CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    + + + + + + + กาซชีวภาพ (อีกครั้งกับเรื่องสั้นนานทีปีหนระคนแหวกแนวหาที่ใดเหมือน) + + + + + + +

    "กาซชีวภาพ" - ธามาดา



    พวกเขามีกันอยู่สี่คน   อายุเฉลี่ยของพวกเขาที่นั่งกันอยู่คนละด้านของโต๊ะประชุมเล็กๆแต่หรูหราถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับมันสมองและตำแหน่งบริหารสูงสุดของบริษัทที่ได้รับ   ห้องประชุมของพวกเขาบนสำนักงานชั้นหกสิบได้รับการปรับแสง  เสียงรบกวน  และอุณหภูมิให้เอื้อต่อสมาธิของทุกคน   บนโต๊ะประชุมตัวนี้  แผนการหนึ่งที่มีความสำคัญและมีผลกระทบต่อมวลมนุษยชาติที่สุดแผนหนึ่งกำลังจะได้รับการตัดสินใจ

    “ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ”  ชายวัยกลางคนที่หัวโต๊ะประชุมเอ่ยขึ้นอย่างสุขุม  เค้าใบหน้า  การแต่งกาย  และบุคลิกของเขาช่างดูละม้ายกับเจ้าพ่อดอน  คอร์ลิโอเน ในภาพยนตร์ก๊อดฟาเธอร์เมื่อร้อยกว่าปีก่อนราวกับลอกกันมา  

    “เป็นไปตามที่เราเคยคำนวณไว้   แหล่งกาซธรรมชาติแหล่งสุดท้ายนอกชายฝั่งเบงกอลกำลังจะปิดตัวลงในอีกสองเดือนข้างหน้า   หลังจากนั้นถ้าวิเคราะห์กำลังการผลิตงวดสุดท้ายกับปริมาณกาซที่เรามีสะสมในคลังทั่วโลกรวมกันแล้ว   โลกของเราจะมีพลังงานใช้ถึงกลางเดือนธันวาคมนี้เท่านั้น   พ้นจากนี้ไปโลกก็จะเข้าสู่ยุคขาดแคลนพลังงานที่เคยใช้กันมานานนับศตวรรษไปอย่างถาวร   และนั่นคือหายนะของบริษัทโกลบอลกาซของเรา”

    ชายหญิงที่เหลืออีกสามคนนิ่งเงียบ


    หลังจากวิกฤตการณ์ขาดแคลนน้ำมันในช่วงพุทธศักราช 2562 ผ่านพ้นไป   โลกได้รับรู้ความจริงที่ปกปิดกันมานานข้อหนึ่งว่าน้ำมันใต้พิภพทุกตารางนิ้วถูกดูดขึ้นมากลั่นใช้งานจนหมดสิ้นแล้ว   แท่นขุดเจาะน้ำมันกลายเป็นขยะโลหะกลางทะเล   เช่นเดียวกับรถยนต์ที่เคยใช้น้ำมันหลายร้อยล้านคันต้องถูกจอดทิ้งเต็มสองฟากถนน   โลกตกอยู่ในความมืดมิดไม่ต่างจากยุคหินอยู่นานกว่าที่บริษัทผลิตกาซธรรมชาติจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานกาซให้ก้าวขึ้นมาทดแทนพลังงานน้ำมันได้เต็มที่   ทุกทวีปกลับมาสว่างไสวอีกครั้งหนึ่ง   ผู้คนทุกชนชาติต่างเฉลิมฉลองยินดีในความสำเร็จนี้   และแน่นอน   พวกเขาหันกลับมาใช้พลังงานกันอย่างฟุ่มเฟือยอีกคำรบหนึ่ง
    บริษัทโกลบอลกาซเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายกาซธรรมชาติยักษ์ใหญ่ของโลก   สามารถควบรวมกิจการคู่แข่งทีละรายจนกระทั่งก้าวขึ้นมาผูกขาดการค้าพลังงานทดแทนนี้มานานหลายทศวรรษ   มีสถานีสำรวจและผลิตกาซธรรมชาติทั้งบนบกและในทะเลลึกกว่าหกร้อยแห่งกระจายอยู่ทั่วโลก   เหนือกว่าศักยภาพในการจ่ายพลังงานไปยังหมู่บ้านที่ว่าไกลสุดขอบโลกได้คือกำไรจำนวนมหาศาลยิ่งกว่าขุมทรัพย์โบราณทั้งหลายรวมกันและอิทธิพลเหนือรัฐบาลของประเทศต่างๆ   แต่สัญญาณอันตรายของบริษัทก็มาถึงเมื่อมีการสำรวจพบว่าปริมาณกาซธรรมชาติใต้ผิวโลกถูกนำขึ้นมาผลิตพลังงานจนเหลือน้อยลงอย่างน่าใจหาย   สถานีผลิตกาซทยอยปิดตัวลงเงียบๆเดือนละสิบกว่าแห่ง   สิ่งเดียวที่ผู้บริหารในสมัยนั้นกระทำคือการใช้อิทธิพลปกปิดข่าวดังกล่าวเพื่อไม่ให้ราคาหุ้นและความเชื่อมั่นของนักลงทุนดิ่งเหว   บริษัทแห่งนี้แม้จะยิ่งใหญ่   แต่ก็หัวโบราณและอุ้ยอ้ายเกินไปสำหรับการรับมือวิกฤตการณ์ที่กาซธรรมชาติจะหมดโลกเช่นเดียวกับน้ำมันอีกครั้ง   จนกระทั่งถึงวันนี้ที่พวกเขาต้องยอมรับความจริงกับสาธารณชน

