CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ******...วันสบายๆ ของนายวรุณ...******

    เสียงริงโทนเพลงของ ทา ทา ดังจากมือถือที่ซุกไว้ใต้หมอนสั่นห้อง  เพลง ไอ บีลีฟ  หลับตาฟังก็ยังเห็นรูปโฉมโนมพรรณอั๋นอวบ   สะบัดสะบั้นสั่นเอวเฮ้วกับหางเครื่องเป็นฝูง   ท่าเต้นยวนยั่วจนวรุณเกือบเชื่อไปตามเนื้อร้องของเธอ   ความขาววาบของเธอต่างหากที่ปลุกเขาขึ้นมารับสาย
     
        “โหล   หวาดดีครับ บอกอ”   วรุณฝืนยิ้มรับสายอย่างสิ้นหวัง   เขาแสยะยิ้มเหมือนจะพยายามให้บอกอเห็น   แต่หน้าตายับเยินเหมือนนักมวยโดนน็อค   ดูเผินๆน่ารักพอๆกับไอ้จุ่น หมาพันธุ์ปั๊กข้างล่างคอนโด    
       
         “แกเอาอาไรมาส่งชั้น   นายวรุณ   ต้นฉบับหรือว่าขยะ   เมาอีกตามเคยละซิ”   เสียงสูงปรี๊ดแหววมาตามสายทลายหู  

        วรุณตาสว่าง   ท่าทางหลุกหลิกเหมือนควายกระดิกหาง   ในใจสงสัยชะตากรรมตัวเอง

        “พายุแคททรีน่าถล่มสหรัฐทำไมมันดันพัดเข้าบ้านตรูแต่เช้าด้วยฟะ”   เขาพึมพัมเบาๆพร้อมกับหน้านิ่วเพราะความปวดร้าวของกบาลสมองที่ดองไวน์มาทั้งคืน

        “เฮ้ย   บ่นไร   ชั้นว่านายนี่ยิ่งโตยิ่งเลอะ   นี่พิมพ์ผิดๆก็หลายที่   ตรวจทานซะมั่งสิ   ชั้นระอาจริงๆ”   เสียงเขียวเอาเรื่อง

        “บอกอ ก็รู้นี่ครับว่าผมจบมาจากโรงเรียนฝรั่ง”   น้ำขุ่นๆ

        “ไม่ได้เรื่องเลยนะ   เอาไปแก้   ชั้นให้เวลาวันนึง   เมล์มาใหม่เลย   ไม่งั้นเอาของคนอื่นลง   เข้าจ๋าย”   คำขาดเหมือนเดิม

        “รับรองทันเวลาครับบอกอ   สาบานได้”  

        “สาบานยัน   ให้มันจริงเถอะนะนายวรุณ   เท่านี้นะ”    
     
        “นี่ถ้าบอกอแกตัวดำๆ   คงเป็นแฝดกับรัฐมนตรีต่างประเทศสาวของสหรัฐได้เลย   สตรีเหล็กหรือสตรีหินวะเนี่ย”   วรุณคิดแต่ไม่กล้าพูด   ถ้าหลุดปากเดี๋ยวสวย   รอฝั่งนั้นวางสายก่อนแล้วแยกเขี้ยวยักไหล่

        ก็มันจริงนี่หว่า   จบจากโรงเรียนประจำฝรั่ง   เขาเน้นสอนภาษาอังกฤษ   ภาษาไทยมันก็เลยไม่แข็งแรง   แต่ว่าภาษาอังกฤษก็ดันเกิดอ่อนแอเพราะตอนเรียนโดดร่มเก่ง   ตอนนี้เสือกอยากทำงานขีดๆเขียนๆเพราะไม่มีที่จะไป   เลยไม่รู้จะใช้ภาษาอะไรเขียนให้คนอ่านดี

        “นี่เรากำลังเจริญรอยตามรุ่นพี่โรงเรียนเก่าที่ชื่อเฮียชูวิสเลยนะเนี่ย   แกได้ดีมีสุขไปแล้ว   มันต้องถึงทีเรามั่งสิ   ขนาดแกเรียนๆโดดๆยังได้ดีขนาดนี้   นอกจากเรื่องสาบานแล้ว   มีอีกหลายอย่างที่เฮียชูวิสแกสู้เราไม่ได้   เช่นความถนัดในการดื่มไวน์   การรักษาความโสดสนิทชนิดชนแล้วชิ่งหนี   ความสามารถในการครองความยากจนอย่างเหนียวแน่น   สถิติยาวนานในการตกงาน   เราไม่เคยเป็นรองใครอยู่แล้ว”   วรุณปลอบใจหรือถากถางชีวิตตัวเองก็สุดจะเดา

     “…ฉันต้องทำ   ทำอะไร..สักอย่างแล้ว…”   เพลงดังมาจากโทรทัศน์กระชากความรู้สึกง่วงเหงา
     
         “ใช่   เที่ยงกว่าแล้วมันต้องทำอะไรสักอย่างจริงๆ”   สมองส่วนควบคุมความรับผิดชอบบอกว่าให้รีบไปปั่นต้นฉบับต่อ   แต่สมองส่วนกระตุ้นตัณหาบอกว่าน่าจะอะไรมาใส่ท้องดีกว่า   ก่อนที่น้ำตาลในเลือดจะลดลงต่ำถึงขีดเรดไลน์   เดี๋ยวจะพาลหมดสติถึงตายก่อนวัยอันควร

        “ไข่เจียวอีกละ   ไม่เบื่อหรือไงฟะ   ฟองนี้ใช่ไหมที่ใช้วัดฝีมือการคุมเศรษฐกิจของนายก   ไข่รัฐบาลไหนๆก็ไม่เคยมีราคาถูกในความรู้สึกของชาวบ้าน   กลางวันกินไข่เจียวแต่กลางคืนสะเออะดื่มไวน์   โสน้าน่า   จนตายคาขวดซะเถอะ”   บ่นเข้าไป

      “โอ้ะ   โอ   ไข่ก็เจียวไว้แล้ว   แต่ว่าน้ำมันพืชดันหมด   เอางี้แล้วกัน   ออมเลตไปเลยเนยหนักๆหน่อยก็ดี   เนยยังมีเหลือในตู้เย็น   ใส่หอมใหญ่ซอยหน่อยสิ   เออ   แต่ว่าขี้เกียจร้องไห้แสบตาตอนนี้   ไข่กวนเนยก็แล้วกันฟะ   เด๋วเอาปะขนมปังแผ่นก็พอถูไถ”  

      “ตาย   ว้ายกรึ๊ด   ขนมปังขึ้นรา   เวรกรรมอะไรจะขนาดนี้”   สีหน้าหน่ายๆ   ท่าทางลังเลจะเอาไงดี   ออกไปซื้อขนมปังที่ปากซอยหรือกินไข่เปลือยๆแกล้มกาแฟ  

      ตกลงวันนี้เมนูมื้อเช้าชื่อ “ไข่ขี้เกียจ”   ก็ไม่ออกไปไหนทั้งนั้น   เอาไอ้ที่ทำๆมาเทใส่ท้อง   แล้วเขย่าปากกันขย้อนด้วยกาแฟ   พอใช้เป็นพลังงานไว้ขับเคลื่อนสมองที่เครื่องยนต์เริ่มฝืดเพราะน้ำมันหล่อลื่นซึ่งเรียกกันว่า ไวน์ พร่องระดับ

        “จะลงมือได้ยังวะ   ลีลาเยอะ   ยังกะดารายี่เกหาเสียงเลือกตั้งกับแม่ค้า”   ใจคิดแต่ปากดูดนิ้วจ๊วบๆ   นัยว่าขี้เกียจล้างมือ

      “ว้า   ไม่มีอารมณ์   บิวท์ไม่ขึ้น”   ความขี้เกียจกำลังจูงมืออารมณ์ศิลปินจะไปเที่ยว  

       “รีบลงมือเลยนะ   ไอ้บื้อ   ศิลปงศิลปินที่หนายกัน   วนิพกไม่ว่า”    ความรับผิดชอบตะโกนเรียกความรู้สึกสองตัวที่กำลังจะหนีเที่ยวให้รีบพากันกลับมา   ก่อนที่มันจะเตลิดเปิดเปิงไปไกล

      “ตกลงจะเขียนเรื่องอะไรดีหว่า   เออ   นึกออกแล้ว”   ไข่ขี้เกียจที่เติมเข้าท้องเมื่อครู่กำลังออกฤทธิ์ที่สมอง

      “ชื่อเรื่องไว้ทีหลัง   เอาให้ขลังๆยังไงก็ได้   แต่ว่าเนื้อเรื่องนี่สิ   มันไม่เคยมีพล็อตใหม่ๆบนโลกใบนี้หรือไงวะ   ถึงได้วกวนชนกันกะของคนอื่นอยู่เรื่อย”

      “พล็อตเอาไว้ทีหลัง”

      “เฮ้ย   ชื่อเรื่องก็ไม่มี   พล็อตก็ไม่มี   แล้วมันจะเป็นเรื่องสั้นได้ไงวะ”

      “ก็มันเป็นได้ก็แล้วกันน่า”

      “ไหนเรื่องเป็นไง”

      “ก็เรื่องที่นายกำลังอ่านอยู่นี่ไง   ง่า   คิดชื่อเรื่องออกแล้ว   ชื่อ …วันสบายๆ   ของนายวรุณ…เอิ๊ก”

      “อย่าล้อเล่น   มุกนี้จืดสนิท   ไม่ขำนะ   ตั้งใจเขียนออกมาสักเรื่องสิ”

      “ก็ได้   ก็ได้”   จิตใจชักจะเริ่มมีสมาธิทำงาน
     

       พอนั่งหน้าโน๊ตบุ๊ควิญญาณนักเขียนก็เริ่มเข้าสิง  เสียงผิวปากเป็นเพลงฮิตของสองสาว โฟร์+มด   ดังลั่นบ้านด้วยลีลากวนประสาท

      “หายใจเข้าก็ เฮ้อ เธอ….   หายใจออกก็ เฮ้อ เธอ….”   เมื่อท้องเริ่มตึงก็ครวญเพลงส่ายสะโพกอย่างมีความสุข   ผมยาวๆยุ่งๆถูกรวบไว้ที่ท้ายทอย   สีดำมันหยักสวยเป็นลอน   เครื่องแบบทำงานวันนี้เป็นเสื้อกล้าม กี ลาโรช   กับกางเกงนอนแพรที่สวมค้างมาตั้งแต่เมื่อคืน

      เสียงมือถือดังขึ้นขัดใจอีกครั้ง   ทา ทา คนเดิมร้องเพลงจากริงโทน   แต่คราวนี้ฟังแล้วเฉยๆ

      “โหล”   กำลังจะพูดต่อ   แต่เสียงหวานๆชิงพูดขึ้นก่อน

      “วรุณ   ไอ วิล บี แดร์ อิน เท็น มินิท ซี ยุ    ฟอด”   ไอ้เสียงสุดท้ายไม่ใช่ภาษาพูด   แต่เป็นเสียงปากส่งจูบ   แล้ววางสาย

      “ตายแน่   นายวรุณ   จี๊ด จะมา   มาย ก็อด”   หน้าตาตื่นยิ่งกว่าถูกตำรวจตรวจผับ  

      วรุณกระโจนไวกว่าลิงเข้าครัวไปล้างจาน    ท่าทางคล่องกว่าลุงนีโน่ขายน้ำยาล้างจาน   เสร็จแล้ววางเรียงผึ่งไว้เหมือนที่แม่สอน   มือหนึ่งถอดเสื้อกล้าม   อีกมือถอดกางเกงนอนยัดเข้าเครื่องซักผ้า   ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือแต่กางเกงในขาวสะอาด   กล้ามยังบึก ขนอกปุกปุยชวนลูบไล้   แต่ไม่มีเวลาให้ใครชมแล้ว   กระโดดคว้าผ้าเช็ดตัวเผ่นเข้าห้องน้ำ   ปวดหงปวดหัวหายเป็นเขวี้ยงทิ้ง

      ผิวปากในห้องน้ำจะได้เมียแก่   รีบๆผิวเลย   เพราะสาวที่จะมาหาวันนี้อายุแค่สิบแปดหย่อนๆ   น้องจี๊ดสาวลูกครึ่งสวยจ๊าบกำลังตามมาเช็คบิล   ไวน์จีบเธอแท้ๆเชียว   พบกันไม่กี่หนเธอได้เราเป็นกิ๊กเสียแล้ว   ตามหาเราจนเจอ   ตอนนี้เกาะติดยิ่งกว่าตังเม   ท่าทางจะเอาจริง   จะหนีรอดไหมหว่าเคสนี้  

      กำลังสระผมด้วยแชมพูหัวเป็นฟองฟอด   เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น  

      “ทำไงดีหว่า   เอางี้ละกัน   นุ่งผ้าไปเปิดประตูให้เธอเข้ามารอก่อนดีกว่า   ม่ายงั้นงอนเด้ง    แต่ว่ามันโป๊นา   ช่างเถอะ   แว๊บเดียว”

      “รอนานไหมครับ”   มือหนึ่งเปิดประตู   มือหนึ่งกุมผ้าเช็ดตัวผืนน้อย   หัวเหอมีแต่แชมพู

      จี๊ดใส่เกาะอกสีชมพูกางเกงสีฟ้า   สร้อยคอเป็นพวงดูหรูคลอเคลียผมที่ปรกอกขาวอิ่ม   ตุ้มหูเพชรแสบตา   รับกับนาฬิกาแฮปปี้ไดมอนด์   วันนี้แต่งหวานน่าชิม   รอยยิ้มบนลิปสติกสีชมพูเผยอฟันเขี้ยวขาวสวย   เธอเข้าใจแต่งหน้าเน้นตาหวานแหววเหมือนกิ๊ปซี่

      “ก็อด   น่ารักจังค่ะ”   จี๊ดยิ้มพลางเอามือลูบฟองออกจากหนวดเครา   เธอเขย่งแล้วฟอดเบาๆที่ริมฝีปากเข้าให้   กลิ่นกุชชี่หอมฟุ้ง   สัมผัสนุ่มๆที่ได้รับทำเอามือไม้อ่อน   ไอ้มือขาที่ควรแข็งแรงกลับอ่อน   ไอ้ที่อ่อนพาลจะฮึ่ม

      “โอว   ไฟช็อตเลย   ผ้าเผ้อจะหลุดเอา   ก็อด”   วรุณภาวนาหรืออุทานในใจก็ไม่รู้   แล้วต่อมารีบสลัดหลุดอย่างยากเย็น   เดินท่าหนีบก้นเผ่นเข้าห้องน้ำอย่างน่าสงสาร   ปากสั่นใจเต้นตุ๊บตั๊บแต่ข่มไว้

      “ตามสบายนะจี๊ด   ไฟว์ มินิท”   เสียงกระเส่า

      “อาบน้ำให้ไหม   วรุณ”   จี๊ดถาม

      “โอ โน่   พลีสสส”   แปลว่าอะไรของมันก็ไม่รู้   จะเอาหรือไม่เอาวะ  

      “รีบอาบหรือไม่รีบอาบดี   อาบน้ำเสร็จจะทำอะไรดี   สงสัยต้องอาบใหม่อยู่ดีละวะ   ถ้าจี๊ดหิว   คืนนี้คงได้เปิดไวน์เบอร์กันดี   อย่างน้อยก็ระดับน้องๆกรองครูส์   แกล้มกับนิวยอร์คสเต็ค   อาจเป็นที่กริลล์ของโรงแรมห้าดาวแถวๆสุขุมวิทมัง   ถึงวรุณจนตังแต่ก็ไม่จนใจ   เรื่องนี้น้องจี๊ดบอกว่าไม่สำคัญ   จี๊ดไม่แคร์   ถึงไงน้องจี๊ดก็เข้าใจศิลปินอย่างวรุณอยู่ดี   คนอย่างนายวรุณใครอยู่ใกล้ๆก็มีความสุขทั้งนั้นแหละ   ยกเว้นยายบอกอคนเดียว”

      แล้วตกลงวันนี้จะเป็นวันสบายๆหรือวันไม่สบายดีวะ

      “โอ..   ใช่   ...วันสบายๆ   ของนายวรุณ...”

    จากคุณ : วรุณนฤมล - [ 11 ก.ย. 48 17:42:02 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป