เรื่องสั้น รักษาชุ่ยๆอย่างนี้ต้องฟ้องเสียให้เข็ด
1
หมอสันต์เป็นหมอที่ชำนาญทางด้านอายุรศาสตร์ การเป็นแพทย์เฉพาะทาง ทำให้หมอสันต์เก่งแต่ในส่วนที่ตัวเองศึกษามา แต่มักจะรู้สึกตัวว่าโง่ในส่วนที่ไม่ชำนาญ การแพทย์ยุคใหม่เป็นเช่นนี้เอง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย เมื่อวานก่อนเขาจึงได้เขียนแบบฟอร์มปรึกษาแพทย์แผนกสูตินรีเวชไปหนึ่งราย
ตั้งแต่เมื่อเย็นวานผู้ป่วยรายนั้นถูกย้ายไปที่ตึกนรีเวช ต่อมาหมอสันต์ได้รับรายงานจากพยาบาลว่า ผู้ป่วยถูกนำตัวไปรับการผ่าตัดฉุกเฉินกลางดึก หลังผ่าตัดอาการไม่ค่อยน่าไว้วางใจ จึงต้องรับไว้ในห้องไอซียู ด้วยความเป็นห่วงผู้ป่วยรายนั้น เช้านี้เขาจึงเดินตรงมาที่ห้องไอซียูเพื่อเยี่ยมไข้
หมอสันต์เดินด้วยท่าทางคล้ายจะรีบเร่งอันเป็นบุคลิกเฉพาะตัว ในใจคิดตรึกตรองถึงประวัติการเจ็บป่วยของนางทองดี เขาไม่แน่ใจว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นตรงไหนในการดูแลรักษาเธอ
เมื่อสองวันก่อนอาการของเธอยังดูดีอยู่เลย แต่วันนี้เธอกลับต้องมานอนในห้องที่มีการดูแลอย่างใกล้ชิดที่สุดของโรงพยาบาล หรือจะคิดอีกอย่างหนึ่งก็ได้ว่า ขณะนี้เธอมีอาการหนักแทบที่สุดในบรรดาผู้ป่วยทั้งหมดซึ่งนอนรักษาอยู่ในโรงพยาบาล
นางทองดีหญิงไทยคู่วัยสามสิบแปดปี มาด้วยอาการสำคัญคือ ปวดท้องและท้องเสียหนึ่งวันก่อนมาโรงพยาบาล
เสียงให้ข้อมูลของหมอวิทยาแพทย์ใช้ทุนประจำตึก ตั้งแต่การเยี่ยมไข้เมื่อวานก่อน ยังดังอยู่ในความทรงจำ วันนั้นเขาซักประวัติและตรวจร่างกายเธออย่างละเอียดอีกที แต่ก็ไม่ได้อะไรเพิ่มเติมมากนัก จึงเห็นด้วยกับหมอวิทยาว่าอาการแสดงเข้าได้กับโรคท้องเสีย
สองวันก่อนเมื่อแรกรับคนไข้รายนี้ นางทองดีมีอาการอ่อนเพลียและท้องอืดร่วมด้วย เขาจำสีหน้าอมทุกข์ของเธอได้ เธอมีแววตาซื่อๆ ใบหน้าของเธอดูจะติดตาเขา เพราะดั้งจมูกแบนเกือบราบตามแบบฉบับของคนอีสาน เธอแสดงความวิตกเนื่องจากการเจ็บป่วยของเธอมีผลต่อการดำรงชีวิตของคนในครอบครัว
อาการของเธอคือปวดไปทั่วๆท้องแต่ไม่รุนแรง เขาจำได้ว่าในวันนั้นได้ลองกดหน้าท้องเพื่อตรวจอาการแล้ว ตอนนั้นยังก็ไม่เห็นมีอาการแสดงอะไรจริงๆ เธอบอกเขาว่าก่อนหน้านี้เธอก็สบายดีมาตลอด บางครั้งอาจมีอาการอ่อนเพลียจากการหว่านกล้าทำนาบ้าง แต่เธอคิดว่านั่นเป็นเรื่องธรรมดา
มาด้วยอาการแค่นี้เอง ดูเหมือนไม่มีอะไร ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ปริศนานี้ทำให้หมอสันต์ต้องครุ่นคิด เพื่อหาสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้
มันมีโอกาสที่จะเป็นไปได้มากกว่าสามสิบโรค มีหลายโรคที่ทำให้แพทย์หัวหมุนและตกหลุมพราง รายนี้อาจไม่ใช่โรคในสาขาวิชาอายุรศาสตร์ ดูเหมือนน่าจะเป็นโรคของสาขาอื่นมากกว่า คงส่งเข้ามารักษาผิดแผนก อาการปวดท้องกับท้องเสียแค่นี้แหละยากสุดๆ ทำให้เสียหมอมามากแล้ว
เขาเดินไปคำนึงไป เหตุเพราะการวินิจฉัยของนางทองดีเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 48 16:36:42
จากคุณ :
วรุณนฤมล
- [
1 ก.ย. 48 21:48:24
]