CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    สมุดสีฟ้าบันทึกสีชมพู ตอนที่4

    ตอนที่ 4
    วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2547

                  ทันทีที่ผมเดินเข้าสำนักงาน ผมก็ถูกเรียกให้ไปพบพี่เปี๊ยกซึ่งเป็นหัวหน้างานของผม และพี่เปี๊ยกก็สั่งให้ผมไปทำงานให้ลูกค้าที่ราชบุรีภายในวันนี้ ซึ่งโดยปกติผมจะรีบกลับบ้านเก็บเสื้อผ้า แล้วเดินทางไปทันที แต่ตอนนี้ผมไม่อยากไปจากกรุงเทพในเวลานี้เลย ทำให้ผมต่อรองกับพี่เปี๊ยกโดยอ้างถึงงานที่ค้างอยู่ เพื่อหวังว่าพี่เปี๊ยกจะส่งคนอื่นไปแทน  แต่ไม่รู้เพราะความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยกันมาหรือเปล่า ทำให้พี่เปี๊ยกรู้ว่าผมอ้างเรื่องงานเพื่อจะไม่เดินทางไปทำงานที่ราชบุรี ซึ่งถ้าเป็นลูกค้าทั่วไปแล้ว พี่เปี๊ยกจะยอมตามที่ผมเรียกร้อง แต่ลูกค้าคนนี้เป็นเพื่อนเจ้าของบริษัทฯ และระบุว่าต้องการคนออกแบบโรงแรมเรือนตะวัน ไปออกแบบร้านอาหารแห่งใหม่ที่กำลังจะสร้างขึ้น ซึ่งทำให้ผมต้องไปงานนี้ แต่ก็ไม่ถึงกลับแย่เสียทีเดียวเพราะพี่เปี๊ยกให้เวลางานนี้หนึ่งอาทิตย์ แต่ถ้าผมทำเสร็จก่อนหนึ่งอาทิตย์ วันที่เหลืออยู่ยกให้เป็นวันหยุดพิเศษไป
    และเมื่อผมกลับมาที่โต๊ะก็หยิบช็อกโกแลต ที่อยู่ในลิ้นชักขึ้นมาแกะห่อกิน ซึ่งผมมักทานในเวลาที่หงุดหงิด หรือไม่ได้ดั่งใจ  

                    เมื่อกินช็อกโกแลตหมด ผมรีบเก็บงานบนโต๊ะลิ้นชักพร้อมไขกุญแจล็อกลิ้นชักก่อนเดินออกจากห้องไป ระหว่างทางขับรถเพื่อเดินทางไปราชบุรี ผมโทรศัพท์ไปหากั้งทันที แล้วก็บ่นเรื่องที่พี่เปี๊ยกให้ไปราชบุรี ก่อนที่กั้งจะเบรคผม

    “ชู แค่ไปทำงานที่ราชบุรี นายหงุดหงิดอะไรนักหนา”

    “หงุดหงิดที่ต้องไปทำงานราชบุรีไง”

    “ไม่ใช่มั้ง โดยปกตินายแฮปปี้จะตายที่ได้ไปทำงานต่างจังหวัด”

    “ก็ครั้งนี้ไม่แฮปปี้นี่”

    “ทำไมละ”

                  ผมได้แต่นิ่งเงียบ จะบอกได้ไงว่าผมอยากอยู่เพื่อเจอแอน แต่อะไรคือหลักประกันว่าผมจะได้เจอถ้าอยู่กรุงเทพฯ ผมบอกไม่ได้ แล้วผมจะเอาเหตุผลนี้มาอ้างได้ไง

    “กั้ง นายก็รู้ว่าเราเป็นศิลปิน อยากทำงานต่อเมื่ออยากทำเท่านั้น”

    “นายคิดว่า เราคบกันมากี่ปี ถึงได้เอาเหตุผลปัญญาอ่อนมาหลอกกัน ความจริงเป็นยังไงกันแน่”

    “เราอยากอยู่กรุงเทพฯ เราอยากเจอแอน”

    “ก็แค่นี้ แต่อยากบอกนายเหมือนกันว่าถึงอยู่ก็ไม่มีทางเจอหรอก”

    “ทำไมละ”

    “ เพราะแก้วบอกว่า อาทิตย์นี้แอนลาพักร้อนทั้งอาทิตย์เพื่อไปเยี่ยมแม่เขาที่เชียงใหม่”

    “จริงเหรอ“

                  หลังจากได้ยินกั้งบอก ผมรู้สึกตกใจ เพราะครอบครัวผมก็เปิดรีสอร์ทชื่อภูตะวันอยู่ที่เชียงใหม่เหมือนกัน ทำให้ผมคิดว่าเสร็จจากงานที่ราชบุรีคราวนี้  คงต้องไปเยี่ยมพ่อ แม่และน้องสาวที่เชียงใหม่แล้ว  

                  ไม่รู้ว่าตัวเองบ้าหรือเปล่า เพราะแค่รู้ว่าจะได้อยู่จังหวัดเดียวกันก็ดีใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนที่คนโบราณว่าไว้ว่า ‘ไม่เห็นหน้าสาวเห็นหลังคาบ้านสาวก็ยังดี’

    “ชู นายเป็นอะไรทำไมเงียบไป”

    “ขอโทษที คิดอะไรเพลินไปหน่อย”

    “คิดอะไร บอกได้ไหม”

    “งาน”

    “โกหกไม่เลิกเลยนะ”

    “รู้แล้วถามทำไม”

    “อยากแกล้งคน นายคงคิดว่าจะรีบทำงานให้เสร็จแล้วรีบไปเชียงใหม่ใช่ไหมละ”

    “เกลียดคนรู้ทันจัง”

    “ขากลับอย่าลืมเอาของมาฝากคนรู้ทันด้วยนะ”

    “ไม่”

    “ก็ตามใจ ถ้ามีข่าวอะไรเกี่ยวกับแอนอีกละก็……นะ”

    “ได้ครับคุณกั้ง ไม่ทราบอยากได้อะไรครับ”

    “ดีมาก เราเอาไม่มากหรอก แค่หมูทอด แคบหมู ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม แล้วก็...”

    “ทำไมมันเยอะอย่างนั้น ได้ทีไถใหญ่เลยนะ”

    “เราล้อเล่นน่า จะซื้ออะไรมาก็เอาทั้งนั้นแหล่ะ แค่นายมีน้ำใจก็พอแล้ว”

    “เอ้า คิดว่าจะไม่เอาเสียอีก แค่นี้ก่อนนะใกล้จะถึงที่หมายละ”

    “แค่นี้ก็แค่นี้ ฝากความคิดถึงถึงพ่อแม่นาย แล้วน้องปูด้วยแล้วกัน”

                  และเมื่อวางโทรศัพท์จากกั้งลง ผมก็กดโทรไปหาเจ้าของงานที่จ้างมาเพื่อบอกกับเขาว่าผมกำลังจะไปถึงในสิบนาทีข้างหน้านี้

    จากคุณ : an_an_ant - [ 31 ส.ค. 48 22:31:44 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป