.....เป็นคนที่ยืนอยู่ข้างเธอคอยดูแล
อยู่เมื่อเธอเหงาใจ
เป็นเพียงคนหนึ่งที่เธอเห็นแล้วผ่านไป
เธอจะรู้หรือเปล่า
ในใจมีเธอทำเพื่อเธอเพียงคนเดียว
แต่ก็เท่านั้นเอง
เป็นลมเบาๆที่เธอนั้นไม่เคยเห็น
เธอไม่เคยมองดูที่ฉัน....
เสียงเพลงจากสถานีวิทยุประจำมหาวิทยาลัยดังกระหึ่มในช่วงเช้า ในขณะที่หญิงสาวร่างเล็กบางในชุดนักศึกษากำลังก้มหน้าก้มตาจดรายงานอย่างขมักขะเม้น แต่พอทำนองเพลงนี้ดังขึ้นมาเธอถึงกับเงยหน้าขึ้นจากสมุดตรงหน้าทันที ทำให้เพื่อนสาวอีกคนเงยหน้าขึ้นมองคนข้าง ๆ ด้วยสายตาแปลกใจ
ยัยเว นี่หล่อนยังไม่เบื่อเพลงนี้อีกหรือไง
ไม่ หญิงสาวเอามือเท้าคาง ฟังเพลงที่ได้ยิน ด้วยสีหน้าและดวงตาเศร้าสร้อยจนเพื่อนสาวได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
ชั้นเห็นหล่อนฟังจนซีดีมันแทบจะเสื่อมแล้วมั้ง แล้วนี่ใครอุตริขอเพลงนี้แต่เช้าวะ น่าเตะชะมัด เดี๋ยวหล่อนก็ร้องไห้อีก เพื่อนสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่
ไม่เป็นไรหรอก เราไม่ร้องแล้ว เวหรือ เวณิกของเพื่อนสาว บอกด้วยรอยยิ้มเศร้า ๆ
....ก็ใช่สินะ ฟังเพลงนี้กี่ครั้ง กี่ครั้ง มันทำก็เหมือนยิ่งตอกยิ่งย้ำให้หัวใจเจ็บปวด.....
....พี่เชน คนที่เพียงแค่นึกถึงหัวใจก็ปวดร้าว เพียงแค่หายใจเข้า ออก ก็รู้สึกแปลบแปลบในหัวใจพิกล...
เพื่อนเว เหรอ ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีคล้ำ หน้าคมเข้ม ในชุดนักศึกษาทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับหญิงสาว เธอเงยหน้ามองตามสายตาของชายหนุ่มตรงหน้าไป ก็พบกับร่างสูงโปร่งได้สัดส่วนในชุดนักศึกษา ลุกเดินจากโต๊ะไป โดยมีเขาเข้ามาทรุดนั่งแทนที่ เวณิกรั้งสายตากลับมามองคนตรงหน้า ก่อนถามว่า
ค่ะ พี่เชนรู้จัก มี่ด้วยเหรอ เธอย้อนถามเขา แต่ดูเหมือนว่าจุดสนใจของชายหนุ่มจะยังไม่ลับตา เขาจึงยังมองอยู่เช่นเดิม หญิงสาวทำได้แต่เพียงปิดสมุดจดงานตรงหน้าเงียบ ๆ
น่ารักดี ติดต่อให้พี่หน่อยสิ เขาพูดโดยสายตายังไม่ละจากเพื่อนสาวของเธอที่เดินจากไป
....... ได้ค่ะ...เว ขอตัวก่อนนะคะ แล้วหญิงสาวก็คว้าหนังสือบนโต๊ะขึ้นมาถือไว้ ก่อนมลุกเดินจากไป ท่ามกลางสายตางุนงง ของพี่รหัสหนุ่มหน้าเข้มที่นั่งอยู่
เวณิก พยายามอย่างที่สุดจะกลั้นก้อนสะอื้นที่มันตีตัวขึ้นมาจนแทบจะล้นทะลักออกมาจากลำคอ ดวงตาพร่าพรายไปด้วยน้ำร้อน ๆ ที่เอ่อล้นอยู่ที่ขอบตา
พี่คเชนทร์เป็นพี่รหัส ของเธอ เป็นคนคอยดูแลเธอมาตลอดสามปี ที่เรียนอยู่ที่นี่ และก็เป็นสามปีเช่นกันที่ ความผูกพันระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องกลายเป็นความรู้สึกที่มากเกินกว่าที่มันควรจะเป็น และคนที่รู้สึกเช่นนั้นก็คือเธอ ส่วนพี่คเชนทร์ ก็ยังเป็นพี่คเชนทร์ที่ไม่รับรู้อะไร และไม่เคยเห็นอะไรในสิ่งที่เธอพยายามทำเพื่อเขา
จนกระทั่งวันนี้ วันที่เธอไม่อาจจะเก็บทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับความรู้สึกของตัวเองได้อีกแล้ว ความรู้สึกมันเอ่อล้น เหมือนแก้วน้ำที่เทน้ำลงไปจนเต็มล้น แต่ดูเหมือนว่า พี่คเชนทร์จะไม่รู้สึกถึงมันแม้เพียงสักนิด
.....ไม่ได้ขอให้เธอมารัก ไม่เคยขอให้เธอห่วงใยแค่อยากรู้เรื่องที่ค้างในใจ อยากๆจะถามเธอ
ถ้าคนอย่างฉันตายจากไป เธอเศร้าใจหรือเปล่า หนึ่งคนที่ข้างเธอยามเหงา มันมีค่าสักแค่ไหน...
สองเท้าพาเธอเดินมายังต้นจามจุรีใหญ่ริมสระน้ำหลัง ตึกเรียน หากแต่เสียงเพลงเบา ๆ ที่ได้ยิน ยิ่งทำให้ความรู้สึกของเธอย่ำแย่ไปอีก น้ำตาที่เคยอยู่แค่ขอบตามันก็ร่วงพรูลงมา เวณิกพยายามกลั้นสะอื้นเพราะไม่ให้ใครได้ยิน แต่ภาพในอดีตถูกฉายซ้ำราวกับว่าจะตอกย้ำความรู้สึกให้ยับเยินไปกว่าที่กำลังเป็น
จากคุณ :
เปียร์รุส
- [
19 ก.ย. 48 20:35:20
]