http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3727361/W3727361.html
รัญชน์ยังคงนั่งเฉย ไม่ขยับไปไหน แต่ปากขมุบขมิบราวกับจะบ่น (คนเดียว) แต่ได้ยินไปถึงคนข้างๆ แทนที่จะไปทาในห้องน้ำนะ ดวงตาคมพราวระยับด้วยความขัน
ธิษณานึกขึ้นได้ว่าควรจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ นี่เธอลืมไปได้ยังไงกันนะ
หญิงสาวลุกขึ้นเดินหายไปทางห้องน้ำ ไม่วายหันหน้ามาตวัดค้อนเขาวงใหญ่ ที่ทำไปก็เพราะกลบเกลื่นความอับอาย แถมยังเป๋อเหลอได้ตั้งแต่วันแรก เมื่อมาถึงห้องน้ำก็จัดแจงทายาเรียบร้อย ในใจก็นึกฉุนเจ้าเด็กอ้วนตัวกะเปี๊ยก
หูย... อย่าให้เจออีกนะ แม่จะจับตีซะให้เข็ด
เด็กอ้วนตัวกะเปี๊ยกพนมมือป้อมไหว้ขอบคุณอาสาว ขณะที่เธอส่งขนมให้เป็นรางวัลถุงใหญ่
ขอบคุณครับอาริน หนุ่มน้อยรับถุงมากอดยกใหญ่ กระโดดโลดเต้นดีใจไม่หยุด
เป็นเด็กดีก็ต้องได้รับรางวัลสิจ๊ะ ผู้เป็นอาก้มลงไปหอมแก้มหลานชาย
เจ๊ณาอะไรนั่นน่ะ เกือบล้มแน่ะครับ
แล้วทำไมไม่แกล้งให้ล้มไปเลยล่ะ รินรดายิ้มเยาะ น่าจะวิ่งชนแรงๆ มือเรียวขยี้ผมหลานด้วยความเอ็นดู
ก็จะล้มแล้วครับ แต่อารัญชน์อ่ะจิ รับทัน ด้วยความที่ไร้เดียงสา น้องตูนหลานชายจึงไม่รู้เลยว่าอาสาวมีเจตนาไม่ดี ที่กระซิบให้เขาเข้าไปแกล้งธิษณา โดยอ้างว่าน้องใหม่มาวันนี้ ให้น้องตูนไปรับน้องใหม่เสียหน่อย ...รับซะจนเจ็บตัวเลย
อารัญชน์หรอครับตูน รินรดาตาโต ท่าทางไม่น่าไว้ใจซะแล้วนะเนี่ย
น้องตูนทำหน้าเหลอหลา ใครไม่น่าไว้ใจหรอครับ อารินพูดเรื่องอะไรอ่ะ
ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ ไปทานขนมเถอะ รินรดากัดฟันตอบหลานชาย ผลักให้ไปนั่งที่เก้าอี้ด้านนอกตัวบ้าน ก่อนจะสอดส่ายสายตาหาใครบางคน
ฉากที่กำลังถ่ายทำอยู่ พระเอกของเรื่องจะต้องบอกรักนางเอกในบ้านของเขา วันที่นางเอกมาบอกลาไปต่างประเทศ เพื่อดึงรั้งไม่ให้เธอจากไป...
ปราง... รัญชน์ทำหน้าเศร้าตามบท ไม่ว่าจะดูอย่างไร ใบหน้าคมคายหล่อเหลาก็น่าหลงใหลไปหมด ยิ่งเมื่อยามที่อยู่ใต้แสงไฟแบบนี้ ไร้ที่ติเลยทีเดียว
ธิษณาเผลอมองจ้องชายหนุ่มตาไม่กระพริบ ยามที่เขาเรียกชื่อนางเอกในเรื่อง ที่กำลังยืนน้ำตาร่วงอยู่ในฉาก
ลาก่อนนะคะ...
และตามบทอีก รัญชน์เข้ามากอดรินรดาจากด้านหลัง โอบร่างเพรียวบางให้อยู่ในอ้อมแขน ไม่ยอมปล่อยให้จากไป
ผมรักคุณนะ ได้โปรด อย่าไป...
รินรดาน้ำตาร่วงไม่ขาดสาย ทั้งธิษณาและศดิศต่างก็ยืนทึ่งในความสามารถของนางเอกสาวผู้นี้ สองพี่น้องหันมาสบตากันอย่างเห็นพ้องในความเจ้าบทบาทของรินรดาและรัญชน์
ศดิศเว้นช่วงหลังจากนั้น แล้วเขาก็สั่ง คัท!! ทีมงานทุกคนปรบมือกันเสียงก้อง เยี่ยมมากเลยริน เยี่ยมมารัญชน์
ธิษณาเหลือบไปเห็นรินรดาเดินไปเล่นกับหลานชาย หญิงสาวจังเอ่ยถามกับศดิศ พี่ดิศคะ หลายคุณรินชื่ออะไรหรอคะ
ศดิศมองภาพที่หน้าจอเล็กๆ พลางตอบน้องสาวไปด้วย อ๋อ น้องตูน ทำไมล่ะ
เปล่าค่ะ ไม่มีอะไรหรอก ถามดูน่ะ ว่าแล้วธิษณาก็เดินเลี่ยงไปจากตรงนั้น ไม่คิดจะรบกวนพี่ชายด้วยการฟ้องร้องเด็ก โทษฐานทำเธอเจ็บตัว
รัญชน์หลบออกมายังสวนหน้าบ้าน ปล่อยให้ทีมงานเตรียมฉากในบ้านต่อไป เขาเดินเลาะไปทางหลังครัว เพราะไม่อยากเจอพวกนักข่าวที่ตามประกบถึงกองถ่าย
ให้สัมภาษณ์ที่ไรเป็นเรื่องทุกที เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะนั่งลงที่ม้าหินข้างครัว
ธิษณาเองก็หลบความวุ่นวายภายในบ้านออกมาสูดอากาศรับลมเช่นกัน ลัดไปเลาะมาก็เลยเดินมาเจอกับพระเอกของกอง ที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่คนเดียวเงียบๆ
เสียงหวานเอ่ยทักอย่างเป็นกันเอง ทำไมมานั่งอยู่คนเดียวล่ะคะ
รัญชน์เงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นเจ้าของใบหน้านวล แก้มติดจะเป็นสีชมพูอยู่เล็กๆ ริมฝีปากบางกำลังยิ้มให้เขา เขาจึงยิ้มตอบ
หนีนักข่าวล่ะสิ หญิงสาวถือวิสาสะนั่งลงที่ม้าหินตรงข้ามเขา
คุณนี่ ผมก็ไม่ว่านะ ถ้าจะไม่พูดออกมาน่ะ
ธิษณาทำท่าเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ แต่ดวงตากลับเจือแววขุ่นๆ ก่อนจะเอ่ยต่อ ลำบากมั้ยคะเป็นดารา
ไม่ครับ เขาตอบสั้นๆ
เวลาคุณไปไหนมาไหน ไม่ต้องกลัวใครจะวิ่งตามหรอ หญิงสาวถามเอาเรื่อง ด้วยความอยากรู้จริง
ไม่กลัวครับ เขาตอบชัดเจน พลางคิดต่อเอาในใจ เพราะมีคนวิ่งตามอยู่แล้ว กลัวไปก็เท่านั้น
อื้ม แสดงว่ายังดังไม่พอ เธอสรุปเอาเองเสร็จสรรพ แต่แทนที่ชายหนุ่มจะโกรธหรือไม่พอใจ เขากลับหัวเราะเสียงดังลั่น
มีอะไรตลกหรอคะ
เปล่าหรอก ผมแค่อยากรู้ ว่าเวลาคุณคิดอะไรเนี่ย คุณต้องพูดมันออกมาหมดเลยรึเปล่า
ก็... พอนึกขึ้นได้ว่าโดนกล่าวหา ว่าปากเปราะ หญิงสาวก็หน้าแดงด้วยความโกรธ คุณรัญชน์ คุณหาว่าฉันปากเปราะหรอ
รัญชน์เบิกตาโต ส่ายหน้าไม่ยอมรับทันที ผมเปล่าว่าอย่างงั้นนะ แรงไปรึเปล่าคุณ
ใช่น่ะสิ แรง ธิษณาแหว ก็ความหมายมันบอกอยู่นี่คะ
เอาล่ะๆ เอาเป็นว่าผมไม่ได้คิดอย่างงั้นแล้วกัน คุณแค่ ตรงไปหน่อย พูดเร็วไปนิด คิดอะไรก็พูด รัญชน์นั่งนับนิ้วประกอบ หญิงสาวจึงตีเพียะเข้าที่มือเขา
ชายหนุ่มคว้ามือเธอเอาไว้ ทั้งสองจึงยืนขึ้นประจันหน้ากัน มีเพียงโต๊ะหินอ่อนกั้นระหว่างกลาง
รัญชน์ยังคงยิ้มสะใจไม่ยอมหุบ ส่วนธิษณานั้นไม่ต้องพูดถึง ดวงหน้าสดใสเปลี่ยนเป็นถ^_^ทึงไปเสียแล้ว
ปล่อยมือฉันด้วยค่ะ หญิงสาวดึงมือตัวเองกลับ แต่ดึงอย่างไรก็ไม่เป็นผล มือเรียวที่ใหญ่กว่ายึดเอาไว้มั่น
แสงแฟลชวูบขึ้นหลายครั้งติดต่อกัน ทั้งสองจึงหันไปมองที่ต้นกำเนิด และต้องพบว่านักข่าวและช่างภาพจำนวนไม่น้อย กำลังเก็บภาพเบื้องหลังกองถ่าย ละอองรัก อย่างเมามัน
ชายหนุ่มปล่อยมือเรียวเล็กทันทีโดยไม่ต้องบอกเป็นรอบที่สอง นึกก่นด่าตัวเองอยู่ในใจที่ไม่รอบคอบเช่นนี้
ธิษณายืนทำตัวไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่ง ก็ต้องเผชิญกับนักข่าวที่เข้ามาถามคำถามมากมาย
คุณเป็นใครหรอคะ เป็นแฟนคุณรัญชน์รึเปล่าคะ นักข่าวคนหนึ่งถามเสียงดัง
คุณรัญชน์มีแฟนน่ารักแบบนี้ ทำไมไม่เอามาเปิดตัวบ้างล่ะครับ อีกคนหนึ่งก็ถามขึ้นอีก
รัญชน์เดินออกมาจนพ้นโต๊ะหินอ่อน ยืดตัวตรงเพื่อให้สัมภาษณ์ โดยมีหญิงสาวยืนอยู่ไม่ห่างนัก
ไม่ใช่หรอกครับ คุณณาไม่ใช่แฟนผม เขาตอบยิ้มๆอย่างใจเย็น
ธิษณาทำได้แค่พยักหน้ารับ เธอเพิ่งจะเคยเจอกองทัพนักข่าวเป็นครั้งแรก ถึงจะเป็นกองย่อย แต่ก็ดูน่ากลัวพิลึก
แล้วเป็นอะไรกันล่ะคะ นักข่าวสาวอีกคนหนึ่งแทรกขึ้น
เป็นผู้จัดการส่วนตัวน่ะครับ เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลัง นักข่าวทั้งหมดจึงหันไปมองกันเป็นตาเดียว ก็พบว่าผู้กำกับหนุ่มเดินเข้ามา ผมศดิศ พวกคุณคงจำได้ เป็นผู้กำกับเรื่องละอองรัก ส่วนนั่น...
ศดิศผายมือไปทางน้องสาวคนเดียว ธิษณา น้องสาวแท้ๆของผม และผู้จัดการส่วนตัวของรัญชน์
ธิษณาอ้าปากค้าง พอๆกับที่รัญชน์เองก็ดูจะอยู่ในอาการตกใจไม่น้อย หญิงสาวรีบหันไปทางพี่ชายที่ถูกนักข่าวรุมสัมภาษณ์ พลางส่งสายตาที่มีแต่คำถามไปให้
นี่มันเรื่องอะไรกันคะพี่ดิศ...?? ธิษณาทำได้เพียงแค่ตั้งคำถามคาอยู่ในใจ นึกหงุดหงิดที่อะไรๆมันช่างน่าปวดหัวดีแท้
หญิงสาวรู้ตัวว่าคงทำอะไรไม่ได้ จึงเดินกระแทกเท้าเข้าบ้านไป เพราะตอนนี้นักข่าวกำลังรุมถ่ายรูป และรุมถามคำถามสองหนุ่มอย่างไม่ยอมหยุด
ในใจก็คิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่เพิ่งจะเกิด ...อะไรกันนะ!!! พี่ดิศทำอะไรของเค้าเนี่ย...
จากคุณ :
zjoyz
- [
9 ก.ย. 48 23:55:22
]