    ต้องหากาซมาเพิ่มให้ได้   ไม่อย่างนั้นต้องปิดกิจการ!!


    “เมื่อสองปีที่แล้ว”  ท่านดอนแห่งศตวรรษที่ 22 ประสานมือรองใต้คางอย่างใจเย็น  “ฝ่ายวิจัยและพัฒนาของคุณสุไลมานได้เคยทดลองและเสนอแหล่งพลังงานทางเลือกใหม่กับผมเพื่อทดแทนกาซธรรมชาติที่จะหมดลง   ผมยอมรับผิดที่ในเวลานั้นผมเห็นว่าเป็นเรื่องเหลวไหลเกินไปและส่งรายงานนั้นไปเก็บในห้องเอกสารสำรอง   วันนี้เราคงต้องมาพิจารณาแผนที่ว่านี้อย่างจริงจังด้วยกันเสียแล้ว   คุณสุไลมาน   ช่วยนำเสนอแผนการที่ว่านี้อีกครั้งเถอะครับ”

    ชายร่างสูงผิวคล้ำที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกระแอมนิดหนึ่งแล้วใส่รหัสเครื่องฉายโฮโลแกรม   เพียงพริบตาเดียวก็ปรากฏกราฟแผนภูมิหลากสีลอยเด่นอยู่กลางโต๊ะประชุม   เขายืดอกอย่างมีภูมิก่อนจะบรรยายแผนการ

    “ตั้งแต่กาซธรรมชาติกลายเป็นพลังงานหลักเพียงหนึ่งเดียวของมนุษย์   ปัจจุบันโลกของเรามีความต้องการกาซธรรมชาติเฉลี่ยวันละ สี่สิบล้านลูกบาศก์ฟุต   เมื่อกาซจากแหล่งขุดเจาะสุดท้ายกับที่เรามีสำรองในคลังกำลังจะหมดลง   ทีมงานของผมก็ทำการวิจัยล่วงหน้ามานานเกือบสิบปีในเรื่องการหาพลังงานทดแทนที่มีคุณสมบัติคล้ายกาซธรรมชาติที่สุดเพื่อให้การผลิตของเราไม่ต้องชะงักแม้แต่วันเดียว   พวกเราทุ่มทุนค้นคว้าวิธีการต่างๆที่จะเลียนแบบสภาพเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีคุณสมบัติเหมือนกาซธรรมชาติใต้พิภพให้ได้   แต่ก็ไม่สำเร็จ   เพราะโลกต้องใช้เวลาสะสมซากพืชซากสัตว์เป็นล้านปีกว่าจะได้น้ำมันสักลิตรหรือกาซแต่ละลูกบาศก์ฟุต”

    “ผมเกือบจะหมดกำลังใจกับการทดลองครั้งแล้วครั้งเล่าของโครงการนี้ไปแล้ว   จนกระทั่งวันหนึ่งผมกำลังนั่งเพลินๆอยู่บนชักโครก   ความคิดอันหนึ่งก็แล่นเข้ามาทันที   ผมดีใจเสียจนต้องเขียนโครงร่างแผนนั้นบนกระดาษชำระไปก่อนเลย   เราจะหากาซชีวภาพมาแทนกาซธรรมชาติ   กาซชีวภาพที่เกิดจากการหมักบนผิวโลกนี่แหละ”

    “กาซจากการหมัก?”  พรรพรรณผู้บริหารหญิงอีกคนขมวดคิ้ว  “คุณคงไม่ได้พูดถึงกาซจากซากพืชซากสัตว์ในโรงงานกำจัดขยะใช่ไหม   กาซพวกนั้นเทียบกับปริมาณพลังงานที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ไม่ได้เลยนะ”

     “ง่ายกว่าวิธีแบบนั้นเยอะครับ   ง่ายแบบคาดไม่ถึงเลย”
    “บอกมาเลยเถอะคุณสุไลมาน   เราจะลงทุนตามความคิดของคุณทันที”

    สุไลมานยิ้มกระหยิ่มในความสำเร็จ   เขากดปุ่มบนรีโมทเครื่องฉายโฮโลแกรมอีกครั้ง   ภาพโปร่งแสงก็กลายเป็นรูปมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง   ท่านดอนและผู้บริหารที่เหลือกลืนน้ำลายเอี๊อก

    “คุณสุไลมาน......”

     “ครับ   โรงงานผลิตกาซชีวภาพทดแทนคือมนุษย์   พวกเราทุกคนต้องเป็นโรงงานผลิตกาซครับ"

    ชายหญิงในห้องประชุมอ้าปากเหวอ   รู้สึกเหมือนหูตัวเองได้ยินผิดไป   ชายเจ้าของความคิดไม่รีรอให้ใครมีคำถาม   เขากดปุ่มอีกครั้งจนมีภาพขยายช่วงท้องของมนุษย์โฮโลแกรมจนเห็นเป็นลำไส้ภายใน

    “มนุษย์เราผายลมเฉลี่ยวันละสิบครั้ง   คิดเป็นปริมาตรกาซที่ออกมาประมาณสองลิตรเศษๆ   เคยมีสถิติว่าเคยมีมนุษย์ผายลมได้สูงสุดถึงวันละ 34 ครั้ง   ได้กาซมากถึงวันละ 8 ลิตร    การหมักหมมของอาหารในกระเพาะและลำไส้ทำให้เกิดกาซมีเทนขึ้นมาคล้ายกับกาซมีเทนจากธรรมชาติ   ต่างแต่ว่ากาซมีเทนธรรมชาติเกิดใต้ผิวโลกด้วยเวลานานนับล้านปี   แต่กาซมีเทนใหม่นี้จะสามารถผลิตได้ในลำไส้ของคนภายในวันเดียวเท่านั้น”

    ชายร่างสูงผิวคล้ำสบตาทุกคนในห้อง  “เราจะพลิกโฉมธุรกิจและแหล่งผลิตกาซของเราจากใต้พิภพให้มาอยู่ในท้องคนทุกคน   เริ่มด้วยการรณรงค์ให้พลเมืองโลกกินอยู่ในลักษณะที่จะทำให้เกิดกาซมากที่สุด   เช่น  สนับสนุนให้กินอาหารประเภทไขมันและถั่ว   ส่งเสริมการกินอาหารแบบเร่งรีบ  รสจัด  และย่อยยากให้มากขึ้นให้ได้   บริษัทจะแจกจ่ายถังบรรจุกาซขนาดพกพาสะดวกให้พอเพียงสำหรับทุกคนได้ใช้เก็บกาซผายลมของตัวเอง   เมื่อถังบรรจุกาซเต็มแล้วพวกเขาก็สามารถเอามาขายกับบริษัท   สถานีย่อยรับซื้อกาซประจำแต่ละเมืองจะถูกต่อท่อมาที่โรงงานแยกกาซประจำภูมิภาคผลิตมาใช้งานต่อไป   เป็นอย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุดตราบใดที่คนยังมีระบบย่อยอาหารและขับถ่ายใช้การได้ทุกวัน   โจทย์ของเราขั้นต่อไปคือการวิจัยเพิ่มขีดความสามารถในการผายลมของคนขึ้นไปอีก  เช่นการใช้วิศวพันธุกรรมเพิ่มความยาวลำไส้และเอมไซม์ที่ช่วยให้เกิดกาซจากอาหารมากที่สุด   หรือการคิดค้นสูตรอาหารที่กินแล้วจะทำให้ผายลมทั้งวัน”

    “ความคิดเข้าท่า   โรงงานผลิตกาซเคลื่อนที่หนึ่งหมื่นสองพันล้านเครื่องกระจายอยู่ทั่วโลก”  ดูบัวร์ผู้บริหารหนุ่มในโต๊ะประชุมนึกภาพตาม

    “แต่การทำให้คนผายลมทั้งวันและหาทางให้เขาผายลมมากขึ้นเรื่อยๆเพื่อการค้าของเราดูจะทำให้คนเหมือนเครื่องจักรเกินไปไหม”  พรพรรณแย้งจนผู้เสนอความคิดหันมาสบตา

    “มิสพรพรรณครับ   แล้วทุกวันนี้คนมีอะไรที่ต่างจากเครื่องจักรบ้างหรือครับ”

      ท่านดอนกระแอมออกมาครั้งหนึ่ง   เสียงคุยในห้องเงียบลง   ชายวัยกลางคนมาดราวเจ้าพ่อถอนหายใจเบาๆก่อนขยับเก้าอี้ที่นั่งเข้าหาโต๊ะ  

    “นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ  ทั้งทางธุรกิจ  ทางอุตสาหกรรมพลังงาน  ทางพันธุกรรม  และอะไรอีกมากมาย   หลังจากที่เราริเริ่มโครงการนี้แล้วโลกจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีก”  ชายหัวโต๊ะมองหน้าทุกคน   ห้องประชุมเงียบไปอีกอึดใจ  

    “แต่เพื่อความอยู่รอดของโกลบอลกาซ   เลวร้ายกว่านี้เราก็ทำได้”


    ข่าวเรื่องแผนธุรกิจกาซชีวภาพโดยใช้มนุษย์สะพัดออกไปทั่วโลกทันทีที่ห้องประชุมเปิดออก   เริ่มจากข่าวลือปากต่อปาก   การสัมภาษณ์แหล่งข่าวระดับสูงที่ไม่เปิดเผยชื่อ   เอกสารลับของบริษัทที่หลุดมาถึงมือนักข่าว   จนกระทั่งบริษัทโกลบอลกาซออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ   แม้ข่าวนี้จะทำให้ประชาชนวิตกแต่ก็ดูไม่มีใครแตกตื่นมากนัก   ทุกคนรู้ดีแก่ใจว่าสักวันหนึ่งเมื่อพลังงานกาซธรรมชาติหมดไปก็ต้องหาพลังงานอื่นๆมาทดแทนให้ได้ไม่ว่าพลังงานนั้นจะเป็นอะไร   และเมื่อรู้ว่าพลังงานแหล่งต่อไปคือกาซภายในท้องของตน  พวกเขาก็ตระหนักถึงสภาวะไร้ทางเลือกอื่นใดในที่สุด   รายการตลกล้อเลียนมุขผายลมทุกวัน   ข่าวและสารคดีนำเสนอข้อมูลกาซชีวภาพพลังงานมนุษย์อย่างละเอียดที่ยิบทุกชั่วโมง   ในที่สุดโพลสำรวจความเห็นพบว่าคนส่วนใหญ่ค่อยๆยอมรับโครงการใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น


    3 ธันวาคม บริษัทโกลบอลกาซกระจายถังบรรจุกาซขนาดพกพาไปยังสถานีรับซื้อ
    กาซทุกแห่งเพื่อแจกฟรี   มีผู้คนสนใจรับไปทดลองใช้จำนวนมาก

    6 ธันวาคม เริ่มพบว่ามีการกักตุนถังบรรจุกาซเนื่องจากสังเกตประชาชนบางคนมารับ
    แจกถังบรรจุกาซบ่อยผิดปกติ   สืบพบว่ามีการเตรียมกักตุนกาซเพื่อรอขายอย่างเป็นขบวนการ

    12 ธันวาคม แหล่งกาซธรรมชาติแหล่งสุดท้ายนอกอ่าวเบงกอลปิดตัวลง  ไม่มีกาซ
    ธรรมชาติใต้พื้นพิภพอีกต่อไป   สถานีรับซื้อกาซทั่วโลกเปิดทำการรับซื้อกาซชีวภาพอย่างเป็นทางการ   สถานีโทรทัศน์ทุกช่องแพร่ภาพข่าวประชาชนนำกาซผายลมมายืนต่อแถวรอขายเป็นแถวยาว

    14 ธันวาคม บริษัทโกลบอลกาซเปิดโรงงานแยกกาซชีวภาพแทนโรงงานกาซธรรมชาติ   มีการสำรวจความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับความรู้สึกหลังจากโลกเปลี่ยนมาใช้กาซชีวภาพในชีวิตประจำวัน   พบว่าร้อยละ 92 ตอบว่ากาซชนิดใหม่นี้ให้พลังงานสูงกว่ากาซธรรมชาติมาก   แต่จากการวิเคราะห์พบว่าเป็นเพียงอุปาทานเท่านั้น

    20 ธันวาคม ผู้บริหารบริษัทโกลบอลกาซแถลงข่าวความสำเร็จในการใช้กาซชีวภาพทดแทนกาซธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ   และแถลงถึงวิสัยทัศน์ในการจะผลิตกาซชีวภาพจากการผายลมของสัตว์อีกทางหนึ่ง

    21 ธันวาคม เกิดการกว้านซื้อหมูและวัวรวมถึงพื้นที่ทำปศุสัตว์เป็นวงกว้างทั่วโลก   ราคาสัตว์ใหญ่พุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์  

    22 ธันวาคม ผู้บริหารบริษัทโกลบอลกาซออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการผลิตกาซจากสัตว์เป็นเพียงแผนระยะยาวเท่านั้น   จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแหล่งผลิตกาซที่นอกเหนือจากคนในรอบสิบปีนี้

    23 ธันวาคม ราคาสัตว์ใหญ่ทั่วโลกตกต่ำเป็นประวัติการณ์

    ================ (มีต่อ) ================

    แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 48 15:06:44

    จากคุณ : ธามาดา - [ 1 ก.ย. 48 14:19:44 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป