปัญญา
เพิ่มระยะมรรคาให้หัวใจ
ไม่มีก้าวของใคร ไม่เคยพลาด
จากการก้าวเพื่อวาดฝันใหม่ใหม่
การลองผิด ลองถูกแบบใดใด
ก็เพื่อเพิ่มภายในให้แข็งแรง
ยามทุกข์ ฉันคาด เธออาจท้อ
แหลกยับกับเหยื่อล่อการแก่งแย่ง
แต่หากศรัทธาเธอไม่เปลี่ยนแปลง
ดาวล้านล้านจะส่องแสงอวยพรเธอ.
11080829254-8
*ชื่อบทกวีได้จากเพลง "แสงดาวแห่งศรัทธา" ของเฮียหงา
เสมือนถ้อยแถลง
-----------------------------------------------------------------------------
ศรีอาศรมได้กระทำการเบี้ยวมิตรสหายมาหลายครั้งหลายคราว
จนมิตรสหายบางคนต่อสายหลังไมค์ขู่ว่า "จะตัดหางปล่อยวัด"
ฯลฯ (อีกสาระพัดที่เธอจะต่อว่า")
ทั้งหลายทั้งปวงต้องค้อมคอขออภัยอย่างที่สุด
เพราะชีวิตตอนนี้อยู่ในขั้นตกอับแบบหัวทิ่มดิ่งเหว
กระทู้นี้เลยถือโอกาสไถ่บาปให้สมแก่กรรม อิ อิ
นั่งถูไถเขียนบทกวีไปได้หนึ่งบท ก็ทำมาได้แค่นี้
ความอับจนบังเกิดขึ้นทันทีที่พบว่า "ลุงเวทย์" เข้ามาเยี่ยมลูกหลานใน
อาศรมฯ ทำเอาอาร์พีเขียนอะไรไม่ออก ด้วยเกรงบารมี อิ อิ
กระทู้นี้นอกจากเป็นการวางกลอนกันตามปกติแล้ว
ในอีกด้านหนึ่งก็บอกเล่าความเป็นมาของอาศรมฯ ไปด้วยว่า
ได้เดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน
ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการยืนยันได้ว่า คนกลุ่มหนึ่งที่ศรัทธา
ต่องานร้อยกรองยังพบปะแลกเปลี่ยนกันอยู่สม่ำเสมอ
ในฐานะผู้ติดสอยห้อยตามขบวนร้อยกรองขบวนนี้มาด้วยคนหนึ่ง
ขอให้กำลังใจและขอชื่นชมมิตรสหายทุกท่านที่แวะเวียน
มาแสดงพลังของร้อยกรองมิได้ขาด (แม้จะห่างไปบ้างเป็นบางที)
ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับบทกลอนที่อ่าน ที่เขียนโดยทั่วกัน
ครับผม
บอกอ-ย่ามดำ
แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 48 13:37:49
จากคุณ :
Ar@p
- [
30 ส.ค. 48 11:35:30
]