เสียงเพลงเป็นจังหวะแผ่วๆ ดังมาจากโทรศัพท์เครื่องเล็กที่วางไว้บนโต๊ะกลมกลางห้อง
เขาไม่ต้องลุกไปเพื่อหยิบมัน หากมีร่างงามเปลือยเปล่า ค่อยๆวางอย่างเบาบนฝ่ามืออันอวบอูมของเขา
ทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยสาวสวยหลายนางที่ต่างต้องการเงินเพื่อยังชีพ และต่างมี
งาน ที่ต้องทำร่วมกับเขาทั้งนั้น
ไม่ใช่ครั้งแรกและไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เขามาใช้บริการ ที่นี่
มันเริ่มมาตั้งแต่เขาร่ำรวยขึ้นมาหลังจากทำงานตรากตรำมาหลายปี
โดยที่ไม่มีเวลาลืมหูลืมตา แต่เมื่อเขาลืมหูลืมตาได้แล้ว
อรรถก็เหมือนผู้ชายอีกหลายคนที่ต้องการเมียหลวงไว้เพื่อตกแต่งบ้านในฐานะ
โบราณวัตถุ โดยที่ไม่ต้องไปขุดไปค้นหาที่ไหน
แล้วก็ไม่ต้องหานักวิชาการจากสำนักไหนมาคำนวณอายุว่าเป็นสมัยใด
เขาพิสูจน์แล้วด้วยตัวเอง ทุกตารางนิ้ว ของเก่าจริงนั้นต้องแตกลายงา
ถึงแม้ไม่ได้เรียนสูง แต่จากประสบการณ์ เขาแน่ใจว่า ไม่พลาด
เสียงดังที่ผ่านเครื่องรับไร้สายค่อยๆวิ่งไล่เข้าไปสู่โสตประสาท ทีละนิดๆ
มันวิ่งวนไปวนมาอยู่นาน และคงเหนื่อยจนท้อเพราะใบหน้าของเขาเริ่มขมวดมุ่น ทีละน้อยๆ
อรรถวางโทรศัพท์ลงบนมือเรียวบางของอนงค์นางที่เอื้อมมารับไว้
เมื่ออีกคนหนึ่งเดินไป อีกคนหนึ่งก็เข้ามา ช่วยกันอย่างสมัครสมานสามัคคี
เขาเป็นเพียงพ่อค้า เมื่อสิบปีก่อนไม่มีใครรู้จักเขา
แต่วันนี้เอ่ยชื่อไปไม่มีใครไม่รู้จัก เงินทองที่หามาได้มากมาย
เขาแบ่งใช้อย่างละเอียดลออ ไม่มีกระเด็นสักสลึงเดียว
ด้วยความที่เคยจนมาก่อนทำให้เขาต้องเรียนรู้รสของมันว่าหอมหวน
ชวนขยะแขยงเสียกระไร เขาปฏิญาณกับตัวเองว่า
ไม่มีวันที่ฉันจะกลับไปจนอีกเป็นอันขาด
อรรถจึงพยายามสร้างเนื้อสร้างตัวให้เป็นปึกแผ่นมากขึ้น
กิจการของเขาทุกวันนี้ มีมากเกินกว่าจะดูแลทั่วถึง
ลูกสาวสองคนถูกส่งไปเรียนต่อยังต่างประเทศ
เป็นการชุบตัวที่สังคมทุกวันนี้ให้ความเคารพและนับถือ
เมื่อไรที่เข้า วง แล้ว เขาคุยได้อย่างไม่อายปาก อย่างสมภาคภูมิ
ในฐานะที่ได้รางวัลครอบครัวตัวอย่างสามปีซ้อน
มันเป็นภาพพจน์ที่อรรถต้องพยายามรักษาไว้เป็นอย่างดี
เพราะเขา กะว่า ปีหน้าจะลงสมัครรับเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสักที
อันเป็นวงโคจรของ
ผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งหลาย ที่ต้องเอาให้ครบ
ภาพพจน์ที่สังคมสรรเสริญเยินยอ แลให้เกียรตินั้น
เป็นสิ่งที่อรรถต้องรักษาไว้ กว่าที่เขาจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ใช้เวลาเกือบครึ่งชีวิตทีเดียว
โทรศัพท์ที่วางไปเมื่อครู่ทำให้เขาต้องกลับมาครุ่นคิดอีกครั้ง
เขา ไม่เคยพลาด หากครั้งนี้ลูกน้องเขาบอกแล้วว่ามัน พลาด
โมโหกับความสะเพร่าของลูกน้องเสียจริง
ผู้หญิงแก่เพียงคนเดียวทำไมมันถึงจัดการไม่ได้
อยากรู้นักที่ให้ติดตามสองวันสามวัน บวกข้อมูลของ
เหยื่อ อีกเกวียนที่เขาให้ไป ยังไม่พออีกหรือ
ดวงแข็งจริง อรรถไม่ใช่คนชั่วโดยสันดาน
หากเขารู้จักเลือกโดยสันดานมากกว่า ใครจะว่าเขาเลวร้ายอย่างไรก็แล้วแต่
แต่ถ้าใครต้องมานอนกอดศพไร้ญาติทุกคืนแบบเขาก็คงรู้สึก
มันต่างกันกับน้องนางขาวๆอวบๆ ที่นี่เป็นไหนๆ
ลูกน้องเขาโทรมาบอกว่า วัตถุโบราณ
รอดปลอดภัยจากการจำหน่ายของมือปืนที่จ้างไป
เขาพึ่งรู้ว่า หนังเหนียว นี้เป็นอย่างไง
ทั้งๆที่เขาไม่เคยเห็นวัตถุชิ้นนั้นไปสักลงอาคมที่ไหน
หากคนของเขาก็รายงานว่าลูกปืนด้าน มันพลาด อรรถได้แต่หัวเราะในคอลึกๆ
ขณะที่กายเขาทำงานร่วมกับสาวสวย หากจิตใจ
กลับแยกไปยังหน้าที่ที่ต้องทำเย็นคืนนี้
ช่างเป็นคืนที่โหดร้ายอีกแล้วสำหรับเขา
งานที่พลาดของลูกน้อง ทำให้เขาต้องพะอืดพะอมอีกจนได้
ใครนะที่เป็นคนลงมือเขาอยากรู้จริง ต้องตัดเงินเดือนออกสักครึ่ง
โทษที่ทำให้เขาต้องลำบาก เมื่อเสร็จงานดีแล้วแต่ละอนงค์นางก็เดินอีกหนึ่งรอบให้เขายลโฉม
ก่อนจะออกไปรับเงินกับคนของเขาข้างนอก
เพียงครึ่งชั่วโมงเขาก็พร้อมจะกลับบ้านทั้งที่ง่วงแสนง่วง
เพลียจนตาไม่อยากตื่น เขาก็ต้องกลับบ้านไปทำหน้าที่
สามีตัวอย่าง ตามที่สื่อได้ให้เกียติรไว้
รถคันยาวใหญ่แล่นปราดออกไปจากอาคารหรูกลางกรุง
ไม่มีใครสังเกตกับรถที่วิ่งออกจากตึกหลังนี้ ไม่ว่าจะกี่โมงกี่ยาม มันเป็นเรื่องปกติ
ชีวิตที่วุ่นวาย สับสนของเขาทำให้อรรถต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
วัตถุโบราณ ที่บ้านเป็นสิ่งที่เขาต้องการจำหน่ายออกอย่างเร็วที่สุด
ใช่มันเป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน เขาต้องการเปลี่ยน เอาอะไรที่
ทันสมัยเข้าไปแทน บ้านเขาไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ มันต้องเปลี่ยน
เมื่อเขาถึงบ้าน คนที่จะดูแล คือคนรับใช้ ส่วน วัตถุโบราณ
นั้นจะมีหน้าที่ นั่งตรงหัวโต๊ะ มองอาหารในแต่ละวันอย่างกะจะพิจารณาว่า
เครื่องประกอบที่นำมาใช้แต่ละอย่างนั้นมาจากไหน ส่งมาจากขั้วโลกเหนือหรือเปล่า
หรือพึ่งส่งมาจากแอฟริกาใต้
สายตาคมดั่งเหยี่ยวจะ กวาดไปทั่วไม่เว้นแม้แต่หน้าของเขา
ที่ก้มมองจานข้าวตรงหน้าอย่างสนอกสนใจ
เสียงถามเอื่อยๆเหมือนไหลเคลื่อนออกมาจากเทปยานๆ
หมดสภาพเอ่ยถามด้วยคำถามซ้ำๆว่า
อาหารวันนี้ไม่อร่อยหรือค่ะ ทำไมไม่ทาน
จะให้เขาทานได้อย่างไร ดูแค่หน้าตาคนที่นั่งร่วมโต๊ะ
แล้วอะไรๆ มันก็ฝืดพานกลืนไม่ลง อาหารตรงหน้าล้วนน่าพิสมัย
แต่คนตรงหน้านี่ซิที่พิสมัยไม่ลง ใครเป็นเขาก็คงมีสภาพเดียวกัน เขารับรอง
ทนทุกข์ร่วมสุขกันมา เขาพึ่งได้มีเวลาสังเกตดูความเปลี่ยนแปลงของคู่ชีวิต
จากภาพสวยงามยามเยาว์วัยในขณะสาวรุ่น เขามาเจออีกที
ไหนกลับกลายเป็นยายแก่หงำเงือกไปได้
อรรถหัวเราะต่ำลึก ภายในลำคออวบใหญ่ ถึงวันนี้ไอ้ลูกน้องจะทำพลาด
แต่เขาคาดว่าจะไม่พลาดเป็นครั้งที่สองเป็นอันขาด
เขาจะได้เครื่องเรือนรุ่นใหม่จากถิ่นไกล ถ้าเปรียบรถก็ป้ายแดงพรีลูด
เครื่องร้อน วิ่งเร็ว แค่แตะคันเร่งเบาๆ
บรรยากาศอันหอมหวน กลิ่นสีรถใหม่โชยเข้าจมูก อีกไม่นาน เขาจะได้มา
ขับขี่ อย่างแน่นอน งานนี้จะไม่มีพลาดซ้ำสอง
รถยนต์ของเขาจอดที่หน้าบันไดขึ้นบ้านหลังใหญ่
วันนี้แปลกแฮะ คนที่มายืนรอเขากลับกลายเป็นคนที่คอยนั่งหัวโต๊ะ
ใบหน้าที่ค่อยๆแสยะยิ้ม ออก พร้อมเสียงเอ่ยกังวานเสมือนลมหวีดหวิวตอนเที่ยงคืน
ดิฉันเห็นรถคุณออกมาจากตึกนั้น
อ้อ ผมแค่ผ่านไป ไม่ได้เข้าไปหรอก พอดีลูกค้าเขาอยู่ในนั้น
อย่ากังวลเลยนา ผมกลับบ้านตรงตามเวลาทุกวัน
ดึกจะออกไปธุระยังต้องบอกคุณก่อนเลย เลิกคิดมากเสียทีเถอะ
เขาบอกยาวเหยียดไม่ใช่คำแก้ตัว แต่เขาไม่อยากเห็นรอยแสยะจากริมฝีปากบางซีดนั้น
อีกไม่นานเขาจะหลุดพ้น เขาเป็นคนที่ไม่ชอบรอคอยอะไร
อรรถเป็นคนใจร้อน ต่างจาก วัตถุตรงหน้าที่ใจเย็นชืดเป็นน้ำแข็ง
ไม่แปลกหรอกเขาเป็นพ่อค้า เขาต้องเร็ว ต้องเร่งกว่าอยู่แล้ว
คำแก้ตัวที่ไม่ใช่คำแก้ใจของเขา ทำให้รอยยิ้มแสยะนั้นถูกเก็บเข้าคลัง
ก่อนจะนำมาใช้อีกเวลาเขาทำผิด จะไปโอดครวญกับใคร คงไม่มีใครเชื่อ
นายอรรถนักธุรกิจใหญ่ ต้องนั่งจ๋อง ไม่มีปากมีเสียง
เขาพยายามหาทางออกว่า เพราะความกดดันหรอกนะถึงต้องทำ
ถ้ามิเช่นนั้น เขาจะต้องนอนฝันร้ายไปอีกหลายปี
ตัวเขายังมีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ
มีหัวคิด มีสมองที่จะช่วยให้เงินจำนวนไม่น้อย
ไหลเข้าภายในประเทศ เทียบประโยชน์กัน เขานำ ลิ่ว
ไม่เห็นฝุ่นเลยละ แล้วเขาผิดหรือที่จะทำ
อรรถอาบน้ำเสร็จจึงเดินเข้าโต๊ะกับข้าวอย่างตรงเวลา
ยิ่งกว่าโรงเรียนดัดสันดาน เขาคิดแช่งอยู่ในใจ
มืออันขาวซีดค่อยตักข้าวให้เขาอย่างปราณีเหมือนเด็กบ้านราชวิถี
ไม่ใช่สามีที่ดีเด่นตามข่าวหน้าหนังสือพิมพ์เลย
มันเจ็บปวด นะ เขาพยามสนับสนุนตัวเอง
การจำหน่ายสินค้ารายนี้ ไม่ผิดกฎหมาย
เขาตักแกงทีละน้อยใส่ปาก ตักข้าวทีละน้อยตามไป
แต่กินไปได้เพียงสองสามคำอรรถก็ต้องวิ่งไปโก่งคออาเจียนในห้องน้ำ
เขาเอาของเก่าทั้งหมดออกมา ไม่ว่าจะเป็นเย็นตาโฟน้ำแดง
ข้าวคลุกกะปิ หรือกาแฟชั้นดีก่อนขึ้นไปหา ของ
มือเย็นๆค่อยๆลูบหลังเขา อย่างอ่อนโยน และปราณี
เขาไม่ได้รับรู้ความรู้สึกแบบนี้นานแล้ว
มันนานจนเขาก็แทบจำไม่ได้ว่าวันไหน แต่เฮ้อ
เขาพุ่งคอลงไปอีกครั้ง ครั้งนี้มีแต่น้ำเหนียวๆออกมาเต็ม
ไม่มีอาหาร หลากหลายเมนูเหมือนครั้งแรก
อรรถหันไปมองร่างไร้วิญญาณที่ยืนสงบนิ่ง น้ำตาค่อยเอ่อท้นออกมา
เธอคงสงสารเขา เขารู้ ร่างนี้จิตใจนี้รักเขามากเพียงใด
เขาเอื้อมมือเช็ดน้ำตาให้ ผิวหยาบเย็นซีด
รอยย่นพับไปมาทั่วใบหน้า คงมีแต่จิตรกรเท่านั้นที่มองเห็นความงาม และเขาไม่ใช่จิตรกร
พักนี้คุณอาเจียนบ่อยนะค่ะ น่าจะไปลองหาหมอดู
เขาก็เป็นบ่อย โรคกระเพาะน่ะ เขาเป็นมานานแล้วรู้ตัวดี
ไม่ต้องให้คนระดับนี้มาเตือนหรอก
เขาเดินเวียนเข้าเวียนออกห้องน้ำอีกหลายรอบ
วันนี้เขาท่าจะเป็นหนัก ทั้งท้องเสีย ทั้งอาเจียน เพลียถึงขนาดต้องนอนซม
นิ่งอยู่บนเตียงใหญ่ ยาคือสิ่งที่เขาต้องทานทุกวัน
ตามน้ำเข้าไปเยอะๆ หมอบอกเขา และเขาจำได้ดี ก่อนจะผ่อยหลับไป
ร่างที่เขาต้องนอนกอดทุกคืน หากคืนนี้พลิกกลับมากอดเขาจูบเบาๆที่แก้ม
หลับให้สบายนะคะ
เสียงเย็นๆ เหมือนลมตอนเที่ยงคืนเข้ามาลอยวน
อยู่ในประสาทเขา เขาได้ยินเสียงหัวเราะก้องเบาๆ
มันไม่ไกลหรอก เขาได้ยินชัดเจนทีเดียว นานแค่ไหนเขาไม่รู้
ภาพที่ลางเลือนค่อยๆชัดเจนขึ้นทีละน้อยๆ
อ้อ นั้น สาวๆพรีลูดของเขาทั้งนั้น หวานละ
ดับอนาถ พ่อค้าใหญ่ เครียดโรคร้าย
หัวข้อข่าวใหญ่พาดกระหน่ำทุกฉบับ
สามีเธอเป็นพ่อค้าทุกอย่างต้องไว แต่เธอไม่ใช่พ่อค้า
ทุกอย่างช้าได้ แต่ต้องแน่นอน
แน่นอน เหมือนข่าวที่เธอนั่งอ่านอยู่นี้ ที่โต๊ะกินข้าวมุมหัวโต๊ะของเธอ
นั่นนักข่าว มาไวจริง เสียงถามเซ็งแซ่ ใบหน้าซีดขาว ร่ำให้ หน่วยตาแดงช้ำ
ดิฉันไม่ทราบหรอกค่ะ ว่าเขาจะตัดสินใจแบบนั้น
รู้ว่าเขาไปเที่ยว แต่ก็คิดว่าป้องกันดีแล้ว ไม่คาดคิดจริงๆ นี่ดิฉันก้อ
เธอเว้นไว้แค่นั้น แล้วก็ร้องให้ต่อไป บอกแล้วไงเธอรอได้
เธอไม่ใช่นักธุรกิจ ไม่ใจร้อน
ซองสีน้ำตาลขนาดใหญ่วางลงบนโต๊ะภายในร้านอาหารกลางใจเมือง
มือเรียวงามรับเงินนั้นไว้ พลางไหว้ อย่างสวยงามที่สุดเท่าทีเจ้าตัวคิดว่าทำได้
ขอบใจมาก
ไม่เป็นไรค่ะ หนู เต็มใจ
คุณนายแสยะยิ้มอีกครั้ง
แล้วอย่าลืมไปรักษาตัวละ
คุณนายบอกอีกครั้ง ก่อนจะเดินลับหายไป
จากคุณ :
nana_iteh
- [
8 ก.ย. 48 12:24:59
]