---คำเตือน : เนื้อหาในบางตอนของบทความนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี และควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน---
มนุษย์เป็นสัตว์โลกชนิดเดียวที่มีความต้องการทางเพศอย่างไม่มีกำหนดเวลา ความต้องการทางด้านนี้ล้วนแตกต่างออกไปจากสัตว์โลกชนิดอื่นๆที่มีฤดูกาลเป็นตัวกำหนดและควบคุมสงวนเอาไว้เฉพาะกิจเพื่อดำรงสืบรักษาเผ่าพันธุ์มากกว่าที่จะกระทำไปด้วยความหฤหรรษ์ชั่วครั้งชั่วคราวประเดี๋ยวประด๋าวเหมือนมนุษย์
มนุษย์ไม่มีขีดจำกัดว่าความต้องการทางเพศนี้มันจะหมดสิ้นลงไปเมื่ออายุขัยเท่าไร..บางคนอาจจะมีมันติดตัวไปตลอดชั่วชีวิตจะหาไม่ก็ย่อมเป็นได้
- เรียกว่ามีตัณหาทางเพศจวบสิ้นวาระสุดท้ายของชีวิต.
คำว่า ตลอดชีวิต ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีมันไปจนกระทั่ง แก่ เพราะเป็นไปได้ว่าบางผู้บางคนอาจจะล้มหายตายจากก่อนแก่ ก่อนอายุอันควร (ชราภาพ) ด้วยโรคติดต่ออันเกิดจากความสำส่อนทางเพศของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยว-มั่วทั้งกับหญิงหรือชายขายบริการทางเพศที่มีทั้งมืออาชีพและสมัครเล่นดารดาษเต็มเมืองศิวิไลซ์
-0-
ความต้องการทางเพศจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมี ความอยาก--ความอยากตัวนี้ก็คืออารมณ์ทางเพศดีๆนั่นเอง..แล้วเมื่อไหร่เราถึงจะมีอารมณ์ที่ว่านี้ล่ะ? คำตอบที่ได้สำหรับตนเองก็คือ..เมื่อมี สิ่งเร้า มาคอยยั่วยุให้อารมณ์แตกระเบิดกระเจิดกระเจิงนั่นละ
สื่อสิ่งเร้าที่เย้ายวนปลุกปั่นให้เกิดอารมณ์ฯในยุคคนรุ่นผมนั้นมีไม่มาก ว่ากันตรงๆไม่มีเสแสร้งแอบแฝงเหมือนกับในยุคสมัยนี้ นั่นคือหนังโป๊ หนังสือโป๊ และปฏิทินโป๊...หยุดคิดสักพักก็ไม่ได้อะไรโป๊ขึ้นมาอีก--สงสัยอยู่เหมือนกันว่ายุคนั้นทำมันหาอะไรโป๊ได้ยากจัง
หนังโป๊--ถ้านิยมจับกลุ่มรวมดูกันตามบ้านในวันที่เลิกเรียนเร็วกว่าปรกติ ก่อนเวลาพ่อ-แม่จะกลับนั้นหนีไม่พ้น วีดีโอโป๊ ที่ต่างเสาะแสวงหาจากร้านเช่าเจ้าประจำของแต่ละคน บางร้านก็ไม่มี บางร้านมีแต่ไม่ยอมให้เช่าเนื่องเพราะกลัวพวกเราเช่าแล้วจะไม่ยอมเอามาคืน หรือไม่ก็กลัวว่าจะปู้ยี่ปู้ยำเทปกรอกลับไปกลับมาจนใช้การต่อไปไม่ได้
โธ่--ไม่น่าคิดมากขนาดนั้น!
สำหรับร้านที่ให้เราเช่าต้องคอยกำกับเจ้าของร้านว่าอย่าบอกคนในบ้านให้รู้เป็นอันขาด เนื่องเพราะร้านเช่าวีดีโอแต่ละร้านเป็นร้านประจำครอบครัวของเพื่อนแต่ละคน..การกระทำดังกล่าวนี้ขอบอกนะครับว่า ทุกระยะเวลาที่เนื้อเทปสัมผัสกับหัวอ่าน พวกเรากระทำอย่างมิดชิดอย่างหลบๆซ่อนๆ แม้กระทั่งเสียงที่เปิดนั้นยังต้องคอยเงี่ยหูฟัง!
นอกจากหนังโป๊ที่บันทึกลงตลับเทปแล้วมักหาชมได้ตามโรงภาพยนตร์ชั้นสองที่นิยมฉายเรื่อง-สองเรื่องควบตลอดวัน ส่วนใหญ่เป็นหนังเรต-R นิยมตั้งชื่อเรื่องอะไรที่มันลงท้ายด้วยคำว่า สวาท-สวาท นี่ละ (แมวสีสวาทไม่เกี่ยว) ผมเคยเข้าไปดูเพียงแค่หนเดียว บอกตามตรงไม่ได้เรื่องเลยครับ ทั้งตัวหนังที่ตัดต่อจนดูแทบไม่รู้เรื่องเหมือนเอาสองเรื่องมายัดใส่เข้าด้วยกัน--2 in 1..อีกทั้งบรรยากาศในโรงนั้นก็สกปรกมาก ขนาดที่ว่าทนนั่งดูให้คุ้มกับค่าตั๋ว 20 บาทต่อไปไม่ไหวเพราะหนูมันวิ่งยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ครั้นเมื่อออกมาจากโรงหนังยังต้องรีบเดินให้พ้นเร็วๆเพราะกลัวจะเจอคนรู้จัก โดยเฉพาะเพื่อนหญิง--มันอายครับ
หนังสือโป๊--ไม่ว่าจะเป็นนู้ดหรือไม่นู้ดสมัยนั้นพวกเราเหมารวมเรียกว่าหนังสือโป๊ทั้งหมด เพียงแค่ดาราใส่ชุดว่ายน้ำขึ้นปกนิตยสารเพื่อนบางคนก็บอกว่าโป๊แล้ว--เอากับมันสิ
หนังสือโป๊อีกชนิดหนึ่ง (นอกเหนือจากเรื่องสั้นแนวสยิว) ที่พวกเราเรียกมันว่า การ์ตูนโป๊ หรือเรียกอย่างสุภาพตามที่ได้ระบุไว้บนหน้าปกว่า นิยายภาพสำหรับผู้ใหญ่ บางเล่มบางเรื่องลายเส้นสวยงามไม่หยาบแลดูน่าเกลียดเหมือนกับนิยายผีสามบาท!
นิยายภาพเหล่านี้มีทั้งที่เป็นของคนไทย-ญี่ปุ่นวาดและเขียนเรื่อง ภาษาที่ใช้เป็นบรรยายนั้นล้วนเป็นภาษาระดับเดียวกันทั้งหมดทุกเรื่องเล่ม คือภาษา ชาวบ้าน
- สำนวนโจ่งครึ่มชัดถ้อยสมบูรณ์ในความหมาย ไม่ต้องแปรซ้ำ--Oh, Yeah!
ปฏิทินโป๊--สื่อนี้พวกเรามักได้เห็นในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ที่ส่วนใหญ่เป็นการจัดทำจากผู้ผลิตสุรายี่ห้อต่างๆ พิมพ์แจกให้ตามร้านค้าโชห่วย อันที่จริงมันก็ไม่ได้โป๊อะไรนักหนาหรอกครับ เพียงแค่นางแบบนุ่งน้อยห่มน้อยโชว์เนินถันของตัวเองแล้วเอาดอกไม้ปิดตรงปลายถัน ทำหน้าทำตาห่อปากหรี่ตาให้ดูได้อารมณ์ เรียกน้ำย่อยยั่วน้ำลายผู้เฒ่าผู้แก่ตลอดจนลูกเล็กเด็กแดง แปะติดอยู่ตามเสาและข้างฝาร้าน เรียกลูกค้าเข้าร้านได้อย่างดี
- นางกวักก็นางกวักเถอะ ฮึ่ม--วางมือไปก่อน!
สื่อโป๊ทั้งสามโป๊ในยุคของผมเท่าที่ได้สัมผัสในช่วงเวลานั้นเห็นจะมีเพียงเท่านี้ มีน้อยมาก อีกทั้งยังถูกจำกัดด้วยการเสาะแสวงหาให้ได้มาครอบครอง เทียบกับยุคสมัยนี้ไม่ได้เลย..คุณอยากดูหนังโป๊หรือ โน่น--ไปโน่นเลย ตลาดคลองถม บริเวณหน้าโรงหนังเจริญกรุง อย่าแปลกใจนะครับถ้าหากคุณกำลังเดินอยู่บริเวณนั้นแล้วมีคนเข้ามาถามว่า เอาโป๊มั้ยพี่? แล้วถ้าไม่เห็นสินค้าก็ไม่ต้องด่วนแปลกใจอีก สั่งเขาไปเถิดว่าอยากได้แบบไหนทั้งแบบ ปรกติ และ ไม่ปรกติ มีทั้งนั้นแหละพี่--เดี๋ยวจะไปเอามาให้ ช่วงนี้วางขายไม่ได้ ท่าน สั่งมาให้ซาๆลงหน่อย อย่าวางขายประเจิดประเจ้อกันนัก
หรือคุณอยากดูดาราใส่ชุดว่ายน้ำวาบหวิวก็มีครับ โน่น--แผงขายหนังสือทั่วไป นิตยสารชั้นนำยุคนี้เขานิยมแข่งกันจับดารามาใส่ชุดว่ายน้ำ วันพีซ-ทูพีซ มาขึ้นปกด้วยกันทั้งนั้น สื่อประเภทนี้ถ้าสมาชิกในครอบครัวคนใดซื้อไปรับรองว่าได้เห็นได้ชมกันทั้งบ้านจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่แสนจะธรรมดา เคยชินกันไปหมดแล้วทุกครัวเรือน
ยัง..ยังไม่หมดขอแถมท้ายอีกสักนิด หากอยากจะดูดาราวัยรุ่น-วัยทีนโชว์เนินหน้าอกหน้าใจ ขอเพียงท่านเสียบปลั๊กและกดสวิตช์เปิดเครื่องรับโทรทัศน์ ทั้งละคร เกมส์โชว์ วาไรตี้ และ ฯลฯ มีให้ชมได้เห็นกันเต็มตาส่งถึงเข้าทุกครัวเรือนด้วยเหมือนกัน--Yeah! ดังๆอีกที
การแต่งกายล่อแหลมนุ่งรัดฟิตเปรี๊ยะ สายเดี่ยวเกาะอกนั้นก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งเร้ายั่วยวนให้เกิดอารมณ์และความต้องการเพศได้เหมือนกัน แตกต่างกันที่ว่าในยุคสมัยที่ผมเติบโตมา สิ่งเหล่านี้แทบไม่มีให้เห็นกันได้ตามที่สาธารณะ จะสงวนเอาไว้ให้กับหญิงสาวที่ประกอบอาชีพพิเศษหากินในตอนกลางคืนเท่านั้นละ
บรรดาหญิงสาวรักดีรุ่นผมแต่งกายกันมิดชิดกันจะตาย ประเภทเสื้อยืดตัวหลวมโครก สวมกางเกงยีนส์ นุ่งกระโปรงยาวครึ่งน่อง มองดูแล้วน่ารัก น่าทะนุถนอมมากกว่าจะให้คิดลึกทะลึ่งลามก
เชอะ! แม้แต่ขาอ่อนของชั้น ก็ไม่มีวันได้เห็นเสียละ--นั่นคือประโยคเด็ดๆของบรรดาสาวๆสมัยนั้น
- สำหรับยุคสมัยนี้เห็นแล้วต้องร้อง Wow!--แม่เจ้าเว้ย!!
-0-
โสเภณี--อาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก..หลายตำราว่าไว้เช่นนั้น ในยุคก่อนๆโน้นในราชสำนักของประเทศต่างๆล้วนมีหญิงสาวกลุ่มนี้เอาไว้บริการต้อนรับบรรดาแขกบ้านแขกเมืองที่เข้ามาติดต่อสร้างความสัมพันธ์เจริญไมตรี ที่บ้านเราเรียกว่า หญิงงามเมือง แต่ขอโทษ--ในยุคสมัยนั้นเขาไม่ได้คิดขายตีราคาค่าตัวเป็นชั่วโมงนาที พวกคุณเธอเป็นหญิงที่ถือว่ามีเกียรติมีศักดิ์นะขอรับ ด้วยถือเอาเป็นราชการงานเมืองส่วนหนึ่งที่สามารถโน้มน้าวเอาผลประโยชน์เข้าบ้านเราได้ พูดก็พูดเถอะพวกเธอนั้นเปรียบเสมือนทูตสันถวไมตรีดีๆนั่นเอง แขกเมืองหลายต่อหลายคนอาจถึงขั้นตกหลุมหลงเสน่ห์ในลีลาการปรนนิบัติของพวกเธอจนชี้นกบอกเป็นไม้ ชี้ไม้บอกเป็นนกก็เออออห่อหมกกันไปหลายต่อหลายคน และบางรายถึงกับยื่นข้อเสนอขอตัวไปชุบเลี้ยงอย่างดีก็มีถมไป
ย้อนกลับไปไกลกว่านี้..ในยุคสมัยอาณาจักรโรมันก็มีหญิงงามเมืองเช่นกัน หน้าที่ของพวกเธอจะคอยทำหน้าที่ปลดเปลื้องความต้องการให้กับบรรดาเหล่าทหารกล้าที่กลับจากสมรภูมิ คุณเธอเหล่านี้ต่างก็มีเกียรติมีศักดิ์เสมอเทียบเท่าคนในสังคมทั่วไป แต่ผมว่าน่าจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ อย่างน้อยก็คงมีหลายเสียงจากบรรดากระทาชายทั้งหลายร้องสนับสนุนละ!
ในเมื่อมันเป็นอาชีพที่มีเกียรติและได้รับการยกย่องเช่นนี้ ผนวกกับการอยู่กินที่ดี แถมยังมีความสุขทุกวันด้วยแล้ว หญิงไหนบ้างที่จะไม่ถวิลหาโอกาสที่ว่านี้--หลายคนสมัครใจที่จะทำโดยมิได้มีใครบังคับข่มขู่
ย้อนกลับมาที่โลกยุคร่วมสมัย..อดีตเมื่อสัก 30-40 ปีก่อน โสเภณีในบ้านเมืองเราสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ หนึ่ง--ประเภทสมัครใจอันเนื่องมาจากปัญหาความยากจนในครอบครัว สอง--ประเภทถูกล่อลวงไปขายให้กับซ่องตามหัวเมืองใหญ่ของหลายๆจังหวัดตามภูมิภาคต่างๆ ที่นิยมกันมากคือกรุงเทพฯ และทางหัวเมืองทางใต้ สินค้าที่ได้รับความนิยมมักจะมาจากทางเหนือ
ผมเกิดไม่ทันโตในยุคที่เมืองไทย หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งคือกรุงเทพฯเต็มไปด้วยซ่องโสเภณี รู้เพียงจากปากคำของคนรุ่นก่อนว่า ถ้าอยากเที่ยวซ่องให้ไปย่านบางขุนพรหม สำเพ็ง-โรงน้ำชา สนามหลวง-ผีมะขาม หลังกระทรวง-ผีขนุน และสวนลุมฯ-ไก่หลง หรือถ้าอยากได้ประเภทมี คลาส ให้ไปตามค็อฟฟี่ช็อป ไนท์คลับ เล้านจ์ บาร์ และอาบอบนวด แต่ต้องกระเป๋าหนักสักหน่อยเท่านั้น
ปัจจุบันสถิติ คุณตัว ที่ถูกบังคับล่อลวงมาขายบริการทางเพศนั้นมีจำนวนลดลง แต่ประเภทที่สมัครใจขายของเก่ากินนั้นนับวันมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้น และไม่ได้กระทำเนื่องด้วยปัญหาความยากจนเป็นพื้นฐานอีกต่อไป--กระทำเพื่อแลกเปลี่ยนตอบสนองความต้องการทางด้านวัตถุของตนเองเป็นที่ตั้ง เคยได้ยินไหมครับว่าหญิงสาวในหมู่บ้านหมู่หนึ่งนิยมประกอบอาชีพขายบริการทางเพศเพื่อเอาเงินที่ได้ไปซื้อเครื่องรับโทรทัศน์ รถกระบะ มอเตอร์ไซค์ และอื่นๆอีกจิปาถะ กระทั่งกลายเป็นค่านิยมให้กับเด็กหญิงที่จะเติบโตเป็นสาวในวันหน้ากันไปแล้ว
- โตขึ้นหนูอยากเป็นกะหรี่!!
Ha!--ประโยคนี้เป็นมุกที่พวกตลกคาเฟ่เถื่อนๆถ่อยๆมักนิยมเล่นกัน มันอาจจะดูตลกในสถานที่นั้น แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงมันกลับเป็นเรื่องที่ไม่ตลกเลย
- สำหรับผมมันกลายเป็นเรื่องชีวิต บัดซบ ลงไปในทันที หัวเราะไม่ออ--Holy Shit!
....................
ผมเคยตกกระไดพลอยโจนไปนั่งดื่มเบียร์ที่โรงแรมชื่อดังย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่กับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง บริเวณด้านหน้าของโรงแรมจัดแต่งเหมือนค็อกเทลเลานจ์ ผมไม่เคยไปมาก่อนจึงไม่รู้เลยว่าเพื่อนจะมาหิ้วหญิงบริการ แต่เอาเถอะเป็นอย่างไรเป็นกัน ในเมื่อเพื่อนบอกถ้าเอ็งไม่ เอา ก็นั่งจิบเบียร์แกล้มบรรยากาศไปให้สบายอุรา
เมื่อเข้าไปข้างในพบเห็นแต่หญิงสาวทั้งนั้น อายุกะเกณฑ์โดยเฉลี่ยแล้วน่าจะมีตั้งแต่ 18-30 ต้นๆ แต่ละคนหน้าตาหน้าตาโดยรวมถือว่า เช้ง ครับ มองไปมองมาสายตาของผมก็ไปสะดุดกับสาวน้อยคนหนึ่ง--อายุไม่น่าถึงยี่สิบ สนใจที่ว่าเมื่อตอนที่พวกผมเข้ามานั่งได้สักพัก เธอได้เดินผ่านโต๊ะเราไปกับชายวัยกลางคนคนหนึ่ง เดินไปทางตึกโรงแรมทางด้านหลัง ประมาณ 45 นาทีเธอผู้นั้นก็เดินกลับเข้ามาด้วยอาการโผเผๆ ..แข้งขาดูอ่อนเรี่ยวแรง เธอเดินไปนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ได้สักพักก็ลุกไปร่วมโต๊ะชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง แล้วเธอก็ถูกไอ้หนุ่มหนึ่งในกลุ่มนั้นหิ้วเดินไปยังตึกโรงแรมทางด้านหลัง..แล้วเธอก็กลับเข้ามาเมื่อเวลาผ่านไปได้เกือบหนึ่งชั่วโมงด้วยอาการอ่อนระโหยโรยแรงกว่าคราวแรก ผมเฝ้ามองดูการกระทำของเธอวนเวียนอยู่เช่นนี้อีกสองรอบ
- ผมปิ๊งเธอ!
เหมือนเพื่อนรู้ทันว่าผมสนใจตัวเด็กสาวจึงส่งสัญญาณเรียกให้เธอมานั่งร่วมโต๊ะ เขาทำหน้าที่เจรจาต่อรองสอบถามราคาทันที--เท่าไหร่?
เธอส่ายหน้า เธอบอกว่าจะกลับหอแล้ว..เช้ามีเรียน ถ้าพี่จะขึ้นกับหนูต้องพรุ่งนี้--1,800 ค่ะ..ไม่รวมค่าโรงแรม..จากนั้นเธอจึงลุกจากไป ผมมองตามหลังเธอจนร่างที่ดูอ่อนเรี่ยวแรงนั้นลับหายไปเมื่อบานประตูกระจกสีดำทึบแง้มกลับปิดเข้าที่
หลังจากเพื่อนๆหิ้วน้องหนูขึ้นห้องหมดแล้ว ผมยังคงนั่งกระดกเบียร์ที่เหลือไปพร้อมๆกับคำถามที่ตั้งอยู่ในใจว่า ขึ้น-ไม่ขึ้น สลับไปมาจนเบียร์หมดขวดนั่นละจึงตัดสินใจได้
- กลับบ้านเว้ย!
บริเวณหน้าโรงแรมเวลาราวห้าทุ่มเศษนั้นคลาคล่ำเต็มไปด้วยเด็ก..สาวบ้างยืนเดี่ยว บ้างจับกลุ่ม ผมพยายามมองหาแท็กซี่สักคันเพื่อที่จะรีบไปให้พ้นจากสถานที่นั้น พ้นจากที่ซึ่งอวลไปด้วยกลิ่นเครื่องสำอางประทินโฉม--ผมเกลียดกลิ่นแบบนี้มันชวนคลื่นเหียนอย่างพึลึก
อย่าเที่ยวผู้หญิงนะลูก--คำพูดของแม่ผุดเข้ามาในโสตประสาทเหมือนตอกย้ำเป็นบทสรุปให้กับคำตอบสุดท้าย
(มีต่อ)
แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 48 12:14:36
แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 48 12:11:56
แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 48 12:11:00
แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 48 12:10:23
จากคุณ :
อานันท์-โจนาธาน
- [
2 ก.ย. 48 16:34:15
]