CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เธอไม่ใช่แสงดาว (3) ตอนจบค่ะ

    ตอนที่ 1
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3702933/W3702933.html

    ตอนที่ 2
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3705176/W3705176.html


           งานเสร็จแล้ว  รตาถอนหายใจอย่างปลอดโปร่งเมื่อปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ลง  หากก็เหมือนกับทุกครั้ง  ที่หลังจากทำงานเสร็จ  เธอจะมีอาการปวดหัวรุมๆ  เหมือนจะเป็นไข้  จนต้องกินยาแก้ไข้แล้วดื่มน้ำตาม  ก่อนจะมานั่งหลับตานิ่งๆ  อยู่บนโซฟากลางห้อง  บอกตัวเองว่าต่อไปนี้จะทำงานอย่างมีระบบ  จะได้ไม่ต้องหามรุ่งหามค่ำให้ร่างกายทรุดโทรมอย่างนี้อีก  เพราะใกล้ถึงกำหนดส่งทีไร  รตาจะปวดหัวตัวร้อน  ด้วยความอ่อนเพลียแบบนี้ทุกทีไป  เพียงแต่คราวนี้ออกจะหนักอยู่สักหน่อย

              คืนนี้เงียบเสียเหลือเกิน  ไม่มีเสียงโทรศัพท์ทั้งจากธเนศและภาวัต  และเธอเองก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่า  จะเป็นสุขเมื่อได้รับโทรศัพท์จากใครมากกว่ากัน  รู้แต่ว่าตัวเองเหงา  และความเงียบของห้องก็กำลังจะทำให้เธอร้องไห้  รตาควานหารีโมทโทรทัศน์  ก่อนจะกดเปิดอย่างเหม่อๆ  ไม่ได้สนใจจะดูจริงจัง  เพียงอยากได้เสียงเป็นเพื่อนเสียมากกว่า  หากเปิดมาก็เจอกับละครเรื่องใหม่ของธเนศ  ซึ่งแม้เพิ่งออนแอร์ได้เพียงสองอาทิตย์  แต่เรตติ้งก็กระฉูดอย่างไม่มีคู่แข่ง  
           
             น่าแปลก..วินาทีนั้นเธอกลับนึกถึงภาวัต  ที่เคยมานั่งๆ นอนๆ ดูละครหลังข่าวเป็นเพื่อนเธออยู่จนดึกดื่น  พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ละครชนิดที่ผู้จัดมาได้ยินคงเป็นลม  จนเธออยากบอกให้ไปกำกับเองเสียดีไหม

              โดยเฉพาะละครที่ธเนศเล่น  ที่รตาใจจดใจจ่อคอยชมเสียเหลือเกินนั่นแหละ  เขาจะนั่งลงดูอย่างสนใจ  แล้วลงมือติ ติ ติ และติ  ติทุกอย่างตั้งแต่กระดุมเสื้อนางเอกไปจนถึงถุงเท้าพระเอก  ด้วยถ้อยคำประเภท

             "อี๊  หน้าตี๋แล้วยังใส่ถุงเท้าสีเทา  ไม่ได้เข้ากันเล้ย  สงสัยจริงว่าใครเป็นคนจัดเสื้อผ้าให้นายคนนี้"

             เธอต่างหากที่สงสัย  ว่าหน้าตี๋แล้วมันเกี่ยวกับถุงเท้าสีเทาตรงไหนกันนะ?
           
             รตาหัวเราะให้กับความทรงจำนั้น  ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเหงาๆ  ในค่ำคืนที่อ่อนล้า  อยากคุยกับใครสักคน  น่าแปลกที่คนที่เธอนึกถึงกลับเป็นภาวัต  ไม่ใช่ธเนศ  ที่สองสามวันมานี้แวะเวียนมาหาเธออยู่ทุกเย็น  หากอยู่ได้ไม่นานก็ลากลับไปเพราะเห็นเธอวุ่นอยู่กับงาน

              รตาโผเผไปนอนบนเตียง  เมื่อรู้สึกว่าความปวดในศีรษะดูเหมือนจะทวีขึ้น  แต่ก็แข็งใจหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์ที่คุ้นเคย    วูบหนึ่งที่คิดละอายใจ  นี่เธอเป็นคนรักประเภทไหนกัน  ที่คอยแต่จะร่ำร้องหาเขา  ให้คอยปลอบโยนในวันที่อ่อนแอ  หากในวันที่เขาเป็นทุกข์บ้าง  เธอกลับออกไปดินเนอร์กับใครก็ไม่รู้หน้าตาเฉย

             ใช่ ! ใครก็ไม่รู้  น่าแปลกที่ในความเหงาจับใจ  ธเนศกลายเป็น "ใครก็ไม่รู้" มิใช่ "ดาว" ดวงเดิมที่เธอเฝ้ามองมาแสนนาน  ยามอยู่ใกล้เขา   มีแต่ความรื่นเริง  สนุกสนานก็จริง  แต่ดวงตาพราวระยับคู่นั้นก็ไม่เหมือนกับดวงตาอีกคู่  ที่ติดอยู่ในความคิดคำนึงของเธอเสมอ  ดวงตาที่อาจจะไม่มีแววหวาน  กระจ่างใสราวกับแสงดาวอย่างธเนศ  แต่ก็มีความอบอุ่น  อ่อนโยน  พร้อมจะปกป้องและคุ้มครอง  เป็นแววตาที่ไม่ว่ารตาจะกังวล  เป็นทุกข์กับเรื่องใด  เพียงดวงตาอบอุ่นคู่นั้นทอดมอง  ความหนาวเหน็บหรืออ่อนล้าเพียงใด  ก็มลายหายไปได้ในทันที

              และวันนี้เธอคิดถึงดวงตาคู่นั้นเหลือเกิน  รตาบอกตัวเองอย่างอ่อนระโหยเมื่อซุกตัวลงกับผ้าห่มผืนหนา  หนาวจนเริ่มสั่นไปทั้งตัว  และเมื่อสัญญาณโทรศัพท์บอกว่าไม่มีคนรับ  น้ำอุ่นๆ ก็หยดรินจากปลายตา  หรือเขาจะโกรธ  ภาวัตอาจจะได้เห็นหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นแล้ว  ฉบับที่ธเนศยื่นให้เธออ่านอย่างหัวเสียเมื่อตอนเย็น  บอกว่าจะเอาเรื่องนักข่าวคนนั้นให้ได้  เพราะทำให้ทั้งเขาและเธอเสียชื่อเสียง

            รตาอยากจะปฏิเสธ  อยากจะบอกว่าเธอไม่คิดว่ามันเป็นการเสียชื่อเสียง  หากได้ลงหนังสือพิมพ์คู่กับใครสักคนที่เธอรักและชื่นชม  เธออาจจะคิดว่ามันมีผลกระทบกับตัวเธอก็จริง  ในเมื่อเธอกำลังจะหมั้น  แต่เมื่อภาพที่ออกมาคือการนั่งกินอาหารกันธรรมดา  โดยมิได้มีกิริยา"หวานหยด" อย่างที่บรรยายไว้  และเธอคิดว่าคนอ่านอีกหลายล้านคนทั่วประเทศก็คงคิดเช่นเดียวกับเธอ  คือไม่คิดว่าจะเป็นการเสียชื่อเสียงจนต้องฟ้องร้องกัน  หรือสบถหยาบๆ คายๆ อย่างที่ธเนศทำอยู่ในตอนนี้  

            หากแล้ววินาทีนั้น  เธอก็ประจักษ์  ธเนศควรจะรู้สึกเฉกเดียวกัน  หรือพูดให้ถูก  เขาควรจะดีใจด้วยซ้ำ  ถ้าหากว่าเธอเป็นคนที่เขา "รักและชื่นชม" อย่างที่เธอรู้สึกกับเขา  

            แต่นี่เขาหัวเสีย  เห็นได้ชัดกว่าโกรธ  เมื่อถูกรุกล้ำความเป็นส่วนตัว  อย่างที่เขาบอกว่าให้อภัยไม่ได้  เธอควรจะเข้าใจซินะ ว่าเขาเป็นดาราดัง  ย่อมไม่อยากเสียแฟนละครเพราะเรื่องแบบนี้  แต่ก็นั่นแหละ  รตาไม่คิดว่าตัวเองจะมีความสุข  หากจะต้องเป็น"แฟน"ของเขา  แต่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ให้ใครรู้ไม่ได้

            นาทีนั้นเองที่เธอบอกตัวเองอย่างกระจ่างใจ  "ดาว"  มีไว้สำหรับมองและชื่นชมอยู่ไกลๆ  มิใช่เอื้อมมือไขว่คว้า  และยิ่งไม่ใช่สำหรับครอบครอง

            วัต  วัตจ๋า  รับโทรศัพท์เสียที  ตาแค่อยากจะบอกกับวัต  บอกว่าตาไม่ได้รัก"ดาว"ดวงนั้น  ตารักวัต  รักแสงเทียนอบอุ่นในดวงตาวัต  มิใช่แสงดาวสุกใสในดวงตาใครอีกคน

            คนคิดวกวนหลับไปเพราะพิษไข้  ก่อนจะงัวเงียตื่นขึ้นอีกครั้ง  เมื่อโทรศัพท์มือถือที่เธอวางไว้ข้างหมอนส่งเสียงดัง  สะท้อนก้องอยู่ในความเงียบของค่ำคืน  รตากดรับโดยไม่ได้มองด้วยซ้ำว่าเป็นใคร  ก่อนจะปล่อยโทรศัพท์หลุดจากมือในนาทีต่อมา

            รตาคิดว่าเธอตะโกนก้อง  หากเสียงที่รอดผ่านลำคอราวกับกระซิบ  แผ่วระโหย

            "วัต..  วัตกินยาตาย..  วัตน่ะหรอกินยาตาย  ไม่จริง.."

    -----------------------------------------------------

    จากคุณ : โยษิตา - [ 2 ก.ย. 48 17:10:07 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป