ถึง ถนนนักเขียนที่รัก
ความเดิมจาก กระทู้
@ เก็บมาเล่า: เอามาฝาก @ บทที่ 1 รำลึกความหลัง กับโปรเจคสุดท้าย.. http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3622838/W3622838.html
ตามที่อิฉัน ได้เคยสัญญิง สัญญา เอาไว้ว่าจะกลับมาเล่าเรื่องต่อหลังจากเลิกรับจ้างเรียนหนังสือมาฝากกัน วันนี้อิฉันก็มาตามสัญญา แม้ว่าจะช้าไปซะ ชาติครึ่ง เรียกได้ว่า ถ้าท้องก็คงปาไปเกือบ 5 เดือนได้มั้ง 555
ว่าแล้วก็อย่ากระนั้น ยืดเยื้อให้เสียเวลาแต่ประการใด เพราะแอบนายเล่น เดี๋ยวจะพาลตกงานก่อนเล่าจบ
ภายหลังจากการรับจ้างเรียนหนังสือ อิฉันก็เริงร่าอยู่ได้พักใหญ่ๆ หม่อมแม่ก็เริ่มซักไซร้ถึงหนทางต่อไปในอนาคตอันแสนไกลของอิฉัน ตอนนั้น ตัดสินจอะไรไม่ออกระหว่างการเรียนต่อ กับ การทำงาน และด้วยความที่เป็นคนเพื่อนรัก ใครๆ ก็ต้องการ จึงถูกฉุดไปสมัครเรียนปริญญาโทกับเพื่อนซะ ซึ่งเราเองก็แสนดีตามใจเพื่อนสุดๆ เออไปก็ไปวะ ไปสมัครเรียนต่อ ทั้งๆที่ในใจยังไม่รู้เลยว่าจะเรียนไปทำอะไร
ตอนสมัคร เราเลือกสาขาวิชา จุลชีววิทยาประยุกต์ ทั้งๆที่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเรียนมาทำไมหว่า.... ชอบไหม ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเป็นด้านหนึ่งที่ตัวเองทำได้ดีตอนเรียน ไปสอบข้อเขียน สอบสัมภาษณ์ จนเสร็จเรียบร้อย จนกระทั่งประกาศผล
แต่น แตน แต้นนนนนนน ผลปรากฎว่า ติดเจ้าค่ะ แถมชื่อขึ้นเป็นอันดับที่ 1 ( ไม่รู้ว่าเรียงชื่อตามอะไรเหมือนกัน 555 แอบเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน ) พ่อแม่ ก็แสนปลื้ม แต่เชื่อไหมว่าเราเองกลับไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ เพราะยังสงสัยอยู่ว่า เราต้องเอาเวลาไปเรียนอีกตั้งเกือบ 3 ปี โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบไหมเนี่ยนะ ส่วนเจ้าเพื่อนตัวดี ที่ไปด้วยกันคนนึง กลับไม่ติดซะงั้น ทั้งๆที่เธออยากเรียนมาก มันยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่
ระหว่างรอทำการมอบตัว ใจก็หวั่นไปถึงงานในอนาคต เรียนจบโทด้านนี้เราจะทำไรดีหว่า งานที่จะได้ทำ จะถูกใจเราไหม ลองหางานดูตามเวบว่าจบโทด้านนี้จะทำไรที่ไหนได้บ้าง เจอแต่งานนักวิจัย อาจารย์ นักวิชาการ เจ้าหน้าที่แลป โอ้วววววววว ตายแล้วววววว อิฉันยังไม่อยากนั่งคุยกับเครื่องแก้วนะคะ แล้วเชื้อจุลินทรีย์ กับเราเองก็ไม่ค่อยจะถูกกันซะด้วย ทุกครั้งที่ทำแลปพวกนี้ เราจะตื่นเต้นแค่แป๊บๆ หลังจากนั้นก็เบื่อ ถ้าต้องอยู่กับมันทั้งวัน เราคงบ้าตาย
ในที่สุดก็ตัดสินใจเดินไปบอกแม่ว่า
" แม่คะ หนูอยากทำงาน ขอไม่เรียนนะ "
สีหน้าแม่ ในตอนนั้นแปลกใจมาก ระคนกับความผิดหวังที่ฉายแววออกมา แม่อิฉันให้ข้อเสนอมาบอกว่าถ้าอิฉันจะไม่เรียนก็ต้องหางานให้ได้ก่อนวันมอบตัว ถ้าหางานไม่ได้ก่อนวันมอบตัวต้องเรียนโท
ตอนนั้นก็หน้ามืดละคะ เหลือเวลาแค่เดือนเดียวในการหางาน เราสมัครงานแบบร่อนมากๆ ทั้ง walk in ทั้ง ส่งทางเวบ ทั้งฝากข้อมูลในเนต แต่ละที่ก็เรียกไปสัมภาษณ์ เดินทางไปสัมภาษณ์ช่วงนั้นประมาณ 5 ที่ได้ ต้องบอกเลยว่า การสัมภาษณ์งาน ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่สนุกอีกอย่างนึง บางทีออกมาจากห้องสัมภาษณ์ แล้วอยากเขกกะโหลกตัวเองก็หลายครั้งไม่รู้ว่าตอบไปได้ยังไง
มีอยู่ที่นึง เค้าเรียกเราไปสัมภาษณ์ ด้วยความที่ชื่อตำแหน่งบอกว่าเป็น นักเทคโนโลยีอาหาร อิฉันเห็นชื่อตำแหน่งก็โอเค เอาวะ ไปก็ไป ก่อนไปก็หาข้อมูลบริษัทไปเล็กน้อย ว่าเป็นบริษัทที่ผลิตครีมเทียมยี่ห้อนึง
" เคยทำงานพิเศษตอนเรียนไหม " .....คนสัมภาษณ์
" ไม่ค่ะ " ..... อิฉัน
" อ้าวไม่เคยหารายได้พิเศษบ้างเลยเหรอ พวกขาย แอมเวย์ ขายประกัน มิสทีน อะไรอย่างเนี้ย เห็นนักศึกษาบางคนชอบทำ " ......คนสัมภาษณ์
" ไม่ค่ะ หนูไม่ชอบ หนูคิดว่าตัวเองคงทำงานขายตรงอย่างนี้ไม่ได้ เพราะแบบขายของไม่เป็น ต่อรองไม่เป็น "...... อิฉัน
จากนั้น อิฉันก็ บรา บรา บรา ( แปลว่าอะไรหว่า ....) ผลสรุปว่า ไอ้ตำแหน่งที่เค้ารับเนี่ย คือ งานขายเจ้าค่ะ แป๊วววววววว ขายวัตถุดิบซึ่งเป็นครีมเทียมเนี่ยให้กับกลุ่มลูกค้าพวกโรงงานอาหารต่างๆ คือ คงไม่ต้องบอกใช่ไหมคะว่างานนี้อิฉันได้หรือไม่ได้ ตอนนั้นหลังจากเค้าอธิบายลักษณะงานให้ฟัง หน้าอิฉันจากที่บานๆเนี่ยหดเหลือ 2 นิ้วได้มั้ง
กลับมาบ้านมานั่งทบทวนลักษณะงานที่เค้าเสนอมาเฮ้ยยย มันน่าสนใจมาก และดูจะเหมาะกับเรานี่นา มันไม่ใช่การขายตรงแบบ MLM ทั้งหลาย แต่มันเป็นการขายเชิงเทคนิค ซึ่งคงจะเหมาะกับคนที่พูดมากๆ ชอบพบเจอผู้คนอย่างเรา และที่สำคัญ รายได้มันยั่วใจมากกก เมื่อเทียบกับงานในตำแหน่งอื่นๆ
หลังจากนั้นอิฉันก็ร่อนใบสมัครไปแต่ตำแหน่งเซลล์ เพราะคิดว่าตัวเองถ้าต้องไปทำงานโรงงานจริงๆ คงเหงาน่าดู
หลังจากนั้นก็มีอีกที่ที่เรียกสัมภาษณ์ แล้วเราก็พลาดอีกแล้ว....
" ภาษาเป็นยังไงบ้าง ".........คนสัมภาษณ์
" พอใช้ได้ค่ะ "..........อิฉัน ( ดันระบุในเรซูเม่ว่า ภาษา Good
" งั้นแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษสิ "........คนสัมภาษณ์
"........................" ...... อิฉัน อึ้งคะ อึ้ง อึ้ง อึ้ง
คงไม่ต้องบอกว่าสุดท้ายแล้วงานนี้อิฉันได้หรือไม่ได้นะคะ 55555555
แต่ที่ฮาที่สุด ก็คือสมัครในเวบตำแหน่งนึง พอเค้าเรียกสัมภาษณ์ ดันไปกรอกใบสมัครเป็นอีกตำแหน่งนึง ก็มันจำไม่ได้นี่หว่าว่าที่นี่สมัครตำแหน่งอะไรไว้ เดาเอาว่า เฮ้ยยย ต้องเซลล์แน่ๆเลย พักนี้เราสมัครเซลล์ไว้เยอะ แต่ผลสุดท้ายที่ค้าเรียกไปสัมภาษณ์ดันเป็นตำแหน่งนักเคมี โอ๊ยยยย คุยกันคนละเรื่องอยู่ตั้งนาน จนเค้าหยิบใบสมัครมาพลิกดูนั่นแหละถึงได้รู้เรื่อง
" อ้าวน้องสมัครเซลล์เหรอ " .......คนสัมภาษณ์ สีหน้าแปลกใจ
" ค่ะ " ........อิฉัน ใบหน้ายิ้มแย้มด้วยความมั่นใจ
" คือที่พี่เรียกน้องมาสัมภาษณ์วันนี้เพราะน้องสมัครมาในตำแหน่ง นักเคมีนะ เพราะพี่ดูแลโดยตรงด้านนี้ ".......คนสมัภาษณ์
" คะ " ...........อิฉันอุทานด้วยความตกใจ ใบหน้ามั่นใจสักครู่หายไปพลัน
"เอางี้ น้องสรุปจะสมัครตำแหน่งไหน ถ้าจะเป็นเซลล์ เดี๋ยวพี่จะให้เค้าเรียกมาสัมภาษณ์วันหลังอีกที เพราะพี่ดูแลห้องแลป ไม่เกี่ยวกับงานขาย " .......ถ้าคุณเป็นอิฉันจะทำยังไง
ในที่สุดอิฉันก็ตัดสินใจสัมภาษณ์ในตำแหน่งนักเคมี ก็ไหนๆมาแล้วนี่ แต่คงไม่ต้องบอกว่าเค้าประทับใจในตัวอิฉันแค่ไหน และ อิฉันจะได้งานนี้ไหม 5555555
จนแล้วจนรอด ในที่สุดอิฉันก็หางานได้ในช่วงก่อนมอบตัวปริญญาโท แค่ อาทิตย์เดียว โดยงานที่ได้เป็นโรงสีข้าวแห่งนึง ทำในส่วนของเจ้าหน้าที่ควบคุมคุณภาพ แต่แล้วก่อนวันจะเริ่มงานได้ 2 วัน ทางมหาวิทยาลัยก็โทรมาชวนไปทำงานกลับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ในตำแหน่งนักวินิจฉัยผลิตภัรพ์อาหาร ( โอทอป ) อาจารย์บอกว่า อยากให้กลับไปทมาก จะได้เป็นหน้าเป็นตาของมหาลัย ซึ่งมหาวิทยาลัยได้เป็นศูนย์ดูแลข้อมูลแห่งนึงของงานนี้ด้วย และบอกผลตอบแทนคร่าวๆ ซึงสูงพอสมควร
และแล้วผลของความงกก็เข้าครอบงำ เมื่อผลตอบแทนที่ได้ต่างกันถึง 3 เท่ากว่าๆ อิฉันจึงโทรไปหาโรงสีทันที ด้วยอาการป่วยกระทันหัน ต้องเข้าผ่าตัดด่วน ไม่สามารถทำงานได้ในช่วงเวลาที่กำหนด เกรงว่าโรงงานจะเสียหายจึงขอสละสิทธิ์จากงานนี้
โอ้วววววววว บอกตรงๆ ยังรู้สึกผิดจนวันนี้เลยผับผ่า
โอกาสหน้า ถ้าเจ้านายเผลอ และ ว่างเมื่อไหร่จะแวะมาเล่าให้ฟังต่อ ขอบอกว่างานที่กรมส่งเสริมเป็นอะไรที่สนุกมากกกกกกกกกกก คุณจะได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้
วันนี้ไปก่อนดีกว่า เดี๋ยวเจ้านายกลับมาจะพาลตกงานรอบที่ 5 ซะเปล่าๆ 
ด้วยรัก และ คิดถึง ชาวถนนทุกคน
*แชมพู *
จากคุณ :
*แชมพู*
- [
3 ก.ย. 48 15:41:08
]