CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


                                 แมวบนฟ้า                             

    สายฝนตกกระหน่ำเทลงมาบนหลังคาจนกลบเสียงเพลงจากวิทยุ ผมเอื้อมมือไปปรับเสียงให้ดังขึ้นอีก แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก ฟ้าร้องเสียงดังสนั่น คราวนี้ผมเอื้อมมือไปปิดวิทยุ เคยมีข่าวว่าคนเคราะห์ร้ายคนหนึ่ง โดนฟ้าผ่าขณะเปิดวิทยุ แม้ว่าโอกาสที่ฟ้าจะผ่าลงมาบนกระบาลของเรามันมีน้อยเหลือเกิน ผมก็ไม่อยากจะเป็นส่วนที่น้อยนั่น


    เหมียว!


    เสียงร้องดังขึ้นมาจากดาดฟ้าตึกข้างๆ เมื่อเพ่งมองออกไปก็พบว่าเป็นแมวสีขาวดำตัวหนึ่ง แมวน้อยตัวนี้กำลังหลบใต้หลังคาที่ยื่นออกมา มันนั่งอยู่บนขอบกั้นดาดฟ้าที่มีหลังคายื่นออกมาบัง ผมจำแมวตัวนี้ได้เพราะว่ามันเป็นแมวเร่รอน ที่มีคนมักง่ายเอามาทิ้งไว้แถวบ้าน


    “เหมียว” ทำผมเสียงเลียนแบบมัน และก็ได้ผลมันเหลียวมามอง


    “หนาวหรือเปล่า” ผมตะโกนถามมัน ฝ่าเสียงเม็ดฝนที่ตกเกรียวกราวบนบนหลังคา


    เหมียว!  


    มันร้องตอบกลับมา ผมไม่รู้ว่ามันจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดหรือเปล่า บางทีมันอาจจะร้องไปเรื่อยตามภาษาแมว คราวนี้ผมลองหยิบไม้บรรทัดที่อยู่บนโต๊ะ โบกไปมาให้มันดู


    เหมียว!


    มันร้องขึ้นมาอีก ผมก็เลยโบกไม้บรรทัดอีก คราวนี้มันเงียบ แต่ก็ยังมองมาอย่างสนใจ ผมโบกไม้บรรทัดไปสักพักก็เบื่อ เพราะว่ามันไม่ร้อง ลองเปลี่ยนเป็นหนังสือดูบ้าง ว่าแล้วก็หยิบหนังสือธรรมะ  ขึ้นมาโบกไปมาแทนไม้บรรทัด


    เหมียว!


    ได้ผล มันร้องขึ้นมาแล้ว และก็เช่นเดิม เมื่อผมโบกหนังสือไปได้สักพักหนึ่งมันก็ไม่ร้องอีก แถมยังอ้าปากหาวใส่ผมอีก คุณเคยเห็นแมวหาวไหมครับ ก็เหมือนกับคนหาวนั่นแหละ แต่จะต่างกันหน่อยตรงที่แมวไม่เอามือมาปิดปากตอนหาว เมื่อมันหาวเราก็จะเห็นเขี้ยวของมันทั้งปาก


    ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมมันถึงร้อง จากนั้นผมก็ขนของที่อยู่ในห้องเอามาให้มันดู ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ ขวดโค้ก ตลับใส่แผ่นซีดี กล่องใส่ของ เรื่อยไปจนกระทั่ง ลำโพงตัวเขือง ทุกครั้งที่ผมเปลี่ยนของใหม่เอามาให้มันดู มันก็จะร้องออกมาทุกครั้ง ผมขนของเท่าที่มีในห้องเอามาให้มันดู ยกเว้นเตียง กับทีวี เพราะยกไม่ไหว ของวางระเกะระกะอยู่ริมหน้าต่างนับไม่ถ้วน สุดท้ายผมก็เลิกขนของ กลับมานั่งมองดูมัน


    ฝนเริ่มซ่าเม็ดลง อีกไม่นานมันคงจะหยุดตก เมฆดำเคลื่อนหายไปทีละน้อย ผมนั่งจุ่มปุกมองแมวผ่านหน้าต่างในห้อง แมวตัวนั้นก็ยังคงมองมาที่ผมเช่นกัน สายฝนเหมือนกับกำแพงที่กั้นมันไว้ไม่ให้มันหนีไปไหน เจ้าแมวตัวนี้เหมือนติดกับ มันไปไหนไม่ได้


    พอกลับมาคิดดู คนเราก็ไม่ต่างจากแมวตัวนี้สักเท่าไหร่ พวกเราเหมือนจะมีอิสระทำทุกอย่างได้ตามปรารถนา แต่แท้จริงแล้ว มันยังมีกำแพงสายฝนที่มองไม่เห็นขวางกั้นทางเดินของเราเอาไว้เช่นกัน กำแพงนั้นเป็นกรอบที่ไม่ได้เกิดขึ้นมาเพราะใคร หากแต่เป็นกรอบกฎเกณฑ์ที่เราพาตัวไปยึดติดเอง เหมือนกับแมวที่หลบอยู่ใต้หลังคาไม่กล้าออกมาโดนฝน  


    ตอนนี้เม็ดฝนหายจากฟ้าแล้ว เมฆดำก็จางไป เหลือทิ้งไว้แค่เมฆขาวเป็นหย่อมๆ ดวงอาทิตย์เริ่มส่องแสงอีกครั้ง แต่ไม่ร้อนแรงเช่นกาลก่อน เพราะว่ามันเป็นเวลาเย็นมากแล้ว อีกครู่หนึ่งมันก็จะตกดิน มีนกกระจอกตัวหนึ่งบินมาเกาะที่มุมเหลี่ยมของดาดฟ้า มันใช้ปากจิกไซ้ขนที่เปียกน้ำ


    ในตอนนี้เจ้าแมวน้อยไม่ได้มองมาที่ผมอีกแล้ว


    มันค่อยๆ ย่องไปด้านหลังนกตัวนั้น ก้าวไปช้าๆ เป็นจังหวะ เงียบไร้เสียง อีกแค่เอื้อมมันก็จะจับนกตัวนั้นได้แล้ว นกเคราะห์ร้ายก็ยังใช้ปากไซ้ขนอย่างเขมักเขม่น หารู้ไม่ว่าอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า มันจะตกเป็นเหยื่ออันโอชะของแมวขาวดำตัวนั้น


    แล้วมันก็หยุดนิ่ง หลังของมันโก่งขึ้น ตาจ้องไปที่นก ผมสังเกตเห็นเล็บเท้าของมันดีดกางออกมา ผมเฝ้าดูวินาทีแห่งชีวิตอย่างจดจ่อ พลันทันใดนั้นผมก็เสียววาบขึ้นมาที่ท้องน้อย นึกถึงข้อผิดพลาดประการหนึ่ง แต่สายไปเสียแล้วเจ้าแมวกระโจนไป แต่ชักช้ากว่าตัวนกวูบหนึ่ง นกบินหนีได้อย่างหวุดหวิดเล็บเท้าของแมวสะกิดขนของมันปลิวว่อนไปทั่ว แม้นกจะบินขึ้นบนฟ้าแล้ว เจ้าแมวก็ยังพุ่งออกไปไม่หยุดยั้ง พุ่งไปจนเลยขอบดาดฟ้า


    มันเป็นภาพที่งดงามอย่างที่สุด ท้องฟ้าสีส้ม ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ตัดกับฉากหลังที่เป็นต้นไม้อยู่ไกลออกไป ซึ่งมีแสงระยิบระยับเพราะน้ำที่เคลือบอยู่บนใบต้องแสงอาทิตย์ ขนนกยังปลิวว่อนอยู่บนฟ้า เจ้าแมวตัวนั้นประหนึ่งจะบินได้และเบากว่าขนนก มองแล้วเหมือนกับมันได้หลุดพ้นจากทุกสิ่งในโลกใบนี้


    ผมตะลึงมองกับภาพที่เห็น น้ำตาไหลคลอเบ้า ไม่อาจจะบรรยายความรู้สึกได้ ตอนนี้ผมคิดได้แต่ว่า ผมอยากจะบินไปกับแมวตัวนั้น ไวเท่าความคิดเท้าถีบพื้นกระโจนพาตัวลอยไปที่หน้าต่าง แต่ก่อนที่ผมจะหลุดพ้นจากกรอบหน้าต่าง หน้าแข้งผมก็ไปสะดุดเข้ากับข้าวของระเกะระกะ ซึ่งผมยกขึ้นมาเล่นกับแมวก่อนหน้านี้ ตัวผมตกวูบ และก่อนที่ผมจะสิ้นสติไป สิ่งที่เห็นกลับไม่ใช่ท้องฟ้าด้านนอก แต่เป็นขอบหน้าต่างไม้สักมันวับ


    ห้าชั่วโมงต่อมา


    ผมตื่นขึ้นท่ามกลางความมืดมิด รู้สึกปวดแสบที่หัว เมื่อคลำดูก็พบว่ามันปูดขึ้นมามีเลือดแห้งกรังติดอยู่ ผมลุกขึ้นและจะเดินไปเปิดไฟ แต่เท้าผมก็ไปสะดุดกับสิ่งของบางอย่างทำให้ผมเสียหลักหัวคม่ำและหมดสติไปอีกครั้ง


    เช้าวันต่อมา


    ผมตื่นขึ้นด้วยความมึนงง ค่อยๆ ลุกขึ้น แต่ก็เปลี่ยนใจ ลงไปคลานสี่ขากับพื้น เพราะว่ามันปลอดภัยกว่า ผมคลานกระดึบๆ เหมือนหนอน ไปจนถึงห้องน้ำ จากนั้นก็อาบน้ำแต่งตัวลงมาข้างล่าง มองหาจุดที่คาดว่าจะพบร่างของแมวตัวนั้น แต่ก็ไม่พบ แม้ว่าจะเดินไปดูรอบๆ แล้วก็ไม่เห็น


    เมื่อเวลาจะผ่านไปหลายวันแล้ว ผมก็ยังไม่เจอแมวตัวนั้น ผมเล่าเรื่องแมวให้คนแถวบ้านฟัง บางคนก็บอกว่ามันอาจจะไม่ตาย ซึ่งข้อนี้น่าจะเป็นไปได้น้อยที่สุดเพราะว่าดาดฟ้าที่มันร่วงลงมานั้น มีความสูงถึงห้าชั้น แถมพื้นก็ยังเป็นคอนกรีตอีก และถ้ามันยังมีชีวิตอยู่มันก็น่าจะปรากฏตัวออกมาให้เห็นบ้าง


    หรือว่ามันจะบินขึ้นฟ้าไปแล้ว?

    แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 48 18:04:29

    จากคุณ : egotech - [ 1 ก.ย. 48 05:00:15 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป