CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เสไม่แสร้ง : เซ็กส์..ไม่เซ็กส์

    เมื่อเอ่ยถึงวิชา 'เพศศึกษา' ผู้ใหญ่หน้าบางทั้งหลายต่างส่งเสียงร้อง 'ยี้' ถามว่า 'ทำไม' ท่านต้องตกอกตกใจส่งเสียงทำหน้าตาเหยเกอย่างนั้น ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องผีเน่าร่างกายฟอนเฟะขึ้นอืดเสียหน่อย อย่าเพิ่งเบือนหน้าหลบหนีหายสิครับ

    - ไอ้คนลามก.

    นั่น..ท่านตวัดหางตาพร้อมมอบคำผรุสวาทให้เสียอย่างนั้น

    เรื่องเพศเป็นเรื่องต้องห้าม--ห้ามพูดในสังคมไทยมาช้านาน หลายท่านบอกว่าเรื่องอย่างนี้มันมิสมควรพูดถึงด้วยละประการทั้งปวง..

    หลายท่านบอกว่ามันเป็นเรื่องต่ำ..แล้วท่านพูดในแง่ไหนเล่าครับถึงว่ามันต่ำ? ก็ในเมื่อท่านเข้าใจว่าเรื่องเพศที่จะพูดคุยนี่มันเป็นเรื่องที่อยู่ต่ำกว่าใต้สะดือนี่ แน่นอนละว่ามันคงไม่เขยิบขึ้นสูงไปกว่านั้น และสิ่งสำคัญท่านพูดมันถึงในแง่ไหน ด้านไหน บวกหรือลบ!

    ถ้าเป็นเพียงแค่เรื่องลามกจกเปรตเท่านั้นนั่นละต่ำ..ต่ำแน่ๆ--จิตใจต่ำ

    แต่แปลก! หลายท่านก็ยังชอบรับฟัง ยิ่งพวก 'ถือมือสากปากถือศีล' ด้วยละ ชอบฟังกันนัก

    - มีใครยกมือแย้งขอให้ถอนคำพูดหรือเปล่าครับ? ถ้ามีกรุณายกค้างเอาไว้ก่อน ผมขออนุญาตยังไม่ถอนครับ!

    เมื่อทัศนคติติดลบเช่นนี้ 'วิชาเพศศึกษา' ในหลักสูตรการเรียนการสอนบ้านเราจึงมักไปแอบ หลบ แฝง ซ่อนเร้นอยู่ในเนื้อหารายวิชาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจิตวิทยา สังคมวิทยา วิทยาศาสตร์ และสุขศึกษา ไม่ปรากฏเป็นรายวิชาเป็นตำหรับตำรารูปเล่ม และเมื่อเล่นหลบซ่อนตัวกันแบบนี้ คนที่อยากรู้อยากเห็นจึงต้องแทรก แอบเข้าไปในช่องหลืบเพื่ออ่าน-ศึกษา ทั้งนี้เพื่อเป็นการปกป้องตนเองให้พ้นจากคำครหานินทาของผู้อื่นที่อาจกล่าวพูดจาให้ร้ายได้ว่าเป็นพวก 'หมกมุ่น' และ 'ฝักใฝ่' เอาแต่เรื่องกามารมณ์และการสืบพันธุ์

    ครั้นมีกลุ่มคนอยากให้มีการสังคายนา ปฏิรูปการเรียนการสอนวิชาเพศศึกษาให้เป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าที่ผ่านๆมา ซึ่งเด็กบ้านเรามักจะได้ไปเรียนวิชานี้เอาเมื่อล่วงเข้าวัยรุ่น-วัยหนุ่มวัยสาว กลับถูกอีกกลุ่มที่ต่อต้านคัดค้านอย่างหัวชนฝาหาว่า 'เป็นการชี้โพรง' และ 'กระตุ้น' ให้เด็กมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร

    - ทัศนคติติดลบอีกแล้ว!!

    -0-

    หลักสูตรการเรียน-สอนวิชาเพศศึกษาในสังคมประเทศโลกตะวันตก โดยขอยกเอาประเทศสหรัฐอเมริกามานำเสนอเป็นตัวอย่าง (ก็เห็นว่าระบบการศึกษาบ้านเราชอบเอนอิงกับเขานัก) ที่นั่นเขาเริ่มให้ความรู้เรื่องนี้กันตั้งแต่อยู่ในวัยเด็ก--เด็กซึ่งอยู่ในช่วงวัยก่อนเข้าเรียนเสียด้วยซ้ำ!

    วัยเด็ก ช่วงอายุระหว่าง 2-12 ปี
    แบ่งออกได้เป็นสองช่วงอายุ คือเด็กก่อนวัยเรียน 2-5 ปี และเด็กวัยเริ่มเข้าเรียน 6-12 ปี

    ช่วงอายุ 2-5 ปี--เด็กในวัยนี้เป็นวัยที่เริ่มสังเกตความแตกต่างของอวัยวะในร่างกายที่ไม่เหมือนกันระหว่างหญิงและชาย, เด็กจะเริ่ม 'เล่น'อวัยวะของตนเอง--มีใครเป็นบ้าง?, เด็กอยากรู้อยากเห็นอวัยวะของเพื่อนเพศตรงข้าม--เวลาเด็กชายแกล้งเด็กหญิงโดยการแอบเปิดกระโปรงเธอดูนั่นละครับ พ่อแม่ผู้ปกครองยังไม่ต้องตกใจ มันเป็นเรื่องปรกติธรรมชาติ, เด็กรู้จักปกปิดอวัยวะด้วยความรู้สึกว่าเป็นของส่วนตัว และเริ่มเรียนรู้ เลียนแบบบทบาทพฤติกรรมของเพศตนในการเล่นและการใช้ชีวิตประจำวัน--การอายของเด็กเวลาที่ต้องอาบน้ำจึงเป็นเรื่องปรกติอีกเช่นกัน

    การที่เด็กในช่วงวัยนี้มีพฤติกรรมดังกล่าวนั้นถือเป็นโอกาสและจังหวะเหมาะมากครับสำหรับพ่อแม่ที่จะได้สอนถึงหน้าที่และการดูแลทำความสะอาดอวัยวะ เปิดโอกาสให้เด็กถามข้อสงสัยเกี่ยวกับอวัยวะโดยเฉพาะอวัยวะเพศ และที่สำคัญพ่อแม่จะต้องเริ่มสอน 'สิทธิของเด็ก' ให้เขารู้ว่าตัวเขาเองมีสิทธิที่จะ 'ปฏิเสธ' และ 'ไม่ควรยอม' ให้บุคคลอื่นจับต้องอวัยวะเพศของตน หรือส่วนต่างๆของร่างกายที่เขาไม่ต้องการ!

    - สังคมอเมริกันจะกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า 'The right to say No'

    ช่วงอายุ 6-12 ปี.
    เด็กวัยนี้อาจเริ่มลอกเลียนแบบการยั่วยวนทางเพศ เช่นการจูบ การพูดจาเกี้ยวพากัน หรือดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้าม (flirt) และเด็กชายในช่วง 11-12 ปีอาจเริ่มมีการเรียนรู้เรื่องวิธีสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง (masturbation) จากเพื่อน

    เช่นกันครับที่ในช่วงเวลานี้ถือเป็นโอกาสและจังหวะเหมาะให้พ่อ-แม่ทำการสอนเรื่องการมีสัมพันธภาพกับเพื่อนเพศตรงข้ามที่นำมาซึ่งการให้ 'คุณค่า' และ 'ให้เกียรติ' แก่ตัวเองและเพศตรงข้าม, การวางตัวที่เหมาะสม, ความคิดที่แตกต่างของหญิงและชายในเรื่องความรักหรือการมีเพศสัมพันธ์ เพราะเด็กในช่วงวัยนี้จะเริ่มสะสม หล่อหลอมทัศนคติและค่านิยมเกี่ยวกับเรื่องเพศ ตลอดจนความรับผิดชอบเมื่อมีเพศสัมพันธ์

    วัยรุ่น ช่วงอายุ 13-19 ปี.
    เป็นช่วงเวลาที่สังคมชาวอเมริกันจะให้ความสำคัญที่สุดในการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจในเรื่องเพศ ซึ่งเป็นในทางตรงข้ามกับเด็กวัยนี้ 'ที่มักจะหลีกหนี' การถามปัญหาเรื่องเพศ หรือการซักคำถามที่เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์!

    ผู้ปกครองอเมริกันส่วนมากมักสังเกตพฤติกรรมของลูกหลาน และยังถือเป็นความรับผิดชอบในส่วนหนึ่งที่จะสอนถึงวิธีการคุมกำเนิดและการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย (how to have safe sex)

    'ภาระ' ในการถ่ายทอดความรู้เรื่องเพศศึกษาจะไปเน้นหนักที่ 'ระบบการศึกษาของโรงเรียน' ซึ่งเด็กในวัยนี้จะได้รับการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ต่างๆ เช่น

    "การมีความสนใจเพศตรงข้าม" ความรู้สึกที่เกิดจากการกระตุ้นทางเพศ การบังคับการตอบสนองตนเองจากสิ่งเร้า ตลอดจนการจัดเก็บอารมณ์ทางเพศและการหาทางออกอย่างถูกต้องและเหมาะสม

    "เรื่องเพศและการสืบพันธุ์" การสอนที่มุ่งเน้นลักษณะกายภาพและหน้าที่ของอวัยวะที่มีบทบาทต่อการสืบพันธุ์ของมนุษย์ ควบคู่ไปกับการบทเรียนที่เน้นการสอนเรื่องเพศวิถี

    "เรื่องเพศวิถี- sexuality การเรียนรู้บทบาทของเพศหญิงและชายที่สังคมให้การคาดหวัง ตลอดจนการวางตัว มารยาทให้สอดคล้องกับเพศในการเข้าสังคม และการเรียนรู้เกี่ยวกับความแตกต่างของกลุ่มคนสามกลุ่ม คือ กลุ่มคนที่มีความต้องการทางเพศกับเพศตรงข้าม (heterosexual), กลุ่มคนที่มีความต้องการทางเพศได้ทั้งกับหญิงและชาย (bisexual) และกลุ่มคนรักร่วมเพศที่มีความต้องการทางเพศกับเพศเดียวกัน (homosexual)

    "การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย- how to have safe sex" การใช้ถุงยางอนามัยของเพศชายและหญิง และการต่อรองของหญิงชายเมื่อตกลงจะมีเพศสัมพันธ์ รวมไปถึง 'สิทธิในการปฏิเสธ' เมื่อไม่ต้องการที่จะมีเพศสัมพันธ์

    "วิธีการคุมกำเนิด" เช่นการใช้ถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิด

    "โรคติดต่อโดยการมีเพศสัมพันธ์" เช่นโรคเอดส์ หนองใน เริม ซิฟิลิส เป็นต้น

    "การตั้งครรภ์กับการรับมือการตั้งครรภ์" เป็นการสอนที่ทำให้เด็กสาว-เด็กชายวัยรุ่นเห็น 'ภาระความรับผิดชอบ' ของการเป็นพ่อแม่คน

    เด็กวัยรุ่นอาจได้รับความกดดันจากเพื่อนให้มีเพศสัมพันธ์ บางโรงเรียนจะสอนการจัดการกับความกดดันทางเพศ พ่อแม่ชาวอเมริกันมักจะเข้ามามีบทบาท มีส่วนร่วมในการสอนลูกว่า การมีเพศสัมพันธ์ควรเกิดขึ้นเมื่อ 'สภาพทางร่างกายและจิตใจ' ของลูกพร้อม ไม่ใช่เกิดจาก 'ความกดดัน' ที่อยากมีประสบการณ์เหมือนเพื่อน หรือความกดดันที่เกิดจากแฟน!!

    และอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญที่สังคมอเมริกันให้ความสำคัญนั่นคือ การผนวกเอาบทเรียนเรื่อง 'การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อนต่างเพศที่มีเพศสัมพันธ์ด้วย (healthy sexual relationships) เข้าเป็นส่วนหนึ่งในบทเรียนเพศศึกษาของวัยรุ่น โดยการให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการถ่ายทอดข้อความเรื่องเพศที่จำเป็นต่อวัยรุ่นได้ ได้แก่เรื่องการเกี้ยวพาราศีและการออกเดท, ภัยที่ตามมาจากการออกเดท เช่น การข่มขืน, การปฏิบัติ ให้เกียรติกันของเพื่อนต่างเพศและคู่รัก และการอยู่ร่วมกับเพื่อนที่รักเพศเดียวกันเป็นต้น

    การผนวกบทเรียนใหม่ดังกล่าวใหม่เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นที่จะ 'ลดปัญหาสังคม' ที่เกิดขึ้น เช่นการข่มขืน, ปัญหาการหย่าร้าง, ปัญหาการทำทารุณกรรมทางเพศกับ 'กลุ่มคนที่รักร่วมเพศ' และปัญหา 'การเคารพสิทธิและการไม่ละเมิดสิทธิ' ของเพื่อนต่างเพศเมื่อวัยรุ่นก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่
    ....................

    นำเสนอมาถึงขั้นนี้เห็นทีจะต้องขอละเอาไว้อยู่อีก 2 วัย คือ วัยผู้ใหญ่ และวัยชรา ด้วยเห็นว่าการนำเสนอเพียง 3 ช่วงนี้คงเพียงพอที่จะทำให้ท่านผู้ที่คัดค้านการปฏิรูปการเรียน-สอนวิชานี้ได้เห็นภาพชัดมากยิ่งขึ้นว่าไม่มีเนื้อที่ของเนื้อหาตรงไหนที่เป็นการชี้ช่อง ชี้โพรง อย่างที่นึกคิดถกเถียง

    - หรือยังเห็นว่ามีช่วงไหนที่ล่อแหลม 'บาดใจท่าน' บ้างไหมครับ? ถ้ามีกรุณายกมือขึ้นท้วงและค้างเอาไว้ก่อน เพราะผมยังไม่คิดจะหยุดพูดครับ--กรุณารักษากฎ กติกาและมารยาทขอให้ผมได้พูดจบเสียก่อน

    (ต่อด้านล่าง)

    จากคุณ : อานันท์-โจนาธาน - [ 15 ก.ย. 48 22:18:25 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป