ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงครึ่งก่อน...อ่ะห้อย...อ่ะห้อย...
ในเมื่อแกไม่ยอมบอกว่าขายให้ใครไป ในเมื่อแกไม่ยอมบอกว่าใครเอาตัวผู้หญิงของอั๊วไป งั้นแกก็บอกลาโลกได้เลย!
คมมีดวาบวาวซึ่งถูกเงื้อจนสุดแขนปักลงมาบนร่างของชายที่ตัวสั่นจนเห็นได้ชัด หากก่อนที่ปลายมีดจะแตะต้องเนื้อขาของมันที่แสนจะบอบช้ำ อะไรสักอย่างกลับพุ่งตรงมา และนั่นจึงทำให้ไตรรัศมิ์ที่กำลังจะทำโทษคนบ้าจรรยาบรรณต้องใช้อาวุธในมือของตนเองปัดผ่านมันอย่างรวดเร็ว
ไกลออกไป...ณ ที่ซึ่งแสงไฟสลัวราง ใครคนหนึ่งได้ก้าวเข้ามา
บุรุษชุดดำยังคงโยนก้อนหินในมือตนเองไปมาในอากาศราวกับเรื่องที่ทำเมื่อครู่เป็นเพียงการทักทายของเพื่อนร่วมอายุ ใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นเล็กๆ ตรงหางตายิ้มเยื้อนก่อนจะก้าวมาช้าๆ และนั่นจึงทำให้กลุ่มของไตรรัศมิ์ได้เห็น...ยี่สิบคนที่อยู่ข้างหลัง แก๊งค์ช้างน้อย!
ไตรรัศมิ์ที่เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้แล้วค่อยๆ หัวเราะออกมาก่อนจะส่ายศีรษะให้กับแผนการที่ตนเองเพิ่งจะตกลงไป
อา...เจ็บสะใจดีจริงจริ๊ง
คิดนานมั้ยวะแผนนี้น่ะ ร่างสูงเหยียดยิ้มก่อนจะหันไปหาลูกน้องทั้งสิบห้าคนของตนเองให้เตรียมพร้อม ขณะที่ร่างสะบักสะบอมซึ่งก็คงเป็นนกต่อในครั้งนี้รีบวิ่งหัวซุกหัวซุนกลับไปหายังนายของมัน
ก็ไม่นาน... หัวหน้าแก๊งช้างน้อยเว้นช่วงเล็กน้อยก่อนจะยักไหล่ราวกับเห็นเป็นเรื่องน่าขัน ก็แค่...ตั้งแต่คนบางคนมันมีความรักล่ะมั้ง
ลื้อต้องการอะไร
แลกเปลี่ยนเป็นยังไงล่ะ หัวหน้าแก๊งช้างน้อยยื่นข้อเสนอ ขณะที่คนฟังได้แต่หรี่ตามอง
ว่ามา
อาบอบนวดที่ลื้อจะเปิดตัดหน้าอั๊ว ขอให้ยกเลิก
มันไม่มากไปรึไง
อย่างน้อยๆ ก็คุ้มต่อหนึ่งชีวิตล่ะ
แต่ถ้าอั๊วไม่ให้ล่ะ
ลื้อก็ต้องตายอยู่ที่นี่ อย่าลืมสิ ว่าอั๊วมีมากี่คน
นั่นสินะ มือหนาไขว้ไปด้านหลัง ขณะที่เหล่าลูกพี่เริ่มอ่านสัญญาณที่หัวหน้าบอก
อย่างช้าๆ คนของไตรรัศมิ์ทั้งสิบห้าคนก็เริ่มที่จะก้าวมายังเบื้องหลังของเขา ขณะที่คนซึ่งยืนอยู่ด้านหน้าสุดยังคงทำท่าครุ่นคิดถึงข้อเสนอที่ฝ่ายตรงข้ามยื่นให้
ร่างสูงเสยผมตนเองราวกับพออกพอใจกับสิ่งที่ได้เสียเต็มประดา
ใช่!
งานหลั่งเลือดได้เริ่มขึ้นแล้ว
ปาร์ตี้!
โทษฐานที่มันดึงผู้หญิงของอั๊วไปเกี่ยวข้อง กับทำให้อั๊วเสียเวลา เอาแค่พิการก็พอ!!!
เงียบนะเอบริล คนที่บาดเจ็บจากการต่อสู้เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนดุเสียงขรึม ใบหน้าที่ยังคงขาวอมชมพูด้วยความใสปิ๊งของสายเลือดที่ได้รับ ในยามนี้ พวงแก้มของเขาก็ยิ่งแดงยิ่งกว่าเแดงด้วยพละกำลังที่ตนเองเพิ่งออกไป อา...หล่อทุกสถานการณ์จริงๆ
แต่เลือดคุณ... แทบจะทันทีที่มือของเธอหลุดจากพันธนาการบ้าบอนี้ เอบริลก็แทบจะไม่รอให้ตนเองคิดอะไรอีกต่อไป ด้วยมือบางรีบแตะที่แผลของเขาก่อนจะนิ่วหน้า นี่มันกระสุนปืนนี่!
เล็กน้อยน่า มันก็แค่ตุงๆ ผ่านิดหน่อยก็คง...หาย
จุ๊บ
เรียวปากที่เมื่อครู่เจ้าตัวยังคงปัดป้องเพื่อไม่ให้คนชั่วได้ระราน บัดนี้กลับเป็นฝ่ายแตะแผ่วๆ ที่ริมฝีปากเย็นชืดของคนตรงหน้า
อุ๊บ มือหนาพยายามผลักไสคนที่ทำความขอบคุณแบบสนิทชิดเชื้อเป็นพัลวัน และก่อนที่ใคร...หรือ...อะไรจะได้ทันสังเกต
ใช่แล้ว...
มือที่อีกข้างที่ไม่ได้จับมีดนั่นเอง
อ๊ะ
นั่นแหละ
มือข้างนั้นกลับแตะแผ่วเบาที่พวงแก้มของคนที่ยังคงอยู่ในชุดคนไข้ และพร้อมกันนั้น...ริมฝีปากที่เพิ่งถูกขโมยไปก็เริ่มที่จะรุกรานกลับบ้าง
รุนรานกลับ?
อ๊าย......
เอบริลที่คิดว่าเจ้าตัวจะแค่จุ๊บขอบคุณเท่านั้นได้แต่นิ่งงันเมื่อจู่ๆ คนที่เอาแต่ทำท่าว่า like a virgin กลับเป็นฝ่ายเรียกร้อง เรียกร้อง และเรียกร้องเพิ่ม
เรียกร้องเพิ่ม!
ตายแล้ว....
ตะ ไต๋
ดวงตาสีดำสนิทที่โตจนน่าอิจฉาจ้องมองเธอก่อนจะขยิบตาให้
ถึงผมจะไม่เคย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้นะ เสียงห้าวแผ่วเบา ขณะที่เหงื่อเม็ดใสๆ ผุดซึมขึ้นจนเต็มหน้า เอบริล...
หือ?
ผมขอกอดคุณอีกทีได้มั้ย แทบจะไม่ต้องรอให้เธอตอบรับ ร่างสูงที่เพิ่งดันตัวเธอออกห่างก็รั้งร่างเธอมาจนชิดใกล้ ใกล้จนใบหน้าของเขาอิงซบกับบ่าที่แสนจะบอบบางของเธอ
ขณะที่ไกลออกไป...
เหล่าลิ่วล้อแห่งแก๊งค์หมีน้อยได้แต่เบือนหน้าหนี ขณะที่บนพื้นโกดังซึ่งเต็มไปด้วยฝุ้งดินที่คละคลุ้ง...ร่างทั้งสี่ของมิจฉาชีพต่างนอนหายใจระรวย และสุดท้าย...เสียงไซเรนของรถตำรวจจึงค่อยๆ ดังขึ้นทีละนิด...ทีละนิด...
และ...
ภาพสุดท้ายที่เขาได้เห็น...
ไอ้คนๆ นั้น...ไอ้ผู้ชายที่เธอบอกว่าเป็นคนรัก... ไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวผมสีทอง ไอ้คนที่ทำให้เขาต้องเป็นฝ่ายเดินจากเธอ ได้ก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว และนั่นก็คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาได้รับรู้
ลาก่อน...เอบริล
ไต๋!!!!!!!!!
---------------------------------------------------------------------------
to be continued #13 +++ คุณพ่อออกโรง +++ 
---------------------------------------------------------------------------
แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 48 18:06:38
แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 48 17:46:32
แก้ไขเมื่อ 12 ก.ย. 48 13:18:45