CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    จำนน (ขุนช้างขุนแผนฉบับนิทานข้างกองฟาง) (๓๗)

    ขุนช้าง-ขุนแผน ฉบับนิทานข้างกองฟาง (๓๗)

    จำนน                                                                  
                 
                       กล่าวฝ่ายขุนแผน เมื่อตีโต้กองทัพเชียงใหม่แตกพ่ายไปแล้วกลับเข้าค่ายแล้ว ก็ปรึกษาหารือกับลูกชายว่าเห็นจะต้องตามตั้งค่ายให้ประชิดกรุงเชียงใหม่ทันที ก่อนที่มันจะทันตั้งตัวภายในสองสามวันนี้แหละ

    แต่พลายงามก็ออกความเห็นว่ากองทัพของเราน้อยตัวเพียงเท่านี้ น่าจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่านะพ่อ

    ครานั้นจึงโฉมเจ้าพลายงาม     ฟังความเห็นจริงทุกสิ่งสรรพ์
    จะเนิ่นช้าอาหารกันดารครัน         ด้วยลาวนั้นที่ไหนจะยกมา
    พอรู้ข่าวก็จะหนาวสะท้านจิต       เห็นจะปิดประตูน้ำค้ำประตูท่า
    ถ้าเราไม่เข้าไปถึงพารา            จะรอให้มันมาเห็นจะลึก        
    เอาทัพเราเข้าประชิดติดเวียงชัย    แล้วสะกดเข้าไปเมือยามดึก
    ถ้าจับเจ้าเชียงใหม่ได้สมนึก          จะตัดศึกสิ้นลำบากไม่ยากใจ ฯ

                            แล้วสองพ่อลูกก็จัดแจงตั้งศาลเพียงตา ปลุกผี ทั้งที่มากับกองทัพไทย และผีป่าโขมดดงทั้งหลาย ให้มาประชุมพร้อมกัน แล้วจึงกล่าว ปาฐกถา ดังนี้

    ขุนแผนว่าข้าแต่เทพารักษ์    อันเรืองฤทธิ์สิทธิศักดิ์ทุกแห่งหน
    ท่านจงยกพยุบาตรปิศาจพล           ไปประจญอารักษ์หลักเชียงอินทร์
    ด้วยว่าเจ้าเชียงใหม่ไม่ครองธรรม     ถึงกรรมเมืองจะแตกแหลกสิ้น
    จงช่วยพวกเรามาอาสาแผ่นดิน        เชิญมากินเครื่องเซ่นอย่าเว้นตัว
    เทพเจ้าเหล่าโขมดมายา            ต้องมนตร์จินดาก็ยิ้มหัว
    ต่างรับอาสาว่าอย่ากลัว             จะช่วยท่านเรียงตัวทั่วทั้งนั้น
    กินเครื่องเซ่นเสพสุราแล้วลาแล่น    ออกเหยียดยัดอัดแน่นในไพรสัณฑ์
    แผลงฤทธิ์บิดร่างต่างต่างกัน          แผ่นดินลั่นดังจะล่มถล่มทลาย
    สนั่นเมืองเปรื่องเปรี้ยงเสียงปีศาจ     ดังพสุธาฟ้าฟาดไม่ขาดสาย
    เหมือนจะล่มเมืองคว่ำให้ทำลาย       เข้ารุมรายล้อมรอบขอบบุรี ฯ

                            ครั้นแล้วก็ถึงเวลาที่  ผีป่าบุกเมือง อาจเป็นด้วยดวงชะตาของเมืองเชียงใหม่จะต้องถึงเวลาล่มสลายก็เป็นได้ ผีป่าจึงมีชัยชำนะต่อเทพเจ้า (ซึ่งบัดนี้ได้คลายความศักดิ์สิทธิ์ลงเสียแล้ว) ของเมืองเชียงใหม่ ดังนี้ขอรับ          

    เดิมเชียงอินทร์เป็นปิ่นเอกราช   ชะตาขาดนครอ่อนอาถรรพ์
    จะเสื่อมสิ้นยศอย่างแต่ปางบรรพ์    เป็นประจันตประเทศเขตกรุงไทย
    ผีป่าจึงแข็งแรงร้ายกาจ             ผีเมืองมิอาจจะสู้ได้
    ก็ถอยป่นย่นยับอัปราชัย              ผีป่าเข้าไปไล่ลุยเมือง
    เทพทุกศาลสิงออกวิ่งพล่าน           กำพูฉัตรพระกาฬโดดศาลเปรื่อง
    ไม่หลอเหลือทั้งพระเสื้อพระทรงเมือง   หอเครื่องเจตคุกบุกหนีไป
    พวกเหล่าผีเล็กน้อยพลอยวิ่งว่อน        ทั้งนครเสียงมี่ผีร่ำไห้
    บ้างอุ้มลูกจูงหลานซานเข้าไพร        เพราะผีป่าเข้าได้ในนคร ฯ  

                            ปรากฏว่าคืนนั้นทั้งคืน พระเจ้าเชียงใหม่ และพระประยูรญาติก็ฝันตรงกันทุกคนว่า เห็นกองทัพไทยเข้าเมืองได้ ภูติพรายประจำเมืองพากันเผ่นหนีหายไปหมด ก็ต่างเป็นทุกข์เป็นร้อนกันไปทั้งวัง  

                            พระเจ้าเชียงใหม่เอง ก็ทรงวิตกไม่แพ้พระญาติพระวงศ์ดอกขอรับ แต่เมื่อการณ์มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ต้อง ฮึดสู้ ไปตามเพรงแหละขอรับ

    พระเจ้าเชียงใหม่ฟื้นตื่นนิทรา   ลุกผวาหวั่นหวาดพระทัยไหว
    ก็ทราบว่าผีบ้านย่านผีไพร            อยู่ไม่ได้หนีออกนอกบุรี
    แสนวิตกอกเมืองจะเคืองเข็ญ       ต้องยากเย็นผู้คนจะป่นปี้
    นี่เพราะกูทำความไม่งามดี           ไปชักให้ไพรีมีขึ้นมา
    แล้วหวนมานะนึกกลับฮึกเหี้ยม         อายุกูก็เยี่ยมหกสิบห้า
    ถึงจะครองเมืองไปก็ไม่ช้า           ไม่ขายหน้ายอมไทยให้อัประมาณ
    อันชาติเสือถึงจะตายลายก็อยู่         ให้ใครดูรู้ชาติว่าอาจหาญ
    ชาติกษัตริย์ถึงจะป่นจนวายปราณ       มิให้พาลชี่อชั่วว่ากลัวใคร
    ถึงชีวันบรรลัยจะไว้ยศ              ให้ปรากฏทั่วโลกวิสัย
    เหมือนทศเศียรสุริยวงศ์ทรงฤทธิไกร    ถูกลักล้วงดวงใจไปให้ราม
    แม้นรักชีวิตรักวงศ์จะส่งนาง          เธอสู้ตายวายวางไม่คิดขาม
    จึงเลื่องชื่อลือยศปรากฎนาม          มีเรื่องความในนิพนธ์จนทุกวัน
    ถ้ากลัวเขาเราส่งสร้อยทองให้        ก็คงไม่เกิดเข็ญเป็นมหันต์
    สู้บรรลัยไว้ยศเหมือนทศกรรฐ์         ให้ลือลั่นชั่วหล้าฟ้าแลดิน
    ตริพลางทางเสด็จออกข้างหน้า        ดำรัสสั่งเสนาทั้งปวงสิ้น
    ให้คอยระวังระไวพวกไพริน     เราเอาเวียงเชียงอินทร์เป็นเรือนตาย ฯ    

                            แม้ นางอัปสรสุมาลี พระมเหสีจะเสด็จมาห้ามปราม และขอให้ส่งนางสร้อยทองคืนไปก็ยังไม่ฟังเสียง  จนพระมเหสีต้องไปนั่งร้องไห้ปรับทุกข์อยู่กับนาง สร้อยฟ้า พระราชธิดากันลำพังสองคนแม่ลูกเท่านั้น

    จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ - [ 11 ก.ย. 48 17:59:37 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป