September 11, 2001
กรุงเทพฯ--20.30 น.
ผมกับพรรคพวกเพื่อนสนิทอีกสามคนนั่งกินดื่มเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดของตัวเองอยู่ที่ร้านประจำแถวสำนักงานย่านถนนสาทรเหนือ
ผมกับพรรคพวกมักถือโอกาสเอาวันคล้ายวันเกิดของแต่ละคนมาเป็นข้ออ้างในการกินดื่มอยู่ด้วยกันเสมอ--ไม่มีอะไรที่พิเศษกว่านั้น
ในวันนั้นไม่มีใครในกลุ่มมีญาณพิเศษพอที่จะสัมผัสได้หรอกว่า อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะเกิดโศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญมวลมนุษยชาติครั้งยิ่งใหญ่--อีกครั้งหนึ่ง
ไม่มีใครในกลุ่มสามารถรับรู้เรื่องราวที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่งเนื่องจากร้านที่เรานั่งเฮอากันนั้นไม่ได้เปิดเครื่องรับโทรทัศน์ให้แขกได้รับชม เนื่องจากวันนี้เป็นวันอังคารไม่มีการถ่ายทอดการแข่งกีฬายอดนิยม--ฟุตบอล
เราสรวลเส-เฮฮาปาร์ตี้กันอยู่เกือบสองยามจึงได้แยกย้ายกันกลับที่พัก--ไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับอีกฟากฝั่งซีกโลก
ไม่แน่..หากเรารับรู้เหตุการณ์ตั้งแต่วินาทีแรก เราอาจแยกย้ายกลับที่พักกันเร็วขึ้น--คงไม่ผู้ใดมีแก่ใจที่จะนั่งละเลียดหาความสุขใส่ตัวได้อีกต่อไป
เมื่อกลับถึงที่พัก หลังอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ ผมรีบเข้านอนด้วยความมึน-ก่ำจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์--สลบไสลหลับทันที.
September 12, 2001
กรุงเทพฯ--07.00น.
เสียงกริ่งโทรศัพท์แผดเสียง เสียงปลายทางร้องตะโกนถาม--เอ็งดูข่าวหรือยัง?
ผมเปิดเครื่องรับโทรทัศน์เป็นจังหวะเดียวกับที่ภาพเครื่องบินโดยสารลำหนึ่งพุ่งเข้าชนอาคาร World Trade Center เสียงระเบิดกึกก้องกัมปนาท พร้อมกับเสียงร้องสบถของนักข่าว--Oh!, Shit
ส่วนผมร้อง--เฮ้ย! พร้อมกับขยี้ตา ตบหัวตัวเองให้หายจากความมึนเมากลับสู่โลกแห่งความจริง
ผมตัดสินใจโทรศัพท์ไปลางานด้วยความรู้สึกว่า สงคราม จะต้องเกิดขึ้นในไม่ช้า--เมื่อรัฐบาลอเมริกันทราบว่า นี่คือการก่อการร้าย ต่อประเทศของตน
อะไรที่ทำให้ผมคิดได้เช่นนั้น?!
- ผมคิดถึงการโจมตีฐานทัพเรือสหรัฐฯภาคพื้นแปซิฟิก Pearl Harbor ของกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 การกระทำครั้งนั้นของเหล่านักรบลูกพระอาทิตย์เหมือนกับการไปแหย่ยักษ์หลับอย่างอเมริกาให้ตื่น และกระโดดเข้าร่วมสงครามอย่างเต็มตัว..กระทั่งการอ้างความชอบธรรมโดยการทิ้งระเบิดปรมานูที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ เพื่อยุติสงคราม--หรือเอาคืนบ้างจากการสูญเสียที่อ่าวเพิร์ล..มาครั้งนี้ กลุ่มก่อการร้าย ที่อ้างว่าเป็นผู้เบื้องหลังการก่อวินาศกรรมก็ได้มาแหย่-กระตุกหนวดเสือถึงถ้ำ.
และหลังจากเหตุการณ์ 9/11 เพียงไม่กี่เวลาให้หลัง รัฐบาลอเมริกันระบุชี้แน่ชัดว่าเหตุการณ์นี้มันคือ การก่อการร้าย และต่อไปนี้เขาจะขออ้างความชอบธรรม--อีกครั้ง..เพื่อประกาศสงครามต่อต้านการก่อการร้ายทุกรูปแบบ มีการสืบสวนค้นลึกลงไปว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อวินาศกรรมการร้ายนี้คือ Osama bin Laden โดยมีกลุ่ม Taliban ให้การสนับสนุนที่พักพิงในประเทศอัฟกานิสถาน รัฐบาลอเมริกันไม่รั้งรอที่จะปล่อยให้อาชญากรลอยนวล กองทหารนับพันกระโจนเข้าสู่การไล่ล่า-เด็ดหัวผู้นำขบวนการก่อการร้ายในทันที
สงครามจึงอุบัติขึ้นอีกครั้ง--ท่ามกลางความชอบธรรม?!
September 11, 2005
กรุงเทพฯ--00.00 น.
แม้ว่าวันเวลาจะผ่านพ้นล่วงเลยมา 4 ปี ยังไม่มีข่าวแน่ชัดว่านายบินลาเดน ที่รัฐบาลอเมริกันหมายหัวจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร บ้างว่าตายแล้ว-บ้างว่ายังมีชีวิตอยู่ แต่ที่แน่ๆยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า เขา ยังอยู่หรือตาย และที่แน่นอนไปกว่านั้น ประชาชนชาวอัฟกันล้วนต่างต้องเจ็บปวดกันไปถ้วนหน้า--ผลพวงจากสงคราม!!
- ประเทศ อิรัค ปราศจากผู้นำที่มีชื่อว่า ซัดดัม ฮุสเซน โดยการปลดปล่อยจากประเทศมหาอำนาจ--สหรัฐอเมริกา เป็นการขยายผลมาจากนโยบาย ต่อต้านการก่อร้าย หลังเหตุการณ์ 9/11 เมื่อ 4 ปีก่อน.
- เกาหลีเหนือ คือประเทศที่ถูกกาหัวเป็นประเทศต่อไป--ประเทศที่อยู่ในข่ายเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพของโลก.
โลก ในศตวรรษที่ 21 ต่างผ่านพ้นทั้งสงครามโลกมาสองครั้ง ต่างผ่านพ้นสงครามเย็น และกำลังก้าวย่างสู่สงครามใหม่อีกครั้ง--สงครามแห่งการก่อการร้าย!
สงครามก่อการร้ายได้ขยายวงกว้างไปทุกพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่พันธมิตรกับสหรัฐฯ
จาก มหานครนิวยอร์ก สู่ กรุงมาดริด และ มหานครลอนดอน
และยังคงมีต่อไป..ต่อไป และต่อไป
หากว่าวันนี้--มนุษย์ ยังคงมีความ ชอบทำ มากกว่า ชอบธรรม
Only the dead have seen the end of war--Plato
ด้วยมิตรภาพ
11 กันยายน 2548
จากคุณ :
อานันท์-โจนาธาน
- [
11 ก.ย. 48 22:14:51
]