CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เรื่องเรื่อยเปื่อย ของนายกริช [3] ว่าด้วยแก๊สโซฮอล

    มีคนถามผมมากมาย ในฐานที่ทำงานวิจัยแนวๆ นี้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ๆ ญาติๆ ทั้งหลาย แม้กระทั่งพ่อกับแม่ผมเอง ว่าเติมแก๊สโซฮอลแล้ว น่ะ รถจะเป็นอะไรหรือเปล่า ซึ่งผมก็แปลกใจ ว่าทำไม่ คนไม่ค่อยรู้ ว่าแก๊สโซฮอลน่ะ มันเป็นอย่างไร จะเติม ก็กล้าๆ กลัว คล้ายๆ กับน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว เมื่อกว่า 10 ปีก่อน ที่เริ่มเข้ามาใช้ในบ้านเรา ก็ว่าไม่รู้ว่า ใช้แล้ว รถจะพังหรือเปล่า นั่นเองครับ เป็นใคร ก็ต้องกลัว เพราะรถยนต์ มันไม่ใช่ถูกๆ แพงใช่เล่นเลย

    แก๊สโซฮอล คืออะไร เราต้องมาทำความเข้าใจในตรงนี้ก่อนครับ แก๊สโซฮอล ก็คือน้ำมันเบนซินผสมกับเอทานอล หรือเอธิล อัลกอฮอ นั่นเอง แล้วเอธิล อัลกอฮอล์ คืออะไร ก็คืออัลกอฮอล์ที่กินได้ เรารู้จักกันดีในนามของสุรา หรือเหล้านั่นเอง

    ก่อนอื่นต้องอธิบายถึงชื่อก่อน ในสหรัฐ เค้าเรียกน้ำมันเบนซินว่าน้ำมันแก๊สโซลีน ครับ ผสมกับเอทานอล เลยกลายเป็นแก๊สโซฮอลนั่นเอง บางคนเข้าใจผิดว่ามันเป็นแก๊ส (gas) ไม่ใช่น้ำมัน

    รัฐบาลไทยในอดีต กลัวคนจะต้มเหล้ากินเอง เลยประกาศให้การต้มเหล้า ผิดกฎหมาย คนจะทำต้องเสียภาษีสรรพสามิต โดยเข้าใจว่าเอทานอล ก็คือเหล้า ซึ่งจริงๆ มันก็ใช่ แต่รัฐบาลในสมัยนั้น เค้าคงไม่นึกหรอก ว่าเหล้ากับเอทานอล มันต่างกันอย่างไร อย่างแรก คือเหล้า มันมีดีกรี หรือความเข้มข้นครับ เหล้าแม่โขง อยู่ประมาณ 40 ดีกรี หมายถึงมีเอทานอล 40% และน้ำ หรืออื่นๆ อีก 60% โดยปริมาตร แน่นอนว่า อัลกอฮอล์เช็ดแผล มีประมาณ 70 ดีกรี หรือความเข้มข้น 70% นั่นเอง ผมก็ว่าคงไม่มีใครบ้า มานั่งกินเอทานอลเปล่าๆ หรอกนะครับ เพราะเหล้า จะมีกลิ่น และยางของถังไม้โอ๊ก ทำให้มีกลิ่นหอม และไม่บาดคอนั่นเอง

    อัลกอฮอล์มีสองแบบนะครับ เมธิล อัลกอฮอล์ หรือเมทานอล กับเอธิล อัลกอฮอล หรือเอทานอล และเราใช้เอทานอลครับ มาจากพืช

    เอทานอล ที่ใช้ผสมน้ำมัน จะมีความเข้มข้น 99.5% ขึ้นไปครับ ถือว่าเข้มข้นมาก ผสมกับน้ำมันเบนซิน 10% โดยปริมาตร ก็จะได้แก๊สโซฮอล นั่นเอง อืม แล้วแก๊สโซฮอล 95 ล่ะ ไอ้ตัวเลข 95 ข้างหลัง มันมาจากไหน

    น้ำมันในฝัน เค้าเรียกว่าอ๊อกเทนครับ ครับ ถือว่าอ๊อกเทนนี่  คือคุณสมบัติด้านทางการน๊อกของเครื่องยนต์ครับ เครื่องยนต์ถ้าน๊อก จะเกิดเสียงดัง ดัง ก๊อกๆๆๆๆ เสี่ยงต่อการฟัง  เพราะเกิดการระเบิดที่ไม่สม่ำเสมอ ภายในห้องเผาไหม้ จะทำให้ลูกสูบสั่น เนื่องจากรับแรงระเบิดของเชื้อเพลิง เครื่องยนต์จะพังง่าย เราถือว่า อ๊อกเทนเป็นน้ำมันสุดยอด และเฮบเทน เป็นน้ำมันที่ใส่ไปแล้ว เครื่องยนต์น๊อกแน่นอน ดังนั้น เบนซิน 95 หมายถึงว่าน้ำมันมีคุณภาพการจุดระเบิด เทียบเท่ากับน้ำมันที่มีอ๊อกเทน95% ผสมกับเฮบเทน 5% ในทำนองเดียวกัน น้ำมันเบนซิน 91 ก็มีคุณภาพการจุดระเบิด เทียบเท่ากับน้ำมันที่มีอ๊อกเทน 91% ผสมกับเฮบเทน 9% ซึ่งมีคุณภาพ แย่ลงมาหน่อย

    ดังนั้น ตัวเลขยิ่งมาก น้ำมันยิ่งมีคุณภาพดี ตัวเลขน้อย ก็คือคุณภาพไม่ได้ คุณภาพของน้ำมัน เกี่ยวพันกับคุณภาพเครื่องยนต์ครับ คือเครื่องยนต์ คุณภาพดี สามารถใช้น้ำมันคุณภาพแย่ได้ เครื่องยนต์ที่แย่ ต้องใช้กับน้ำมันที่คุณภาพดี เท่านั้น ไม่งงนะครับ

    ในสหรัฐอเมริกา เค้ามีน้ำมีนเบนซิน 3 ชนิดครับ คือแก๊สโซลีน 87, แก๊สโซลีน 89 และแก๊สโซลีน 91 เท่านั้น ส่วนบ้านเรามีสองชนิดครับ คือเบนซิน 91 และเบนซิน 95 แสดงว่า น้ำมันบ้านเราคุณภาพดีกว่าน้ำมันในอเมริกา แน่นอนว่า ต้นทุนแพงกว่า และแน่ยิ่งกว่าแน่ เครื่องยนต์เรา คุณภาพแย่กว่าครับ

    กลับมาที่คำถามข้างต้น ถามว่า สามารถใช้แก๊สโซฮอล กับรถยนต์ได้หรือไม่ มีคำยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่ารถทุกคนที่ใช้หัวฉีด ใช้ได้หมดครับ ถ้าไม่แน่ใจ ก็ให้ถามที่ศูนย์บริการครับ เพราะว่าในการเปลี่ยนจากน้ำมันเบนซิน เป็นก๊าซโซฮอลนั่น เมื่อแรกใช้ จะรู้สึกว่ากินน้ำมันมากขึ้น หรือเครื่องอืด อาจต้องเข้ารับการปรับตั้งจังหวะการจุดระเบิด และการจังหวะการฉีดเชื้อเพลิงใหม่ครับ จะช่วยให้รถมีสมรรถนะพอๆ กับของเดิมได้ และขอให้ทำ เพราะว่า ในวันที่ 1 มกราคม 2550 ประเทศไทยจะยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 95 แล้วนะครับ ดังนั้น

    รถเก่าๆ อายุประมาณ 10 ปีขึ้นไป ที่ไม่ไดใช้หัวฉีด น้ำมันแก๊สโซฮอล จะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน จะมีผลกับชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่เป็นยางและพลาสติกครับ  ทำให้รถเก่า ไม่แนะนำให้ใช้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล แต่ถ้าอยากให้จริงๆ ขอให้ใช้แบบผสมครับ คือใช้ปนๆ กันไปเลย ก็จะช่วยได้ครับ ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้อีก

    แล้วถ้าจะใช้จริงๆ จะต้องหมั่นดูแลชิ้นส่วนต่างๆ ของระบบเชื้อเพลิง โดยเฉพาะซีลยาง โดยเฉพาะในคาร์บูเรเตอร์ เช่น จากเดิม อายุการใช้งาน 5 ปี พอใช้แก๊สโซฮอล อาจเหลือแค่ 3 ปี อย่างนี้เป็นต้น แล้วก็ต้องปรับตั้งจานจ่ายใหม่ครับ ก็จะทำให้สามารถใช้น้ำมันแกสโซฮอลได้อย่างดี

    เรื่องโครงสร้างราคา ก็น่าสนใจเช่นกัน หลายๆ ท่าน คงสงสัย ว่าทำไม น้ำมันแก๊สโซฮอล ถึงถูกกว่าเบนซิน 1.5 บาทต่อลิตร คำตอบก็คือ รัฐบาลพยุงราคาเอาไว้ครับ เมื่อแรกใช้ น้ำมันแก๊สโซฮอล ถูกกว่าน้ำมันเบนซิน 95 แค่ลิตรละ 50 สตางค์เท่านั้นเอง คนเลยไม่นิยม จนกระทั่งราคาน้ำมันปรับขึ้น คนก็ยังไม่นิยม รัฐบาลก็เลยกดราคาลงไปอีก ทำให้คนนิยมมากขึ้น

    แต่ตอนนี้แก๊สโซฮอล ก็มีปัญหาอีกแล้ว คือไม่มีอัลกอฮอล คือที่ผ่านมา จะมีการประกันราคารับซื้อ ลอตที่แล้ว จำได้ว่าราคาลิตรละ 12 บาท คณะกรรมการเอทานอลแห่งชาติ ก็ให้ใบอนุญาตไปหลายโรง ประมาณ 10 กว่าโรง เห็นจะได้ ส่วนใหญ่ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง บางโรงก็เสร็จแล้ว วัตถุดิบเอง ก็มีหลายแบบ ส่วนใหญ่เป็นโมลาส คือน้ำอ้อยที่เหลือจากการทำเป็นน้ำตาลแล้ว แถวบ้านเอาจะเอามาราดถนน กันฝุ่น ตอนนั้นก็ทำได้สิ เพราะราคาโมลาสถูกมาก แทบจะให้เปล่า ต่อๆ เห็นว่าขายได้ ราคาก็เลยขยับ ทีนี้ 12 บาทก็ชักขาดทุน เลยปรับเป็น 15 บาท ทำไปทำมาขาดทุนอีก โรงงานบอก 15 บาทขายไม่ได้แล้ว ขอขึ้นราคาหน่อย ก็เลยคุยกันไปกันมา จนกระทั่ง ครม มีมตินำเข้าเอทานอลจากอินเดียว ในราคาลิตรละ 16 – 17 บาทแทน

    อันนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแก้ปัญหาแบบลูบหน้าปะจมูก ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาแบบยั่งยืน ทั้งๆ ที่คนในรัฐบาลหลายๆ คน ก็อยู่ในภาคธรุกิจมาก่อน ปัญหานี้ เป็นปัญหาด้านการจัดการ ไม่ใช่ปัญหาด้านเทคนิค ทำไมไม่ศึกษาว่าบริษัท ฟริโต้ เลย์ ประเทศไทย ทำไมไม่ขึ้นราคาเลย์มั่ง หรือซีพี ไม่ขึ้นราคาไก่ย่างห้าดาว (ความจริงราคาขยับเหมือนกัน  นะ แต่ขยับนิดเดียว เลยไม่ค่อยรู้สึก) ทางเลย์ เค้ามีสหกรณ์ผู้ปลูกมันครับ คือทางฟริโต เลย์จะเป็นคนจัดหาพันธุ์มัน ให้ ให้เกษตรกรไปปลูก แล้วก็กำหนดราคารับซื้อ ทางฟริโต เลย์ก็จัดหาปุ๋ยราคาต่ำ ให้แก่สหกรณ์ผู้ปลูกมัน ในอ. พบพระ จ. ตาก แล้วก็รับซื้อ จำได้ว่ารับซื้อในราคากิโลกรัมละ 6 บาท (ราคาหลายปีแล้ว) ที่รู้ก็คือตอนนั้นเบิร์ด เป็นพรีเซนเตอร์ให้เลย์ นสพ แซวว่า ค่าตัว 30 ล้านบาท ในขณะที่เกษตรกรขายมันในราคากิโลกรัมละ 6 บาท (เลย์ 100 กรัม ราคา 35 บาทถ้าจำไม่ผิด)

    ถ้าไม่มีการใช้การจัดการแก้ปัญหาแล้ว เรื่องเอทานอล ก็คงเป็นปัญหาต่อไปนะครับ

    ถ้าเราเอาเอทานอล ผสมกับน้ำมันเบนซินแล้ว ในกรณีที่จะเอามาผสมกับน้ำมันดีเซล (เมื่อก่อนเรียกโซล่าร์) ได้หรือไม่ คำตอบคือได้ไม่เกิน 3% ครับ เพราะว่ามันไม่ผสมกันเป็นเนื้อเดียวกันครับ อันเนี่องมาจากความหนาแน่นของน้ำมันดีเซลและเอทานอล ต่างกันมากเกินไป พูดง่ายๆ คือมันไม่เข้ากันนั่นเอง

    น้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นโครงสร้างของการขนส่ง ซึ่งบ้านเรา เป็นการขนส่งทางรถยนต์ ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ผิดทาง ทางยุโรป หรืออเมริกา หรือแม้แต่ญี่ปุ่น จะใช้ระบบราง เช่นรถไฟ เป็นหลักในการขนส่ง ดังนั้น ต้นทุนการขนส่งเลยถูก บ้านเราน้ำมันขึ้นที ค่าขนส่งก็ขึ้นตาม

    เราใช้น้ำมันไบโอดีเซล สำหรับทดแทนน้ำมันดีเซลครับ ตอนนี้ บริษัท ราชาไบโอดีเซล ผลิตไบโอดีเซลขาย ในราคา ลิตรละ 35 บาท เดิมที่เค้าใช้สำหรับเรือข้ามฝาก ระหว่างเกาะสมุย กับสุราษฎร์ครับ เค้าใช้น้ำมันใช้แล้วเป็นวัตถุดิบ ต้องไปแย่งซื้อกับแม่ค้าขายไก่ทอด หรือแม่ค้าขายกล้วยแขก (น้ำมันใช้แล้วมีสารก่อมะเร็งนะครับ เวลาซื้อของทอดในตลาด ก็ดูน้ำมันที่เค้าใช้ด้วย ถ้าดำแล้วละก็ นะ.... ) ตอนนี้ ขายให้นักวิจัยด้วย ทางกรมอู่ทหารเรือก็มีการผลิตอยู่แล้ว สามมารถใช้ในเครื่องยนต์ดีเซลได้เลย แต่ผมก็ยังไม่มีความรู้เรื่องการใช้งานในระยะยาวนะครับ ผมเคยทำวิจัยน้ำมันปาล์มดิบ ผสมกับน้ำมันดีเซล ในอัตราส่วน 10% โดยปริมาตร เดินเครื่องยนต์ไปทั้งสิ้น 500 ชั่วโมง พบว่ามีความแตกต่างที่พวกซีลยางต่างๆ แต่ผลออกมาก็ดีครับ สามารถใช้ได้ แต่ถ้าสัดส่วนมากกว่า 10% ก็ไม่ค่อยดี เครื่องยนต์กำลังจะตกไปมากหน่อย ควันดำมากขึ้นเช่นกัน

    น้ำมันกว่า 90% ที่ใช้ๆ กัน นำเข้านะครับ ส่วนใหญ่ก็จากดูไบ หรือโอมาน ใช้กันอย่างประหยัดก็ดี อย่างน้อย ก็ประหยัดเงินในกระเป๋าเราเองแหล่ะ ไม่ใช่ใครอื่นเลย ถ้าใช้หลักความคิดแบบเศรษฐกิจพอเพียงได้ ก็จะดีกับตัวเราครับ

    พบกันใหม่ วันอาทิตย์หน้านะครับ
    wink

    แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 48 23:49:56

    แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 48 23:32:35

    จากคุณ : กริชครับผม - [ 10 ก.ย. 48 23:31:23 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป