เอิ๊ก แก้ชื่อหัวข้อพลาด แทนที่จะเป็น 's กลายเป็น 're แก้ชื่อหัวข้อกระทู้ไม่ได้ด้วย แย่จัง... - -"
เอาใหม่ๆ
THERE'S SOMETHING ABOUT "COPYRIGHT" ต่างหาก
อู้งานมาเดินเล่นแถวถนนแล้วเห็นกระทู้ของคุณไอซ์(Clear Ice)เข้า แล้วเมื่อหลายวันก่อนเดินเข้าไปเที่ยวในกระทู้ของคุณคืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น เห็นว่ามีเรื่องเกี่ยวกับลิขสิทธิ์หลายประเด็นที่น่าสนใจ ก็เลยลองรวบรวมคำถาม ข้อสงสัย มาคุยกันเล่นๆ ในเชิงกฎหมายกันค่ะ (อย่าเพิ่งเห็นเป็นเรื่องน่าเบื่อเลย เพราะจบมาด้านนี้ จะให้พูดเรื่องอื่นคงเข้ารกเข้าพงไปกันใหญ่)
"กระทู้ชวนคุย : จะรู้ได้ยังไงว่า ชื่อนิยายเรื่องนี้มีคนใช้แล้ว" ของ คุณไอซ์
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3702357/W3702357.html
"สงสัยอยากถามพี่ๆ นักเขียนหน่อยค่ะ" ของ คุณคืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3715475/W3715475.html
ออกตัวไว้ก่อนว่า ไม่นับตัวเองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาเต็มขั้น แต่ขออนุญาตเก็บสิ่งที่ทราบและศึกษามาบ้าง มาเล่าสู่กันฟัง ถ้าเป็นการเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน ต้องขออภัยด้วยนะคะ
เรื่องที่อยากคุยให้ฟังคือ อะไรคือการละเมิดลิขสิทธิ์ ทำอย่างไร เราถึงจะไม่ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เพราะเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญพอกับสิทธิของเราเหมือนกัน
ที่ไม่พูดถึงเรื่องผู้เขียนมีสิทธิอะไรในงานเขียนของตัวเองบ้าง เพราะเดาเอาว่าทุกคนน่าจะตระหนักกันดีอยู่แล้ว แล้วก็ขอละเรื่องเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายหรือให้ใช้งานอันมีลิขสิทธิ์เอาไว้ ให้คนที่มีผลงานตีพิมพ์แล้ว และมีประสบการณ์โดยตรงคุยให้ฟังน่าจะดีกว่า และเรื่องที่พูดมานี้ ก็มีคำตอบดีๆ ของคุณ ฯคีตกาล อยู่ในบอร์ดเจเจ ซึ่งในที่นี้ก็ขออนุญาตทำลิ้งก์ เอาไว้นะคะ เพราะมีหลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น เทคนิคการส่งต้นฉบับ การเซ็นสัญญา ฯลฯ เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์มากๆ สำหรับนักเขียน และคนชอบเขียน
"คำถามที่เจอประจำในแวดวงวรรณกรรม"
http://www.jj-book.com/jjtalk1/view.php?qs_qno=273
บอกกล่าวไว้ล่วงหน้าว่าจะไม่ลงรายละเอียดมาก เพราะเรื่องลิขสิทธิ์ ในทางการศึกษาหรือวิชาการเป็นเรื่องค่อนข้างซับซ้อน มีข้อพิจารณามาก ถ้ามีข้อสงสัย ข้อสังเกตอื่นๆ ก็คุยกันได้นะคะ ^ ^
เอาล่ะ
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า เริ่มจากทำความรู้จักกับ 'ลิขสิทธิ์' ในเบื้องต้นกันตามธรรมเนียมดีกว่า
------------------------------------------------
ลิขสิทธิ์คืออะไร
เออ นั่นน่ะสิ ลิขสิทธิ์ คือ อะไร
อ๋าย
เดี๋ยวก่อนค่ะ อย่าเพิ่งเขวี้ยงอะไรมา ไม่ได้ตั้งใจกวนประสาทจริงๆ นะ
เพราะ กฎหมายลิขสิทธิ์เป็นกฎหมายที่ออกจะแปลกกว่าชาวบ้านเขาอยู่นิดหน่อย อีตรงที่ไม่มีบทนิยามของคำว่าลิขสิทธิ์สักคำ ไม่เชื่อ ลองดูที่มาตรา 4 ก็ได้ ขึ้นต้นมาก็บอกทันทีเลยว่า งานสร้างสรรค์ ได้แก่งานอะไรบ้าง แล้วงานสร้างสรรค์พวกนี้แหละ คือ งานอันมีลิขสิทธิ์
ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะ
แหม
จะให้แปลกันดื้อๆ ว่า ลิขสิทธิ์ คือ ลิข (ลิขิต - การเขียน การบันทึก) + สิทธิ = สิทธิในงานเขียน มันก็ออกจะห้วนไปหน่อยละมั้ง เรื่องลิขสิทธิ์เป็นเรื่องของคนเขียน คนสร้างสรรค์อย่างเดียวเสียเมื่อไหร่ เนื่องจากขอบเขตของลิขสิทธิ์นั้นกว้างขวางเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ
ถ้าแปลเจ้าคำว่า 'Copyright' กันซื่อๆ ก็คือ right ในการ copy นั่นละ มีที่มาจากยุค Gutenberg ทำแท่นพิมพ์ เพราะเจ้าของโรงพิมพ์เขาลงทุนไปแล้ว เขาก็คิดว่าเขาน่าจะได้เป็นเจ้าของงานที่ตัวเองพิมพ์ให้ด้วย ส่วนสิทธิในงานเขียนของผู้เขียน ก็คือ Author's right แต่ไปๆ มาๆ ก็เริ่มจะแยกสองอย่างนี้ไม่ออก เลยเรียกรวมๆ กันว่า 'Copyright' เป็นที่เข้าใจกัน
เท่านั้นยังไม่พอ มนุษย์เรามีสมองกับสองมืออยู่นิ่งๆ นอนเปล่าก็เศร้าใจ มาสร้างสรรค์งานชนิดใหม่ๆ กันดีกว่า ทำให้ขอบเขตของงานสร้างสรรค์เลยไปถึงงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานที่เริ่มต้นมาจากการขีดๆ เขียนๆ พวกนี้ อย่าง ทำเพลงก็ต้องมีคนร้องคนเล่น ทำหนังสือขายก็ต้องมีสำนักพิมพ์จัดพิมพ์ให้ มีคนเอานิยายไปทำหนัง รวมไปถึงงานสร้างสรรค์ประเภทอื่นๆ ด้วย เช่น งานปั้น งานวาดรูป พอยุคเทคโนโลยีก้าวไกล ก็ให้ความคุ้มครองรวมไปถึงการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วย
ลิขสิทธิ์ก็เลยไม่ได้อยู่แค่ การ Copy เหมือนชื่ออย่างเดียวซะแล้ว
เพราะให้คำนิยามยากอย่างนี้ ก็เลยไม่นิยามมันเสียเลย หันไปบอกว่างานอะไรบ้างเป็นงานสร้างสรรค์และเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์น่ะ ง่ายกว่าเยอะ
กฎหมายนับว่า งานไหนเป็นงานสร้างสรรค์ ลองดูที่ พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537มาตรา 6 ได้ค่ะ
ดังนั้น ถ้าจะถามว่า ลิขสิทธิ์คือ อะไร สารภาพตามตรงว่า ตอบยาก แต่ถ้าถามว่า งานอะไรบ้างที่จะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ หรือ งานที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ต้องมีลักษณะอย่างไร อันนี้ตอบได้ ไม่มีปัญหาค่ะ
งั้นเรามาเปลี่ยนคำถามกันดีกว่าเนอะ
งานอะไรบ้างที่จะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์
ตอบแบบกำปั้นทุบดินว่า งานที่จะได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ คือ งานสร้างสร้างสรรค์
ส่วนงานที่ว่า นอกจากวรรณกรรมแล้วยังมีอะไรอีกบ้าง ขออนุญาตตอบแบบคนขี้เกียจพิมพ์สุดๆ คือ ไปดู พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 6 เอาเถอะค่ะ รายการมันเยอะเหลือเกิน ส่วนงานแต่ละประเภทหมายความว่าอะไร หมายถึงงานอะไรบ้าง ดูที่บทนิยาม มาตรา 4 นะคะ
พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มีติดบ้านไว้ก็ไม่เลวนะ)
http://www.finearts.cmu.ac.th/library/law-license.htm
งานที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ต้องมีลักษณะแบบไหนกันล่ะ
แหะๆ ไม่อยากบอกให้ตัวเองถูกเขวี้ยงอีกรอบเลยว่า กฎหมายลิขสิทธิ์ไทยไม่ได้บอกหลักพิจารณาลักษณะงานอันมีลิขสิทธิ์เอาไว้ แต่ก็ยืมหลักเกณฑ์ของกฎหมายต่างประเทศมาใช้ประกอบการพิจารณา มีองค์ประกอบด้วยกัน 3 ข้อ จำง่ายๆ ดังนี้
1. Expression of Idea คือ จะต้องมีการแสดงออกรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เช่น เขียนออกมาเป็นนิยาย แต่สิ่งที่ยังอยู่ในหัว หรือ ไอเดีย ตราบใดที่ยังไม่ได้แสดงออกมาข้างนอกให้ใครเห็น แล้วเกิดมีคนใจตรงกัน แต่เขาเป็นเสือปืนไว เขียนออกมาก่อน งานเขียนของเขามีสิทธิได้รับการคุ้มครองก่อน เพราะ ลิขสิทธิ์ไม่คุ้มครองไอเดียค่ะ (ดู มาตรา 6 วรรค หรือ ย่อหน้า 2 นะคะ)
2. Originality คือ มาจากการสร้างสรรค์ของผู้สร้างสรรค์งานเอง ไม่ได้ไปลอกของชาวบ้านมา งานอาจจะออกมาหน้าตาคล้ายๆ กันก็ไม่เป็นไร คนสร้างสรรค์ต่างมีลิขสิทธิ์ในงานของตัวเองทั้งคู่ ถ้านิยายสามเล่ม สามนักเขียน เขียนให้พระเอกลักพาตัวนางเอกไปอยู่ด้วยกันบนเกาะร้างสองต่อสองเหมือนกัน (มุขคลาสสิกเชียว) แต่ที่มาที่ไป รายละเอียดไม่เหมือนกัน นักเขียนแต่ละคนก็ต่างมีลิขสิทธิ์ในนิยายของตัวเอง ไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์กันค่ะ
3. Fixation กฎหมายอเมริกันกำหนดให้ต้องมีการบันทึกงานให้อยู่ในรูปที่จับต้องได้ (Tangible Form) แต่กฎหมายไทยยังไม่ชัดเจนในเรื่องนี้ ยังเถียงกันอยู่เลยว่าจะเอายังไง แต่ถ้าว่ากันตาม พ.ร.บ. เข้าว่า ก็ได้แก่ งานที่อยู่ในรูปแบบตาม มาตรา 6ค่ะ
อ้อ
แถมอีกนิดหนึ่ง คำว่า 'องค์ประกอบ' ในทางกฎหมายนั้น หมายถึง แต่ละข้อที่กล่าวถึง ต้องไปด้วยกัน มาด้วยกันเลือดสุพรรณเอ๋ย ขาดอันใดอันหนึ่งไม่ได้ ถ้าขาดไปข้อใดข้อหนึ่ง เรียกว่า ไม่ครบองค์ประกอบ อาจไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
ถ้างานเขียนหรืองานวรรณกรรมของเรา มาจากการสร้างสรรค์ของเราเอง ไม่ได้ไปลอกใครเขามา(ข้อนี้สำคัญมาก) มุขอาจจะคล้ายกันได้ มีการแสดงออกมาเป็นรูปเป็นร่าง ไม่ใช่ไอเดียลอยๆ อยู่ในสมอง ก็นับได้ว่าเป็นงานสร้างสรรค์ และได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมายลิขสิทธิ์โดยอัตโนมัติแล้วล่ะค่ะ
รู้จักลิขสิทธิ์กันมาพอสมควรแล้ว แต่ยังมีสิทธิของผู้สร้างสรรค์งาน หรือ นักเขียนที่อยากแนะนำให้รู้จักกัน ถ้าไม่แนะนำสักหน่อยละก็เขาน้อยใจแย่ ไม่แน่ใจว่ามีใครเคยได้ยินคำนี้มาก่อนหรือเปล่า
สิทธิที่ว่า เรียกว่า "ธรรมสิทธิ์" หรือ มีชื่อภาษาปะกิตว่า "Moral right"
(มีต่อนะคะ)
แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 48 18:28:16
จากคุณ :
ปิยะรักษ์
- [
14 ก.ย. 48 18:24:19
]